x close

Skoda Octavia เจเนอเรชันที่ 3 ด้วยรูปลักษณ์ที่ทันสมัย



Skoda Octavia (GRAND PRIX)
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก netcarshow

          Skoda Octavia เจเนอเรชันที่ 3 มากับการยกระดับมาตรฐานของรถ Compact Segment ด้วยรูปลักษณ์ที่ทันสมัยขึ้น พร้อมด้วยมิติตัวถังที่ยาวกว่า 90 มม. กว้างขึ้น 45 มม. และมีระยะฐานล้อยาวขึ้นอีก 108 มม. ทำให้ Octavia ใหม่ มีห้องโดยสารกว้างขวางด้วยตัวเลขความยาว 1,782 มม. เปรียบเทียบกับเวอร์ชั่นเจน 2 พื้นที่ Headroom ด้านหลังจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 8 มม. ช่วงศอกด้านหน้ากว้างขึ้นกว่า 39 มม. ด้านหลังกว่า 26 มม. อีกทั้งยังลดน้ำหนักโดยรวมลงได้ถึง 102 กก. เมื่อเทียบกับรุ่นเจน 2 ด้วยการออกแบบโครงสร้างตัวถังใหม่ เปลี่ยนไปใช้วัสดุเหล็ก High-And Ultra-Tensile steel ที่แข็งแกร่ง แต่มีน้ำหนักเบา

          ในขณะที่สมรรถนะนั้นปรับปรุงใหม่ให้ดีขึ้นทั้งขุมพลังเบนซิน และดีเซล โดยเครื่องยนต์สำหรับเจเนอเรชั่นที่ 3 นั้นสามารถลดการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและมลพิษได้ถึง 23% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ส่วนรายละเอียดนั้น ทางต้นสังกัดได้ปล่อยของรุ่นเบนซินออกมาถึง 4 รุ่น เริ่มต้นกับเทคโนโลยี TSI แบบ 4 สูบ 4 วาล์ว พร้อมเทอร์โบชาร์จ Direct-Injection ความจุ 1.2 ลิตร 86 แรงม้า และแรงบิด 160 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400-3,500 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 สปีด มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 5.2 ลิตร/100 กม. ปล่อยค่าไอเสียประมาณ 119 กรัม/กม.



          ต่อเนื่องด้วยรุ่น Green tec ความจุ 1.2 ลิตร TSI ซึ่งมาพร้อมระบบ Start/Stop และระบบ Brake Energy Recuperation ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า พร้อมแรงบิด 175 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400-4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีดเป็นมาตรฐาน แต่สามารถสั่งเปลี่ยนเป็นเกียร์อัตโนมัติ DSG 7 สปีดได้ โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 4.9 ลิตร/100 กม. และปล่อยไอเสียที่ 114 กรัม/กม.

          รุ่นต่อมาพิกัด 1.4 ลิตร TSI มีกำลังสูงสุด 140 แรงม้า พร้อมแรงบิด 250 นิวต้น-เมตร ที่ 1,500-3,500 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด หรือเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด DSG มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 5.3 ลิตร/100 กม. และค่าไอเสียเพียง 121 กรัม/กม.

          ส่วนเวอร์ชั่นท็อปสุดจะมากับเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร TSI Green tec ที่พกพาเรี่ยวแรงมาให้ถึง 180 แรงม้า กับแรงบิด 250 นิวตัน-เมตร ที่ 1,250-5,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด DSG และมีอัตราสิ้นเปลือง 5.7 ลิตร/100กม. กับค่าไอเสียเฉลี่ย 131 กรัม/กม.



          ฝั่งเครื่องยนต์ดีเซล TDI Turbocharged Direct Injection 4 สูบ 4 วาล์วนั้น เริ่มต้นด้วยพิกัด 1.6 ลิตร 90 แรงม้า ทำอัตราสิ้นเปลืองได้ 4.1 ลิตร/100 กม. และค่าไอเสียที่ต่ำเพียง 109 กรัม/กม.

          ขยับขึ้นมาจะเป็นพิกัด 1.6 ลิตร TDI Green tec ซึ่งมากับระบบ Start/Stop สำหรับเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด มีเรี่ยวแรงให้ใช้ที่ 105 แรงม้า และแรงบิด 250 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-2,750 รอบต่อนาที มีออปชั่นเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด  DSG ให้เลือกส่วนอัตราสิ้นเปลืองจะอยู่ที่ 3.8 ลิตร/100 กม. ปล่อยไอเสียเฉลี่ย 99 กรัม/กม.

          รุ่นต่อมาจะเป็น GreenLine Version ความจุ 1.6 ลิตร TDI ให้กำลังสูงสด 110 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 ลปีด และมีค่าเฉลี่ยอัตราลิ้นเปลือง 3.4 ลิตร/100 กม. และค่า C02 ที่ตาราว 89 กรัม/กม.

          ปิดท้ายด้วยรุ่น Top ที่ทรงสมรรถนะ ด้วยเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร TDI Green tec กับพละกำลัง 150 แรงม้า พร้อมแรงบิด 320 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-3,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด DSG หรือเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ DSG ซึ่งจะมีอันตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยที่ 4.5 ลิตร/100 กม. และค่าไอเสียเพียง 119 กรัม/กม.






















 คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี  


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
หนังสือ GRAND PRIX 
ฉบับที่ 519 มีนาคม 2556











เรื่องที่คุณอาจสนใจ
Skoda Octavia เจเนอเรชันที่ 3 ด้วยรูปลักษณ์ที่ทันสมัย อัปเดตล่าสุด 26 มีนาคม 2556 เวลา 15:20:25 1,778 อ่าน
TOP