HUSABERG TE 250 จอมยุทธ์ทางฝุ่น

HUSABERG TE 250 จอมยุทธ์ทางฝุ่น (นักเลงมอเตอร์ไซค์)

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก totalmotorcycle

           น้องก๊อยเห็นก็ร้องว่า "ไม่น่าซ้อน" แม่ยืมไปซื้อของก็บ่น "ไม่มีที่เกี่ยวของ" พ่อขโมยขี่ไปร้านสะดวกซื้อ ก็ประกาศออกมาว่า "ไร้ซึ่งความนิ่มนวล" โอ้โห!... โดนคนบ่น 3 คนแบบนี้ตกลงว่ารถคันนี้จะดีหรือไม่ดี กันเนี่ย? แต่ถ้าสังเกตดี ๆ ที่รถจะเห็นเลยว่ามันเป็นรถโมโตครอสและข้อดีเพียงข้อเดียวก็คือรถคันนี้เกิดมาเพื่อการแข่งขันเท่านั้น หากจะเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันอาจจะเจอกับคำว่า "ไม่เหมาะ" รถที่กำลังพูดถึงอยู่นี้ก็คือ ผลงานการสร้างของ HUSABERG ซึ่งค่ายนี้ได้เมินหน้าหนีการสร้างรถแบบอื่น แถมยังให้สัญญา (กับตัวเอง) ไว้อีกว่า จะทำแต่รถทางฝุ่นเท่านั้น เราไปดูกันว่าตัวแสบที่ดึงมาแนะนำนั้นจะ เด็ด เฟี้ยว เปรี้ยว ขนาดไหน?

 

           น่าจะเรียกได้ว่ารถคันนี้มีวิชา ตัวเบาราวกับจอมยุทธ์และสามารถตะลุย ได้ในเกือบสภาพภูมิประเทศ รถคันนี้ ก็คือ 2013 HUSABERG TE 250 ซึ่งนี่คือเขี้ยวเล็บใหม่ล่าสุดของค่ายที่ยังใช้เครื่องยนต์ชนิด 2 จังหวะ ชิ้นงานบอดี้พาร์ท ดูรวม ๆ แล้วนั่งนับเล่น ๆ น่าจะได้ 14 ชิ้น ไม่ว่าจะเป็นการ์ดโช้คอัพหน้า บังโคลนหน้า หน้ากากไฟ การ์ดแฮนด์ ปีกหม้อน้ำ ถังน้ำมันเชื้อเพลิง แผ่นกันกระแทกใต้เครื่องยนต์ แป้นเบอร์ด้านข้างขวา/ซ้าย บังโคลนหลัง และเบาะนั่งใช้สีสันประจำค่ายคือ น้ำเงินฟ้า/เหลือง/ขาว ไม่มีลูกเล่นอะไรมากสำหรับงานสีและชิ้นส่วนบอดี้พาร์ท เพราะจุดขายของเขาจริง ๆ ก็คือระบบกันสะเทือน และขุมกำลังต่างหาก

           TE 250 เป็นรถสูตรที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน แบบ 2 จังหวะ 1 ลูกสูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ และมีขนาดความจุ 250 ซีซี. หรือจะเอาความจุแบบสุทธิก็จะอยู่ที่ 249 ซีซี. (ตามที่โรงงานได้แจ้งมา) ความกว้าง กระบอกสูบ x ระยะชัก = 66.4 x 72.0 มม. จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยคาร์บูเรเตอร์ KEIHIN รุ่น PWK 36 S AG ระบบเกียร์เป็นแบบธรรมดา 6 สปีด ชุดคลัตช์เป็นชนิดเปียก หน้าที่การขับเคลื่อนเป็นของโซ่และสเตอร์ ระบบการสตาร์ทเป็นการสตาร์ทด้วยระบบไฟฟ้าและสตาร์ทเท้า ถึงแม้แรงบิดจะไม่มากเหมือนรถ 4 จังหวะ แต่ด้วยความที่เป็นรถ 2 จังหวะ รอบเครื่องยนต์จึงจัดจ้านกว่าและมีน้ำหนักที่เบากว่าอีกด้วย ก็เลยไม่มีความจำเป็นต้องนึกเรื่องของแรงบิดให้มากมายขนาดนั้น

           การรองรับที่ดีก็คือสิ่งที่จำเป็นที่สุด สำหรับรถสูตรทางฝุ่น TE 250 ใช้งานโช้คอัพหน้าเทเลสโคปิกแบบหัวกลับ ขนาด 48 มม. ปรับตั้งได้เต็มระบบ มีระยะการทำงาน 292 มม. ด้านหลังเป็นหน้าที่ของโช้คอัพเดี่ยวที่ผนวกกำลังกับซับแท็งก์ ปรับตั้งได้ละเอียดและมีความแม่นยำสูงให้ระยะการทำงาน 335 มม. โดยผลงานทั้งหมดของระบบกันสะเทือนเป็นฝีมือของ WP

           ระบบเบรกของ TE 250 เป็นจานเบรกทั้งด้านหน้าและหลัง จานเบรกหน้าจะเป็นแบบเดี่ยวชนิดตายตัว ขนาด 260 มม. คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ BREMBO จานเบรกหลังแบบเดี่ยวชนิดตายตัวขนาด 210 มม. คาลิเปอร์ 1 ลูกสูบ แน่นอนว่าจะเป็นผลงานของใครไปเสียมิได้ นอกจาก BREMBO ระบบเบรกทั้งหมดสั่งงานด้วยไฮดรอลิก ให้สมรรถนะการหยุดที่ดีพอตัว แต่ถ้าจะให้ได้แบบตามใจสั่งคงจะอกหักเพราะการออกแบบมันคนละเรื่องกับการเบรกของรถทางเรียบ

           มิติตัวรถของ TE 250 นั้นมีระยะห่างฐานล้อ/ความสูงของเบาะ และความสูงจากพื้นถึงตัวรถ เท่ากับ 1,482 +/- 10 มม./960 มม. และ 355 มม. วงล้อเป็นซี่ลวด ด้านหน้าใช้ยางขนาด 90/90-21 นิ้ว ยางหลัง 140/80-18 นิ้ว น้ำหนักตัวรถพร้อมขับขี่ 104 กิโลกรัม