
อยู่ใกล้กันจนอาจไม่ทันสังเกตว่า Proton Iriz EV Prototype ที่นำไปพัฒนาในเกาหลีใต้เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วไปไกลแค่ไหน จนกระทั่งล่าสุดมันได้ปรากฏตัวอีกครั้งที่งาน 2015 International Greentech & Eco Products Exhibition and Conference Malaysiaหรือ IGEM ซึ่งใกล้ความเป็นจริงแล้ว
งานออกแบบภายนอกของ Proton Iriz EV นั้นแทบไม่มีความแตกต่างจาก Iriz รุ่นปกติที่จำหน่ายในมาเลเซีย ซึ่งในคันที่นำมาจัดแสดงมีเพียงการตกแต่งด้วยสติ๊กเกอร์สีน้ำเงิน-ฟ้า เพื่อสื่อถึงความเป็นรถพลังงานสะอาดที่กันชนหน้า ด้านข้าง โดยส่วนของด้านหลังบริเวณฝาท้ายใช้สีดำทั้งบานคาดด้วยแถบเส้นสีฟ้า-น้ำเงิน ชวนให้นึกถึง BMW i3 อยู่บ้าง

อย่างไรก็ตามการตกแต่งภายนอกของ Proton Iriz EV นั้นอาจไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่น่าสนใจเท่าขุมพลังแบบมอเตอร์ซิงโครนัสชนิดแม่เหล็กถาวร ที่ให้กำลังสูงสุด 155 แรงม้า และแรงบิด 360 นิวตันเมตร ที่พัฒนาโดย LG ร่วมกับแบตเตอรี่แบบ Lithium-ion Polymer ที่ทำให้มันมีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร ด้วยเวลาที่ต่ำกว่า 9 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 150 กิโลเมตร/ ชั่วโมง

สำหรับรายละเอียดส่วนอื่น ๆ จากตารางข้อมูลคือ รองรับสำหรับการประจุไฟฟ้าจากไฟกระแสตรงแบบเติมเร็วได้กำลังสูงสุด 50 กิโลวัตต์ และกระแสสลับแบบเติมช้าที่ 6.6 กิโลวัตต์ นอกจากนี้มันยังใช้ชุดเกียร์แบบจังหวะเดียวซึ่งใช้อัตราทด 7.23 เรโช และมันสามารถชาร์จไฟที่เหลืออยู่ในแบตเตอรี่ 40% ให้เต็มได้ภายใน 15 นาที ด้วยการชาร์จแบบเร็ว และใช้เวลา 4 ชั่วโมง สำหรับจุดชาร์จไฟสาธารณะที่มีความเร็วปานกลาง ซึ่งถ้าชาร์จจากปลั๊ก 3 ตาทั่วไปก็ต้องรอไป 7 ชั่วโมง
ก่อนหน้านี้ทาง Proton Iriz EV เคยออกมาบอกไว้ว่ามันจะมีระยะทางวิ่งได้ไกลถึง 240 กิโลเมตร ซึ่งจะมากกว่า Nissan Leaf ที่ทำได้เพียง 200 กิโลเมตร โดยล่าสุดได้ให้ตัวเลขใหม่ที่น่าทึ่งกว่าเดิมด้วยระยะทางวิ่งไกลถึง 300 กิโลเมตร มันเป็นอะไรที่ฟังดูน่าประทับใจมากเมื่อดูจากน้ำหนักตัวรถ 1,380 กิโลกรัม ซึ่งหนักกว่า Proton Iriz 1.6 Premuim CVT ถึง 195 กิโลกรัม

ภายในห้องโดยสารของ Proton Iriz EV ไม่ได้ถูกเบียดเบียนพื้นที่จากแบตเตอรี่ด้วยการติดตั้งมันไว้ที่พื้นรถและยังสามารถวางยางอะไหล่ไว้ที่เก็บสัมภาระด้านท้ายได้ตามปกติ ส่วนของคันเกียร์นั้นก็ยกมาจาก Toyota Prius เจเนอเรชั่นที่ 3 กันเสียเลย มาตรวัดเป็นแบบดิจิตอลแสดงความเร็ว, แสดงสถานะการชาร์จไฟแบตเตอรี่, ปริมาณพลังงานที่ใช้/ ปริมาณไฟที่ชาร์จกลับมายังแบตเตอรี่ขณะเบรก รวมไปถึงอุณหภูมิของแบตเตอรี่

มาถึงตรงนี้สิ่งที่ Proton Iriz EV ทำได้คงไม่ใช่แค่เพียงระยะทางวิ่ง 300 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง เท่านั้น แต่มันยังแสดงให้เห็นว่า Proton น่าจะวิ่งต่อไปได้อีกไกลจนถึงอนาคตเลยทีเดียว ส่วนเมืองไทยเราจะไปทางไหนดีครับ









ภาพจาก paultan