เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม 2559 Honda ได้เผยโฉมรถอเนกประสงค์แบบ SUV ขายดีที่สุดในอเมริการุ่นใหม่ หรือ All-New Honda CR-V 2017 เจเนอเรชั่นที่ 5 อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งงานนี้ Honda ตั้งใจเปลี่ยนทั้งหมด ตั้งแต่งานดีไซน์ภายนอก-ภายใน รวมถึงรื้องานวิศวกรรมใหม่เพื่อให้เป็น SUV ขนาดคอมแพกต์ดีที่สุดในตลาดเลยทีเดียว แต่จะทำได้เหมือนกับ Honda Civic 2017 เจเนเรชั่นที่ 10 หรือไม่เรื่องนี้ต้องติดตาม
สำหรับงานออกแบบภายนอกของ Honda CR-V 2017 ถ้ามองผ่าน ๆ แบบไม่ได้สนใจในรายละเอียดนักคงเห็นว่าก็ไม่ได้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเหมือนที่ Honda ทำกับ Honda Civic 2017 เจเนอเรชั่นที่ 10 เท่าไรนักซึ่งก็จริง แต่ถ้ามองในรายละเอียด และเชิงวิศวกรรมแล้วจะเห็นว่า Honda CR-V 2017 ได้รับการออกแบบใหม่หมดจริง ๆ ตั้งแต่ด้านหน้ามีความก้าวร้าวขึ้น ตัวถังล่ำสันเน้นลอนกล้ามชัดเจน ฝากระโปรงหน้ายื่นยาวกว่าเดิมซึ่งเป็นสัดส่วนที่ทำให้รถดูสง่ากว่ารถหน้าสั้น รวมไปถึงท่ายืน (Stance) แสดงถึงความหนักแน่นมั่นคงด้วยฐานล้อยาวกว่าเดิมโอเว่อร์แฮงก์หลังสั้นเปรียบเสมือนนักมวยมักจะยืนกางขาในท่าเตรียมพร้อมต่อสู้ และถ้าจะสรุปว่า Honda CR-V 2017 มีบุคลิกแมนขึ้นชัดเจนก็คงไม่ผิด
ทั้งนี้หากใครยังมองว่า Honda CR-V 2017 ใหม่ ไม่ได้ต่างจากเดิมอย่างที่คาดหวังไว้ คงต้องลองดูภายในห้องโดยสารซึ่งน่าจะเป็นจุดที่สามารถดึงความสนใจให้กลับมาโฟกัส Honda CR-V 2017 ใหม่ ได้อีกครั้ง เพราะแค่เห็นคงรับรู้ได้ทันทีถึงการเปลี่ยนแปลง และถึงแม้ไม่ต้องสัมผัสก็น่ารับรู้ได้จากสายตาว่าพรีเมียมรวมถึงมีความทันสมัยขึ้นมาก (สวยโดนใจหรือไม่เป็นอีกเรื่อง)
จุดที่โดดเด่นแปลกตาคงเป็นแผงหน้าปัดที่มีจอแสดงผลแบบ Free Form ขนาด 7 นิ้ว รับกับแผงอุปกรณ์ และแท่นเกียร์ที่ออกแบบมาโมเดิร์นเหมือนยานอวกาศ เช่นเดียวกับเบาะหนังทรงเหลี่ยมสันมีความหนาหนักให้ความรู้สึกแข็งแกร่งฉีกสไตล์ไม่เพรียวบางแบบที่ผ่านมาอีกต่อไป นอกจากนี้ Honda ยังเคลมว่า Honda CR-V 2017 ใหม่ มีพื้นที่วางขามากที่สุดในรถระดับเดียวกันอีกด้วย
มาถึงในส่วนขุมพลังของ Honda CR-V 2017 ใหม่ ซึ่งตอนนี้คงต้องว่ากันไปตามสเปคของอเมริกาเหนือกันก่อนซึ่งจะมีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 ขนาด แบ่งตามระดับรุ่นย่อยโดย Honda CR-V 2017 ตั้งแต่เกรด EX ขึ้นไปจะได้ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ เทอร์โบ ขนาด 1.5 ลิตร หัวฉีดตรง ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 190 แรงม้า โดยที่เทอร์โบถือเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ Honda CR-V 2017 ใหม่ นั้นมีการตอบสนอง และประหยัดน้ำมันยอดเยี่ยมมากที่สุด
อีกส่วนสำคัญ และเป็นสิ่งจำเป็นของรถยุคใหม่นั่นก็คือระบบความปลอดภัย Honda CR-V 2017 ใหม่ จะติดตั้งชุดเทคโนโลยีความปลอดภัย Honda Sensing เป็นอุปกรณ์มาตรฐานตั้งแต่เกรด EX ขึ้นไป (เกรดกลางขึ้นไปจนถึงรุ่นท็อป Touring) ซึ่งประกอบไปด้วย
- ระบบช่วยเบรกเมื่อมีวัตถุ หรือคนเดินถนนอยู่ด้านหน้า (Collision Mitigation Braking หรือ CMBS) โดยการทำงานจะแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ แจ้งเตือนให้ผู้ขับขี่เบรก หากไม่ตอบสนองระบบจะค่อย ๆ เบรกเอง และถ้าผู้ขับขี่ไม่เบรกอีกระบบจะเพิ่มแรงเบรกรุนแรงขึ้นเพื่อป้องกันการชนที่อาจเกิดขึ้น
- ระบบช่วยรักษาช่องทางจราจร (Road Departure Mitigation หรือ RDM) ซึ่งจะแจ้งเตือน (หากอยู่ในช่วงความเร็วประมาณ 70-150 กม./ชม.) โดยจะมีกล้องติดตั้งหลังกระจกบังลมหน้าเพื่อตรวจจับเส้นจราจรบนถนน (รวมถึงปุ่ม หรือตาแมวบนถนน) หากรถเริ่มเบี่ยงออกโดยไม่เปิดสัญญาณไฟเลี้ยว ระบบจะแจ้งเตือนบนจอแสดงผล MID พวงมาลัยจะค่อย ๆ ถูกบังคับทิศทางให้กลับเข้ามาอยู่ในช่องทาง และสั่นเตือนผู้ขับขี่
- ระบบควบคุมความเร็วอัจฉริยะที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control หรือ ACC)
- รวมถึงระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ในการแจ้งเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Information หรือ BSI) และระบบแสดงภาพการจราจรท้ายรถขณะถอย (Rear Cross Traffic Monitor หรือ CTM)
- ระบบลดไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High Beam หรือ HSS)
ร่วมกับระบบความปลอดภัยอื่น ๆ ที่เป็นไปตามมาตรฐานของ Honda ซึ่งน่าจะทำให้ Honda CR-V 2017 ใหม่ ผ่านมาตรฐาน NCAP ในระดับ 5 ดาว จากหน่วยงานอย่าง NHTSA และได้รับคะแนนในระดับ SUPERIOR รวมถึง TOP SAFETY PICK+ จาก IIHS ตามเป้าหมายที่วางไว้ได้สำเร็จ
สำหรับ Honda CR-V 2017 ใหม่ นี้คาดว่าจะต้นเริ่มวางจำหน่ายในสหรัฐฯ กันในเดือนธันวาคมนี้เลย ส่วนราคาคงขยับจากเดิม โดยเกรดสูงสุด Touring นั้นไม่น่าจะเกิน 39,000 ดอลลาร์ หรือราว 1.4 ล้านบาท
ภาพจาก hondanews