เรียกได้ว่าตลาดมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ในประเทศไทยยังคงความร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง เพราะแต่ละค่ายผู้ผลิตต่างก็ขนเอาบิ๊กไบค์ทุกระดับมาทยอยเปิดตัวกันตลอดทั้งปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในงาน Bangkok International Motor Show2015 ก็เป็นอีกปีหนึ่งที่หลาย ๆ ค่ายเปิดตัวมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่กันอย่างคึกคัก รวมถึงยามาฮ่า (Yamaha) ที่ได้ใช้โอกาสในงานแสดงยานยนต์ครั้งใหญ่ของบ้านเรา เปิดตัวซูเปอร์ไบค์ระดับเรือธงรุ่นใหม่อย่าง ยามาฮ่า อาร์1 (Yamaha R1) รุ่นปี 2015 ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปลายปี 2014 ที่ผ่านมาให้คนไทยได้จับจองเป็นเจ้าของกันแล้ว
ซูเปอร์ไบค์ค่ายส้อม เสียงมีด้วยกัน 2 รุ่น ได้แก่ ยามาฮ่า อาร์1 (YamahaR1) และยามาฮ่า อาร์1เอ็ม (Yamaha R1M) โดยทั้งสองรุ่นจะมีดีไซน์และขนาดเหมือนกัน แต่มีรายละเอียดอุปกรณ์ที่แตกต่างกัน โดยด้านมิติรถยาว 2,055 มิลลิเมตร กว้าง 690 มิลลิเมตร สูง 1,150 มิลลิเมตร ความสูงเบาะ 860 มิลลิเมตร ฐานล้อกว้าง 1,405 มิลลิเมตร ส่วนน้ำหนักตัวรถอยู่ที่ 199 กิโลกรัม
Yamaha R1 ออกแบบเน้นความโฉบเฉี่ยวสมกับเป็นซูเปอร์ไบค์ระดับเรือธงของค่าย เริ่มตั้งแต่ไฟหน้า LED คู่ ขนาบข้างช่องรับลมและไฟเดย์ไลท์ LED เป็นเส้นสวยงามและแนบเนียนจนดูเหมือนรถแข่ง MotoGP ที่ไม่มีไฟหน้าเลยทีเดียว
แฟริ่งด้านข้างเน้นความปราดเปรียวด้วยจำนวนที่น้อยแต่พอดีกับการรีดลม ทั้งยังโชว์โครงสร้างของตัวรถที่สวยงามโดดเด่น อีกทั้งยังใส่ใจรายละเอียดอย่างดีด้วยการออกแบบถังน้ำมันให้มีรูปทรงเหมาะสมเสริมสมรรถนะการรีดลมได้เป็นอย่างดีทั้งยังสวมล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ยางหน้ามีขนาด 120/70 ส่วนยางหลังขนาด 190/70
ด้านท้ายสวยจบไม่ต้องเสริมเพิ่มเติมกับไฟท้าย LED แนวยาว ที่สวยงามลงตัวรับกับรูปทรงโฉบเฉี่ยวของตัวรถตลอดคันเป็นอย่างดี
ในส่วนของ Yamaha R1M จะเพิ่มความพิเศษกว่าด้วยแฟริ่งที่ทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ที่ให้ทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักเบากว่า อีกทั้งยังสวมยางหลังหนากว่าที่ 200/70 เหมาะกับการใช้งานในสนามแข่งมากกว่าเดิม
Yamaha R1 และ Yamaha R1M ยังชูจุดเด่นที่มาตรวัดหน้าจอสี TFT ขนาด 4.2 นิ้ว แสดงผลข้อมูลของตัวรถอย่างครบถ้วน และยังสามารถใช้ปรับแต่งค่าของระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่มีให้อย่างมากมายภายในรถได้ทันที
ด้านเครื่องยนต์ของทั้งสองรุ่นใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 998 ซีซี ซึ่งให้กำลังมากถึง 200 แรงม้า แรงบิด 112.4 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ส่วนระบบเบรกด้านหน้าเป็นดิสก์เบรกคู่ขนาด 320 มิลลิเมตร ด้านหลังเป็นดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 220 มิลลิเมตร พร้อมระบบเบรก ABS และระบบจัดการเบรกของยามาฮ่าที่ช่วยควบคุมการหยุดรถได้อย่างแม่นยำทั้งบนถนนและสนามแข่ง
ระบบกันสะเทือนด้านหน้าใช้โช้คอัพกลับหัวปรับแต่งสำหรับสนามแข่งจาก KYB ขนาด 43 มิลลิเมตร ส่วนด้านหลังเป็นโช้คอัพสปริงพร้อมสวิงอาร์มปรับตำแหน่งได้ โดยใน Yamaha R1M ด้านหลังจะใช้โช้คอัพพิเศษจาก Ohlins ที่มาพร้อมระบบปรับช่วงล่างแบบไฟฟ้า ทำงานคู่กับระบบควบคุมการขับขี่ของยามาฮ่า ช่วยปรับแต่งสมรรถนะของช่วงล่างได้อย่างหลากหลายและทันใจ
ด้านระบบช่วยการขับขี่ Yamaha R1 จัดระบบ Yamaha Ride Control หรือ YRC ที่รวมเอาทุกระบบที่จำเป็นเข้าด้วยกัน ทั้งระบบควบคุมการยึดเกาะถนน TCS ระบบป้องกันล้อหลังไถล SCS ระบบช่วยออกตัว LCS ระบบป้องกันล้อยก LIF ระบบช่วยเปลี่ยนเกียร์ QSS พร้อมโหมดการขับขี่แบบ Street และ Track ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ตรวจจับที่ล้อ เซ็นเซอร์จับการเคลื่อนไหว 6 ทิศทาง และคอมพิวเตอร์ CPU ที่คำนวณและสั่งการระบบต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วซึ่งทั้งหมดนี้สามารถตั้งค่าเป็นโหมดการขับขี่เฉพาะในแต่ละสถานการณ์ได้
ส่วน Yamaha R1M นอกจากจะมีระบบทั้งหมดนี้แล้ว ยังเพิ่มเติมด้วยระบบสื่อสาร CCU ที่ใช้สำหรับเก็บข้อมูลการขับขี่ในสนามแข่งอย่างแม่นยำทั้งตำแหน่ง การขับขี่ในสนาม รอบเครื่องยนต์ ความเร็วที่ใช้ ตำแหน่งเกียร์ และอื่น ๆ ซึ่งละเอียดพอ ๆ กับที่นักแข่งใช้กัน แถมระบบดังกล่าวยังเชื่อมต่อกับระบบ YRC เพื่อควบคุมและตั้งค่าจากระยะไกลได้ด้วย
นักบิดชาวไทยสามารถเป็น เจ้าของซูเปอร์ไบค์ระดับ 1,000 ซีซี รุ่นล่าสุดจากยามาฮ่าได้แล้ว โดย Yamaha R1 มีราคาอยู่ที่ 899,000 บาท ส่วน Yamha R1M ราคา 1,199,000 บาท ใครที่สนใจก็สอบถามได้ที่ตัวแทนจำหน่ายมอเตอร์ไซค์ยามาฮ่าทั่วประเทศได้เลยครับ