x close

5 ซูเปอร์คาร์วาสนาน้อย ไร้โอกาสโลดแล่นบนนถนนจริง


 
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก carbuzz
    
          เมื่อรถคันหนึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นซูเปอร์คาร์ ก็การันตีได้แล้วว่าสมรรถนะของมันต้องเป็นระดับซูเปอร์จริง ๆ อะไรที่คิดว่าคงมีแค่รถในฝันเท่านั้นที่ทำได้ ซูเปอร์คาร์ก็ทำให้เป็นจริงขึ้นมานักต่อนักแล้ว เรื่องนี้ต้องยกความดีให้กับผู้ออกแบบและพัฒนารถไปเต็ม ๆ ที่สามารถสร้างรถในฝันให้ออกมาโลดแล่นบนถนนจริงได้ แต่ก็น่าใจหายเมื่อต้องยอมรับความจริงที่ว่า ยังมีซูเปอร์คาร์บางส่วนที่โลดแล่นอยู่ได้แต่เพียงในจินตนาการเท่านั้น เพราะคุณสมบัติที่วางไว้ให้มันดันสูงส่งเกินไป ไม่ต้องพูดถึงเรื่องผลิตออกมาขาย เพราะแม้แต่ตัวต้นแบบหรือโปรโตไทป์ก็ยังไม่ได้คลอดออกมาด้วยซ้ำ หลาย ๆ คันมีอันต้องจบเห่อยู่แค่ขั้นพรีโปรดักชั่น หรือแค่คอนเซ็ปต์คาร์ ไม่สามารถดันเป็นรถยนต์หรูที่ผลิตเพื่อใช้จริง ๆ ได้ คิดแล้วก็น่าเสียดายที่ได้รู้ว่ามันจะไม่มีโอกาสได้ออกมาโลดแล่นบนท้องถนนจริง ๆ ว่าไปแล้วก็อินจัดจนต้องรีบไปค้นเรื่อง 5 ซูเปอร์คาร์วาสนาน้อยเพราะไม่มีโอกาสได้ถูกผลิตขึ้นมาบนโลกแห่งความจริง จากเว็บไซต์ carbuzz มาฝากกันครับ

5 ซูเปอร์คาร์วาสนาน้อย ไร้โอกาสโลดแล่นบนนถนนจริง

5 ซูเปอร์คาร์วาสนาน้อย ไร้โอกาสโลดแล่นบนนถนนจริง

The New Stratos 

          ย้อนกลับไปในปี 2010 Pininfarina บริษัทผู้รับออกแบบรถยนต์ชื่อดังจากอิตาลี ได้รับมอบหมายให้ออกแบบและผลิตซูเปอร์คาร์คันใหม่ โดยนำแรงบันดาลใจมาจากรถ Lancia Stratos รถสปอร์ตสัญชาติอิตาเลียนที่เรียกได้ว่าเกิดมาเพื่อครองสนามแรลลี่โดยเฉพาะ เริ่มดำเนินการออกแบบโดยอาศัย 430 Scuderia จาก Ferrari เป็นโมเดลต้นแบบเพื่อการพัฒนา โดยจะลดทอนโครงสร้างช่วงล่างให้กะทัดรัดขึ้น ใช้เครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.3 ลิตร ผลิตกำลัง 532 แรงม้า และแรงบิด 53 กก.-ม. น้ำหนักตัวรถ 1,246 กิโลกรัม อัตราเร่งสูงสุดที่ 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลา 3.2 วินาที และทำความเร็วสูงสุดถึง 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แค่ฟังก็พอรู้ว่าสเปคอลังการงานสร้างขนาดไหน มีผู้แสดงความจำนงว่าถ้าผลิตออกมาจริงก็หมายจะครอบครองให้จงได้ถึง 25 คน แต่เจ้าซูเปอร์คาร์ที่ตั้งชื่อเล่น ๆ ให้เรียกไปก่อนว่า The New Stratos ก็ไปไม่สุดทางฝัน เมื่อถูก ลูก้า ดิ มอนเตเซโมโล ผู้บริหารของ Ferrari สั่งพับโปรเจคท์ไปตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มกระบวนการผลิตเลย 

5 ซูเปอร์คาร์วาสนาน้อย ไร้โอกาสโลดแล่นบนนถนนจริง

5 ซูเปอร์คาร์วาสนาน้อย ไร้โอกาสโลดแล่นบนนถนนจริง

Audi R8 E-Tron 

          ลองมาดูรถซูเปอร์คาร์ที่ไปไม่ถึงฝั่งฝันจากค่ายออดี้ (Audi) บ้าง ช่วงปี 2009 ออดี้ได้เผยโปรเจคท์รถอิเลคทริคคาร์ กับตัวโมเดล Audi R8 E-Tron ที่วางสเปคไว้ว่าจะเป็นรถที่เลิศที่สุด มีแรงบิดสูงสุดถึง 456 กก.-ม. นับว่าทรงพลังอย่างบ้าคลั่งเลยทีเดียว แต่สุดท้ายแล้วโปรเจทค์นี้ก็ถูกระงับและเลื่อนการผลิตออกไปอย่างไม่มีกำหนด เมื่อออดี้ได้ทำความเข้าใจตลาดรถอิเล็กทริคคาร์เสียใหม่แล้วก็พบว่าไม่มีอะไรเป็นไปตามที่คาดการณ์เอาไว้เลย จึงตัดสินใจระงับโปรเจคท์ Audi R8 E-Tron และหันไปลุยกับ Audi R10 TDI ซูเปอร์คาร์ไฮบริดขุมพลังดีเซลแทน 

5 ซูเปอร์คาร์วาสนาน้อย ไร้โอกาสโลดแล่นบนนถนนจริง

5 ซูเปอร์คาร์วาสนาน้อย ไร้โอกาสโลดแล่นบนนถนนจริง

Jaguar C-X75 

          จากัวร์ (Jaguar) บริษัทผลิตรถยนต์หรูจากสหราชอาณาจักร ผุดคอนเซ็ปต์คาร์ C-X75 ขึ้นมาโชว์ในงาน ปารีส มอเตอร์ โชว์ เมื่อปี 2010 สร้างความฮือฮาให้กับตลาดรถซูเปอร์คาร์ได้เป็นอย่างดี ด้วยขุมพลังจากเครื่องยนต์ Turbine engine พร้อมเครื่องยนต์ twin-charged 1.6 ลิตร และมอร์เตอร์ขับเคลื่อนไฟฟ้า 4 ตัว โดยจะขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าจนแบตเตอรี่เกลี้ยงถังจากนั้นจึงสลับการทำงานเข้าสู่ระบบกินน้ำมันต่อไป แต่ทั้ง ๆ ที่มีเสียงตอนรับเกรียวกราวขนาดนี้ ในที่สุดแล้วจากัวร์ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณให้มันได้ไปต่อ การพัฒนา C-X75  เป็นอันสิ้นสุดลงแค่คอนเซ็ปต์คาร์เท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นจากัวร์ก็ระบุว่าจะนำเทคโนโลยีที่ได้คิดให้กับ C-X75 ไปใส่ไส้ในซูเปอร์คาร์รุ่นต่อไปในอนาคตแน่นอน .. งานนี้ก็ต้องรอดูกันต่อไปครับ 

5 ซูเปอร์คาร์วาสนาน้อย ไร้โอกาสโลดแล่นบนนถนนจริง

5 ซูเปอร์คาร์วาสนาน้อย ไร้โอกาสโลดแล่นบนนถนนจริง

ME Four-Twelve

          ใครยังจำ ME Four-Twelve คอนเซ็ปต์คาร์ จากไครสเลอร์ (Chrysler) ของสหรัฐ ที่ได้ทำงานร่วมกับไดม์เลอร์ (Diamler) ของเยอรมนี ที่เปิดตัวไปในงานมหกรรมยานยนต์ดีทรอยต์ในปี 2004 ได้บ้าง มันเกือบจะสร้างตำนานรถที่วิ่งได้เร็วที่สุดในยุคนั้นได้อยู่แล้วเชียว ด้วยขุมพลังจากเครื่องยนต์เทอร์โบ V12 ขนาด 6 ลิตร 4 ชุด ขับเคลื่อนด้วยกำลังสูงสุด 850 แรงม้า แรงบิด 118 กก.-ม. ระบบเกียร์ธรรมดาคลัทช์คู่ 7 จังหวะ ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาโดยทีมผู้มีความเชี่ยวชาญด้านเกียร์ของรถแข่งโดยเฉพาะ สีดำของรถได้จากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ และตัวถังที่มีลักษณะเหมือนอ่างอาบน้ำทำมาจากคาร์บอนและอลูมิเนียม ช่างเป็นรถสปอร์ตสวยหรูที่ดูดีเสียนี่กระไร ยิ่งไปกว่านั้น วูลฟ์กัง เบอร์นาร์ด ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายปฏิบัติการของไครสเลอร์ กรุ๊ป ยังแสดงความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่า ขนาด ปากานี่ (Pagani) ค่ายรถเล็ก ๆ จากอิตาลียังทำ Zonda สปอร์ตคาร์สุดหรูได้สำเร็จ แล้วทำไมยักษ์ใหญ่อย่างไครสเลอร์จะทำบ้างไม่ได้ แต่แล้วผลสุดท้ายก็ดันปรากฏออกมาว่า แม้จะเป็นยักษ์แต่ซูเปอร์คาร์คันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องหมู ๆ กระบวนการพัฒนาและผลิต ME Four-Twelve จึงมลายหายไป ไม่สามารถพาตัวเองเข้าเป็นหนึ่งในซูเปอร์คาร์ที่เร็วที่สุดในโลกได้เลย

5 ซูเปอร์คาร์วาสนาน้อย ไร้โอกาสโลดแล่นบนนถนนจริง



Peugeot Onyx
  
          เพิ่งจะเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้วเท่านั้น ที่เปอโยต์ (Peugeot) ได้เปิดตัว Peugeot Onyx ซูเปอร์คาร์หน้าตาหล่อเหลากระแทกคนรักรถไปไม่น้อย ด้วยสเปคเครื่องยนต์ทวินเทอร์โบดีเซล 3.7 ลิตร ผลิตกำลังสูงสุด 600 แรงม้า มีระบบคิเนติค เอเนจี้ ที่จะเกิดพลังงานไฟฟ้าขึ้นหลังการเบรก ส่งต่อไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าทำให้ได้กำลังเพิ่มขึ้นอีก 80 แรงม้า แถมดีไซน์ก็ล้ำสมัยด้วยวัสดุอย่างอะคริลิค คาร์บอนไฟเบอร์ และแผ่นทองแดงที่ขึ้นรูปอย่างเนี้ยบด้วยฝีมือแฮนด์เมด ความเงาวับมันปลาบจากแผ่นทองแดงตัดกับสีดำด้านดูเตะตาสุด ๆ แต่อย่างไรก็ดี เปอโยต์ได้ออกมายืนยันผ่าน Top Gear ว่า จะไม่มีการผลิต Onyx ออกมาแน่นอน แต่ถึงอย่างนั้นก็จะยังคงมุ่งมั่นกับการพัฒนาเครื่องยนต์ทวินเทอร์โบดีเซลต่อไปสำหรับรถยนต์ซูเปอร์คาร์อื่น ๆ ในอนาคต 

          น่าเสียดายซูเปอร์คาร์ทั้ง 5 คัน ที่ไม่มีโอกาสได้ออกมาโลดแล่นวิ่งฉิวบนท้องถนนในโลกแห่งความเป็นจริง เพราะติดอุปสรรคต่าง ๆ นานากันไป แต่อย่างน้อยก็มั่นใจเถอะว่าโปรเจทค์ของพวกมันไม่ได้ล้มพับไปเปล่า ๆ แน่นอน บางชิ้นบางส่วน เครื่องยนต์ หรือเค้าโครงของมัน จะต้องถูกนำไปพัฒนาสานต่อเป็นซูเปอร์คาร์ที่เยี่ยมยอดและใกล้เคียงความจริงมากกว่าเดิมต่อไปแน่นอน คิดมาได้ซะไกลขนาดนี้คงไม่มีผู้ผลิตใครยอมทิ้งให้มันสูญไปเปล่า ๆ หรอกครับ 










เรื่องที่คุณอาจสนใจ
5 ซูเปอร์คาร์วาสนาน้อย ไร้โอกาสโลดแล่นบนนถนนจริง อัปเดตล่าสุด 29 มีนาคม 2556 เวลา 18:10:31
TOP