
10 อันดับรถเร็วและแรงที่สุดด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ จากการจัดอันดับของเว็บไซต์ carophileที่บอกเลยว่าแต่ละคันนั้นไม่ธรรมดาโดยไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องยนต์ใหญ่โต อาศัยเวทมนตร์จากเทอร์โบกับปรับน้ำหนักรวมรถให้เบาลงเท่านั้น


- ความเร็วสูงสุด : 248 กิโลเมตร/ ชั่วโมง
- 0-100 กิโลเมตร/ ชั่วโมง : 6.3 วินาที
Ford Focust ST เข้ามาครองในอันดับ 10 ด้วยความแรงจาก เครื่องยนต์ 4 สูบ 16V DOCH เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์จับคู่กับเกียร์ธรรมดาแบบ 6 จังหวะ ให้พละกำลัง 252 แรงม้า สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร ภายในเวลา 6.3 วินาที และควอเตอร์ไมล์ (0-400 เมตร) ด้วยเวลา 14.9 วินาที โดยทำความเร็วสูงสุดที่ 248 กิโลเมตร/ ชั่วโมง ภายในเวลา 38.7 วินาที
นอกจากเครื่องยนต์ที่เรี่ยวแรงดีแล้ว Ford Focus ST ยังขับได้ง่ายในทุกความเร็ว จากการใช้ซับเฟรมและสปริงที่แข็งกว่าเดิม ทำให้การขับขี่เนียนแน่น มั่นคง สามารถเข้าโค้งได้ดีขึ้นด้วยการช่วยเหลือของระบบพวงมาลัยไฟฟ้า


- ความเร็วสูงสุด : 250 กิโลเมตร/ ชั่วโมง
- 0-100 กิโลเมตร/ ชั่วโมง : 6.3 วินาที
Mercedes-Benz SLK250 มาพร้อมกับพละกำลัง 201 แรงม้า จากเครื่องยนต์ 4 สูบ 16V DOCH เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ที่มีทั้งเกียร์ธรรมดาแบบ 6 จังหวะ และอัตโนมัติ 7 จังหวะให้เลือกใช้ สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ ชั่วโมง ได้ภายใน 6.3 วินาที
ในขณะที่ทำความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ ชั่วโมง ภายใน 33 วินาที
นอกจากนี้ Mercedse-Benz SLK250 ยังมีแพ็กเกจ Dynamic Handling ให้เลือกติดตั้ง ซึ่งประกอบด้วยแอ็คทีฟแดมเปอร์ ที่มีโหมดการขับขี่แบบ Sport และ Comfort ให้ใช้งาน ส่งผลให้ Mercedes-Benz SLK250 ตอบสนองต่อการบังคับควบคุมในโค้งและรับดูดซับแรงสะเทือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากน้ำหนักของพวงมาลัยและแชสซีส์ที่ถูกเซตมาอย่างลงตัวทำให้มันเป็นรถที่เข้าโค้งได้ง่ายตราบเท่าที่อยู่ในลิมิตของมัน และในกรณีฉุกเฉินคุณสามารถหยุดเจ้า Mercedes-Benz SLK250 จากความเร็ว 112 กิโลเมตร/ ชั่วโมง ให้หยุดนิ่งได้ภายในระยะทาง 48.7 เมตร


- ความเร็วสูงสุด : 250 กิโลเมตร/ ชั่วโมง
- 0-100 กิโลเมตร/ ชั่วโมง : 5.7 วินาที
รถสปอร์ตเปิดประทุน 2 ที่นั่งจาก BMW คันนี้ ทำความเร็วสูงสุดได้ 249 กิโลเมตร/ ชั่วโมง ด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ 16VDOCH เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ
BMW Z4 สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ ชั่วโมง ได้ภายใน 5.7 วินาที และทำความเร็วแตะระดับ 250 กิโลเมตร/ ชั่วโมงใน 31 วินาที ด้วยม้าทั้งหมด 240 ตัว และแรงบิด 352 นิวตันเมตร ซึ่ง BMW ได้วางเครื่องยนต์ไว้เหนือเพลาหน้าเล็กน้อยทำให้มีการกระจายน้ำหนักได้ดีและส่งผลต่อการควบคุมภายใต้รูปทรงที่มีฝากระโปรงหน้ายาว โฉบเฉี่ยว ดุดัน แฝงไว้ด้วยการขับขี่ที่สนุกสนานพร้อมที่จะพาคุณทะยานออกไปสู่ท้องถนนได้ทุกเมื่อ


- ความเร็วสูงสุด : 250 กิโลเมตร/ ชั่วโมง
- 0-100 กิโลเมตร/ ชั่วโมง : 5.2 วินาที
Audi TTS เปรียบเสมือนจรวดขนาดจิ๋วจากเยอรมนีที่พร้อมจะแซงหน้ารถที่มีเครื่องขนาดใหญ่และพละกำลังสูงกว่าได้ทุกเมื่อด้วยเครื่องยนต์ขนาด 4 สูบ 16V DOCH เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ โดยผลิตกำลังได้ถึง 292 แรงม้า
และแรงบิด 350 นิวตันเมตร สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ ชั่วโมง ได้ภายใน 5.2 วินาที และผ่าน 160 กิโลเมตร/ ชั่วโมงด้วยเวลาเพียง 13 วินาที
Audi TTS ใช้เกียร์อัตโนมัติแบบคลัตช์คู่ รหัส DQ250 จากเครือ Volkswagen Group ที่ให้การตอบสนองเรียบลื่นและรวดเร็วร่วมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งทำให้มันมีการทรงตัวที่ยอดเยี่ยมทั้งทางตรงหรือแม้แต่ในโค้ง


- ความเร็วสูงสุด : 250 กิโลเมตร/ ชั่วโมง
- 0-100 กิโลเมตร/ ชั่วโมง : 4.5 วินาที
Volksawagen Golf R รถหน้าตาบ้าน ๆ ที่ดูธรรมดาแต่ไม่ธรรมดาจาก Volkswagen นี้ติดตั้งเครื่องยนต์ 4 สูบ 16V DOCH พ่วงเทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ มีพละกำลัง 292 แรงม้า และแรงบิด 380 นิวตันเมตร กับอัตราเร่ง 0-96 กิโลเมตร/ ชั่วโมงภายใน 4.5 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 250 กิโลเมตร/ ชั่วโมง ด้วยเวลา 29.5 วินาที
Golf R มีเกียร์อัตโนมัติแบบคลัตช์คู่ 6 จังหวะ ที่สามารถทำงานได้ดีเมื่อเปลี่ยนจังหวะด้วยมือแบบเกียร์ธรรมดาเมื่อต้องการสัมผัสถึงพลังของ Volkswagn Golf R ซึ่งในการใช้งานแบบอัตโนมัติดูเหมือนว่ามันอาจสูญเสียกำลังเล็กน้อยในการเลือกจังหวะให้เหมาะสมกับสถานการณ์


- ความเร็วสูงสุด : 250 กิโลเมตร/ ชั่วโมง
- 0-100 กิโลเมตร/ ชั่วโมง : 4.3 วินาที
จิ๋วแต่แจ๋ว น่าจะเป็นนิยามของ Audi S3 ที่มีขนาดกะทัดรัด ซึ่งฝากระโปรงและบังโคลนหน้าทำจากอะลูมิเนียม ทำให้มันเป็นรถ 4 ประตูที่มีน้ำหนักเบามาก ๆ
Audi S3 ใช้เครื่องยนต์แบบ 4 สูบ 16V DOCH เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ ที่ให้กำลัง 292 แรงม้า แรงบิด 380 นิวตันเมตร สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ ชั่วโมง ใน 4.3 วินาที และทำความเร็วสูงสุดถึง 250 กิโลเมตร/ ชั่วโมง ได้อย่างกระตือรือร้น ทั้งนี้ Audi S3 จะมีช่วงล่างที่ต่ำกว่ารุ่นปกติและใส่ยางสมรรถนะสูงพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เพื่อการควบคุมที่หนึบแน่นในโค้ง


- ความเร็วสูงสุด : 252 กิโลเมตร/ ชั่วโมง
- 0-100 กิโลเมตร/ ชั่วโมง : 4.8 วินาที
หลายคนน่าจะคาดไว้แล้วว่า Subaru WRX STi ต้องติดอันดับรถเครื่องยนต์ 4 สูบ ที่เร็วที่สุด ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเพราะมันเกิดมาเพื่อเป็นรถแข่งแรลลี่มาตั้งแต่แรก และนอกจากในสนามแข่งแล้วมันมักจะไปปรากฏตัวอยู่ในภาพยนตร์ประเภทรถซิ่งทั้งหลายแหล่ด้วย
Subaru WRX STi ได้รับการยกย่องในด้านความเร็วนั้นใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 16V DOCH เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ที่ให้พละกำลัง 305 แรงม้า พร้อมแรงบิด 393 นิวตันเมตร สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ ชั่วโมง ได้ภายใน 4.8 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ 252 กิโลเมตร/ ชั่วโมง ซึ่งมีเพียงเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะให้ใช้เท่านั้น
ช่วงล่างถูกปรับจูนเพื่อความสามารถในการเข้าโค้งแบบหนัก ๆ ได้ ร่วมกับระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ ที่จะพาคุณไปทุกหนทุกแห่งได้อย่างมั่นใจในทุกสภาวะอากาศ


- ความเร็วสูงสุด : 254 กิโลเมตร/ ชั่วโมง
- 0-100 กิโลเมตร/ ชั่วโมง : 4.9 วินาที
Mitsubishi Lancer Evolution X จะเป็นสายพันธุ์แรงตัวสุดท้ายสำหรับตระกูล Lancer ในฐานะรถสปอร์ต 4 ประตูสมรรถนะสูงด้วยพละกำลัง 291 แรงม้า และแรงบิด 406 นิวตันเมตร จากเครื่องยนต์ 4 สูบ 16V DOCH เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ที่พร้อมข่มขวัญคู่ต่อสู้ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร ใน 4.9 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 254 กิโลเมตร/ ชั่วโมง
ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และการปรับเซตช่วงล่างมาเป็นอย่างดีทำให้มันวิ่งผ่านโค้งได้อย่างง่ายดาย เช่นเดียวกับเกียร์ธรรมดาถูกแทนที่ด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบคลัตช์คู่ 6 จังหวะ พร้อมระบบช่วยเหลือการออกตัว (Launch Control)


- ความเร็วสูงสุด : 254 กิโลเมตร/ ชั่วโมง
- 0-100 กิโลเมตร/ ชั่วโมง : 4.2 วินาที
มันคือ Mercedes-Benz CLA รุ่นธรรมดา 4 ประตู ที่ถูกฉีดสเตียรอยด์ (ของเสริมพลัง) ด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ 16V DOCH เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบคลัตช์คู่ 7 จังหวะ พร้อมโหมดควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ได้แบบเกียร์ธรรมดาที่มีพละกำลังสูงถึง 355 แรงม้า พร้อมแรงบิดมหาศาล 450 นิวตันเมตร
Mercedes-Benz CLA AMG สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ ชั่วโมง ได้ภายใน 4.2 วินาที และวิ่งผ่านความเร็ว 193 กิโลเมตร/ ชั่วโมงด้วยเวลาแค่ 15 วินาที จนไปถึงความเร็วสูงสุดที่ 254 กิโลเมตร/ ชั่วโมง


- ความเร็วสูงสุด : 257 กิโลเมตร/ ชั่วโมง
- 0-96 กิโลเมตร/ ชั่วโมง : 4.3 วินาที
ด้วยดีไซน์ภายนอกที่ดูเป็นรถสปอร์ตชั้นสูงจากอิตาลีทำให้ Alfa Romeo 4C นั้นโดดเด่นไม่ธรรมดาอยู่แล้ว แต่ยังติดตั้งเครื่องยนต์แบบ 4 สูบ 16V DOCH เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ไว้กลางลำ ขับเคลื่อนล้อหลัง ที่มีพละกำลังเพียง 237 แรงม้า กับแรงบิด 350 นิวตันเมตร
แม้ว่าเป็นตัวเลขไม่มากนักแต่ด้วยตัวรถที่มีน้ำหนักเพียง 1,133 กิโลกรัม ทำให้มีอัตราเฉลี่ยของแรงม้าต่อน้ำหนักที่ดีส่งผลให้ Alfa Romeo 4C ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ ชั่วโมงภาย ในระยะเวลาเพียง 4.3 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 257 กิโลเมตร/ ชั่วโมง ด้วยเกียร์ธรรมดาแบบ 6 จังหวะ ซึ่งเป็นออปชั่นที่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม
อย่างไรก็ดีไม่ว่ารถยนต์เหล่านี้จะมีสมรรถนะการขับขี่หรือเทคโนโลยีที่ดีเลิศเพียงใดย่อมมีขีดจำกัด และสิ่งสำคัญที่สุดคือผู้ขับขี่ไม่ควรมองข้ามความปลอดภัยไม่ว่าจะอยู่บนรถที่ช้าหรือเร็วที่สุดในโลกก็ตาม
ภาพจาก carophile