เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง เผย บริษัทญี่ปุ่นเตรียมหนีไปลงทุนผลิตรถใหม่ที่อินโดนีเซียแล้ว 1 รุ่น ส่วนอีกหลายรายอยู่ระหว่างการพิจารณา คาดว่าจะทำให้ยอดการส่งออก-นำเข้าผ่านท่าเรือเติบโตแค่ 3% จากเป้าหมายปกติ คือ 8%
วันนี้ (31 มกราคม 2557) เรือเอกสุทธินันท์ หัตถวงษ์ ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีแนวโน้มว่า นักลงทุนญี่ปุ่นจะย้ายฐานการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่จากประเทศไทยไปประเทศอินโดนีเซีย แล้ว 1 รุ่น เนื่องจากไม่มั่นใจสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองที่เกิดขึ้น และยังมีนักลงทุนอีกหลายรายที่อยู่ระหว่างการจับตามองสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อพิจารณาตัดสินใจว่าจะย้ายไปเพิ่มเติมหรือไม่
โดยเมื่อปลายปีที่แล้ว ตนได้เดินทางไปร่วมหารือกับนักลงทุนญี่ปุ่นเพื่อเชิญชวนให้มาลงทุนในไทย โดยเน้นถึงความพร้อมในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นแรงงาน และโครงสร้างพื้นฐาน จึงถือว่ามีการตอบรับดี แต่ล่าสุดพบว่ามีนักลงทุนบางรายที่ตัดสินใจย้ายโปรเจคท์ใหม่ไปที่อินโดนีเซียแล้ว
สำหรับอุตสาหกรรมที่น่าเป็นห่วงมากสุดในขณะนี้ คือ ยานยนต์ เพราะตามปกติรถยนต์รุ่นใหม่จะต้องมาผลิตที่ประเทศไทย แต่ขณะนี้หลายบริษัทได้เริ่มย้ายฐานไปประเทศอื่นแทน ซึ่งการลดลงของการลงทุนจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของท่าเรือแหลมฉบังโดยตรง เพราะหากการลงทุนลดลง เศรษฐกิจเติบโตน้อย ก็จะส่งผลให้การส่งออกสินค้าลดลงด้วย
เรือเอกสุทธินันท์ กล่าวอีกว่า การดำเนินงานในปีนี้ตั้งเป้าการนำเข้าและส่งออกสินค้าผ่านทางท่าเรือแหลมฉบังเติบโตกว่าปีที่แล้ว ประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์ หรือหากได้ 5 เปอร์เซ็นต์ จะดีมาก แม้ว่าตัวเลขการเติบโตดังกล่าวจะต่ำกว่าปกติ ซึ่งอยู่ที่ 8 เปอร์เซ็นต์ต่อปีก็ตาม ส่วนในปี 2556 ที่ผ่านมา มีการเติบโตประมาณ 2.5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกตกต่ำ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
