Nio EP9 ไฮเปอร์คาร์พลังไฟฟ้าที่เคลมว่าเร็วสุดในโลก ด้วยเทคโนโลยีจากสนามแข่ง Fomula E ให้กำลังสูงสุด 1 เมกะวัตต์ หรือ 1,360 แรงม้า และแรงบิดมากมายมหาศาลกว่า 6,000 นิวตันเมตร อีกหนึ่งความมหัศจรรย์ใหม่แห่งยานยนต์ยุคหน้า Nio EP9 คือชื่ออันแสนเรียบง่ายไม่คุ้นหูของรถไฟฟ้าที่มีหน้าตาเหมือนรถแข่งคันนี้แต่อาจทำให้ใครหลายคนหยุดหายใจได้ในทันทีที่เหยียบคันเร่งและพุ่งออกไปพร้อมกับความเงียบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังขับเคลื่อนสูงสุด 1 เมกกะวัตต์ หรือเทียบเท่า 1,360 แรงม้า พร้อมแรงบิดมหาศาล 6,334 นิวตันเมตร
ทะยานผ่านหลัก 200 กม./ชม. ได้ภายใน 7 วินาที และวิ่งได้ด้วยความเร็วสูงสุดพอ ๆ กับพายุทอร์นาโดระดับ F3 ที่ 313 กม./ชม. และที่ช็อกยิ่งกว่าคือไฮเปอร์คาร์คันนี้จริง ๆ แล้วมีสัญชาติจีน
ซึ่งที่กล่าวมาข้างต้นนั้นนับว่าเป็นเพียงความน่าอัศจรรย์แค่ส่วนหนึ่งของ Nio EP9 ซึ่งถูกพัฒนาให้กลายเป็นไฮเปอร์คาร์พลังไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีจากสนามแข่ง Formula E และ Nio ก็เป็นหนึ่งในทีมที่ลงแข่งขัน Fomular E ภายใต้ชื่อ China Racing NEXTEV TCR Formular E
และได้เป็นแชมป์ Formula E ซีซัน 2014-2015 ทันที ส่วนซีซั่นล่าสุด (2016-2017) Nio ลงแข่งภายใต้ชื่อ NextEV Nio เพื่อต่อสู้กับทีมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Renault, Citroen, Jaguar, ABT(Audi), Faraday, Venturi และ Mahindra เป็นต้น
สำหรับดีไซน์ภายนอกของ Nio EP9 แม้ว่าโดยรวมจะดูเหมือนไฮเปอร์คาร์ทั่ว ๆ ไป แต่ความมหัศจรรย์นั้นถือว่าอยู่ในระดับกำแพงเมืองจีนเลยทีเดียว เพราะถูกออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ มีโครงแชสซีส์น้ำหนักเบาล้อมรอบเคบินทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ทนต่อการบิดตัวระดับ 30,000 Nm/deg
ใต้ท้องรถปิดเรียบพร้อมครีบรีดอากาศให้ไหลผ่านอย่างเป็นระเบียบออกไปท้ายรถ สามารถบังคับควบคุมได้อย่างมั่นคงในขณะที่ตัวรถเคลื่อนที่ด้วยความเร่งของวัตถุและเกิดแรงโน้มถ่วงในระดับ 3G ให้ประสบการณ์ใกล้เคียงกับนักบินเครื่องบินขับไล่ F-22 Fighter รวมถึงสร้างแรงกดตัวรถได้มหาศาลที่ 24,019 นิวตัน
นอกจากมอเตอร์ 2 ตัว ที่ติดตั้งไว้กับเพลาด้านหน้าและด้านท้ายซึ่งให้กำลังขับเคลื่อน 1 เมกะวัตต์ หรือเทียบเท่า 1,360 แรงม้า พร้อมแรงบิดมากมายมหาศาล 6,334 นิวตันเมตร มาจ่อรอที่ล้อตั้งแต่ 0-7,500 รอบ/นาทีแล้ว ยังมีระบบแบตเตอรี่แรงดันสูง 777 โวลต์ แบบถอดเปลี่ยนได้ภายใน 8 นาที ซึ่งติดตั้งไว้ข้างตัวรถด้านล่างทั้งสองฝั่ง อีกทั้งยังสามารถชาร์จไฟแบบรวดเร็ว (Rapid Charging) ได้เพียง 45 นาที โดย Nio เคลมว่า EP9 นั้นเป็นไฮเปอร์คาร์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเร็วที่สุดในโลกแห่งสนามนูร์เบอร์กริงหรือ “Green Hell” ที่ยาว 20.8 กม. ด้วยเวลา 7 นาที 5.12 วินาที
ด้วยความแรงระดับไฮเปอร์คาร์ระบบรองรับของ Nio EP9 จึงใช้โช้คอัพอินบอร์ดแบบ 4 ทาง และ hydraulic third actuator แบบปรับระดับได้ โดยจะทำงานผ่านลูกสูบคันชักอ้อม ๆ ไม่ได้กระทำตรงแกนดุมล้อซึ่งเป็นแบบเดียวกับรถแข่ง F1 ช่วยให้การทรงตัวในโค้งด้วยความเร็วสูงและสามารถรับแรงโน้มถ่วงระดับ 3G ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ล้ออัลลอยสอดไส้คาร์บอน (Carbon Inlays) ใช้ขนาด 19 นิ้ว ที่ด้านหน้าและ 21 นิ้วที่ด้านหลังควบคู่กับยางที่ดีไซน์พิเศษสำหรับ Nio EP9 ให้สามารถวิ่งได้ทั้งบนสภาพถนนเปียกและแห้ง เช่นเดียวกับระบบเบรกที่ออกแบบมาเฉพาะโดยพาร์ทเนอร์อย่าง Alcon ให้หยุดแรงบิดได้ดีเทียบเท่ารถแข่งกรุ๊ป GT3
สุดท้ายคือส่วนของภายในห้องโดยสาร Nio EP9 ได้รับการออกแบบไว้อย่างเรียบง่ายไร้ความหรูหราและใกล้เคียงรถแข่งที่สุด ซึ่งอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีทันสมัยพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบดิจิตอลทั้งหมด 5 จอ ตามจุดต่าง ๆ ทั่วแผงหน้าปัดและพวงมาลัยเพื่อแจ้งข้อมูลสำคัญแก่ผู้ขับขี่ เช่น ความเร็ว แรงกระทำที่เกิดกับตัวรถ เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมเจ้าไฮเปอร์คาร์พลังไฟฟ้าได้อย่างแม่นยำมากที่สุด
งานนี้เห็นที Tesla อาจจะต้องมีหนาวกันบ้าง เพราะ Startup หน้าใหม่หลายรายต่างหมายที่จะเข้ายึดครอบครองพื้นที่ใหม่ในโลกยานยนต์ไร้มลพิษกันแทบทั้งนั้น และดูท่าว่าแต่ละรายก็ไม่ค่อยธรรมดาเอามาก ๆ เสียด้วย
ภาพจาก
nio