วิธีการล้างห้องเครื่องรถยนต์มีขั้นตอนอย่างไร มาดูวิธีทำความสะอาดห้องเครื่องรถยนต์ให้เงางามเหมือนใหม่ พร้อมเหตุผลทำไมถึงต้องล้างทำความสะอาดห้องเครื่อง มาดูกัน
ล้างห้องเครื่องรถยนต์ ทำไม ?
ในห้องเครื่องรถยนต์เมื่อมีการใช้งานไปสักระยะเวลาหนึ่งจะมีคราบสกปรกที่เกิดจากเขม่าของไอเสีย น้ำมันเครื่อง น้ำมันหล่อลื่น น้ำมันเกียร์ หรือน้ำมันเบรก ที่อาจรั่ว ซึม หรือกระเด็น จากการเสื่อมสภาพของประเก็นข้อต่อ หรือจากขั้นตอนการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันต่าง ๆ หากปล่อยทิ้งไว้คราบเขม่าและฝุ่นต่าง ๆ จะจับตัวกันหนาขึ้น ส่งผลให้การระบายความร้อนของเครื่องยนต์ทำได้ไม่ดี นอกจากนี้หากสายไฟ ท่อยางต่าง ๆ เกิดชำรุดขึ้นมาจะทำให้เราสังเกตเห็นได้ยาก ดังนั้นการล้างห้องเครื่องรถยนต์นอกจากจะช่วยให้เกิดความสะอาด เงางามแล้ว ยังช่วยให้สังเกตถึงการชำรุดของอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ดีขึ้นอีกด้วย
ล้างห้องเครื่องรถยนต์ ต้องใช้อุปกรณ์อะไรบ้าง ?
1. แชมพูทำความสะอาด หรือน้ำยาล้างคราบน้ำมันเครื่องยนต์
2. น้ำยาเคลือบเงา
3. ฟองน้ำล้างรถและผ้าสะอาด
4. แปรงสีฟันเก่า หรือแปรงทำความสะอาดขนาดเล็ก
5. โบลเวอร์เป่าลม
6. ประแจขันนอต (สำหรับถอดขั้วแบตเตอรี่)
7. ฟิล์มสำหรับถนอมอาหาร หรือถุงพลาสติก
การล้างห้องเครื่องรถยนต์นั้นไม่ได้หมายความว่าเพียงแค่เปิดฝากระโปรงแล้วจะสามารถฉีดน้ำลงไปในห้องเครื่องได้เลย เพราะอาจจะสร้างความเสียหายให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าได้ เราลองมาดูขั้นตอนในเบื้องต้นกันว่าต้องทำอย่างไร
1. ดับเครื่องยนต์ให้เรียบร้อย หากเครื่องยังร้อนอยู่ควรทิ้งช่วงไว้สักพักให้อุณหภูมิลดลงก่อน จากนั้นทำการถอดขั้วแบตเตอรี่
2. นำฟิล์มถนอมอาหารหรือถุงพลาสติกมาห่อหุ้มอุปกรณ์ที่อาจเสียหายจากการโดนน้ำ เช่น ระบบไฟฟ้า ระบบจุดระเบิด จานจ่าย คอยล์ สายหัวเทียน ไดชาร์จ ขั้วปลั๊กไฟ ขั้วแบตเตอรี่ กล่องฟิวส์ และระบบกรองเปลือยต่าง ๆ
3. ใช้สายยางฉีดน้ำเบา ๆ ให้ทั่วเพื่อเป็นการล้างคราบเขม่า ฝุ่น หรือสิ่งสกปรก และไม่ควรฉีดน้ำโดยตรงไปยังบริเวณที่ห่อหุ้มพลาสติกไว้
4. ผสมน้ำยาทำความสะอาดห้องเครื่องหรือแชมพู และใช้ฟองน้ำเช็ดทำความสะอาด ส่วนซอกมุมที่เข้าถึงยากให้ใช้แปรงสีฟันหรือแปรงขนาดเล็กขัดทำความสะอาด
5. ล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง
6. ซับน้ำด้วยผ้าแห้ง และใช้โบลเวอร์เป่าไล่ลมให้ทั่วบริเวณจนแห้งสนิท
7. ลงน้ำยาเคลือบเงาบริเวณชิ้นส่วนที่เป็นพลาสติก สายไฟ นอกจากจะได้ความเงางามเหมือนใหม่ ยังช่วยถนอมชิ้นส่วนเหล่านี้ไม่ให้ปริแตกหรือเสื่อมสภาพได้ง่าย และช่วยป้องกันสนิมได้อีกด้วย
8. ต่อขั้วแบตเตอรี่ให้เรียบร้อย และทดลองสตาร์ตรถเพื่อตรวจเช็กความผิดปกติต่าง ๆ
ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าขั้นตอนในการล้างห้องเครื่องรถยนต์นั้นไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด เราสามารถทำได้เองง่าย ๆ โดยไม่ต้องไปร้านคาร์แคร์ แค่เพียงรู้ขั้นตอนและวิธีการที่ถูกต้อง ชิ้นส่วนไหนโดนน้ำได้หรือไม่ได้อย่างเช่น ระบบไฟฟ้า ระบบจุดระเบิด จานจ่าย คอยล์ สายหัวเทียน ไดชาร์จ ขั้วปลั๊กไฟ ขั้วแบตเตอรี่ และกล่องฟิวส์ ที่ควรป้องกันเป็นพิเศษ เท่านี้เราก็สามารถทำความสะอาดห้องเครื่องของรถเราให้ดูใหม่ เงางาม อยู่เสมอได้แล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก : caranddriver.com, supercheapauto.com.au