หลายครั้งที่เราได้เห็นข่าวอุบัติเหตุรถชนกันจนมีผู้เสียชีวิต ซึ่งอุบัติเหตุเหล่านี้อาจจะมีมาจากหลากหลายสาเหตุ ในวันนี้เราจะมาพูดถึงหนึ่งในสาเหตุสำคัญคือ การจอดรถข้างถนน ไม่ว่าจะเป็นการจอดเพื่อทำธุระ หรือจอดในกรณีรถเสีย ที่ทำให้ผู้ขับขี่รถยนต์ตามหลังมาต้องเปลี่ยนช่องจราจรจนทำให้มีความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุมาก เพื่อป้องกันอุบัติเหตุในลักษณะดังกล่าวกระปุกคาร์จึงขอนำวิธีปฎิบัติการจอดรถข้างทางที่ถูกจาก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มาฝากครับ
หลีกเลี่ยงการจอดรถริมทางในจุดคับขัน โดยเฉพาะบริเวณทางขึ้น-ลงสะพาน ถนนที่มีไหล่ทางแคบหรือมีลักษณะเป็นคอขวด ทางแยก ทางม้าลาย และปากซอยทางเข้า-ออกอย่างเด็ดขาด เพราะทางเหล่านี้เป็นจุดที่มีโอกาสสูงในการเกิดอุบัติเหตุ
การจอดแวะซื้อของริมข้างทาง ผู้ขับขี่ควรให้สัญญาณไฟล่วงหน้า เพื่อให้ผู้ที่ขับรถตามหลังมาเปลี่ยนช่องทางเดินรถได้ทัน หรือจอดซื้อของในจุดที่มีที่จอดรถไว้เท่านั้น
กรณีรถจอดเสีย ประสบอุบัติเหตุหรือจำเป็นต้องจอดรถริมข้างทาง ควรจอดรถให้ชิดไหล่ทางมากที่สุด พร้อมเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินและนำป้ายเตือนหรือวัสดุอื่น ๆ เช่น กรวยสามเหลี่ยม กิ่งไม้ หรือผ้าที่มีลักษณะสะท้อนแสงมาวางไว้ด้านหลัง ห่างจากจุดที่จอดรถในระยะไม่ต่ำกว่า 50 เมตร เพื่อให้ผู้ขับขี่รถคันอื่นมองเห็นได้อย่างชัดเจน และเพิ่มความระมัดระวัง ซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน
กรณีผู้ขับขี่มีอาการง่วงนอน ให้นำรถไปจอดพักหลับในบริเวณที่ปลอดภัย เช่น สถานีบริการน้ำมัน จุดพักรถริมทาง เพื่อล้างหน้าและพักหลับ หรือผลัดเปลี่ยนผู้ขับขี่ยานพาหนะ ไม่ควรจอดรถพักหลับริมทางอย่างเด็ดขาด เพราะมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูง อย่างที่เห็นเป็นข่าวอยู่บ่อย ๆ ที่รถใหญ่จอดพักข้างทางแล้วมีรถที่ใช้ความเร็ววิ่งมาชนท้ายจนมีผู้เสียชีวิต อีกทั้งหากเกิดเหตุฉุกเฉินจะไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที
หลีกเลี่ยงการจอดรถถ่ายภาพ หรือชมวิวทิวทัศน์ข้างทางตามแหล่งท่องเที่ยว โดยเฉพาะตามเส้นทางขึ้น-ลงเขา เพราะมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูง ควรจอดรถชมวิวหรือถ่ายภาพบริเวณจุดชมวิวเท่านั้น
อย่างในกรุงเทพผู้ที่ใช้บริการรถสาธารณะเมื่อต้องการเรียกใช้บริการรถสาธารณะก็ควรเรียกในจุดที่กำหนดไว้หรือป้ายรถประจำทางเท่านั้นเพราะเพราะการเรียกรถนอกจุดจอดรับ-ส่ง จะทำให้ผู้ขับขี่ต้องหยุดรถกะทันหัน อาจทำให้รถคันหลังหยุดรถไม่ทันจนเกิดอุบัติเหตุ ทั้งนี้เรื่องเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนยังคงต้องการความร่วมมือจากหลายฝ่าย ถ้าเราช่วยกันระวังให้มากขึ้นรับรองว่าจะลดอุบัติเหตุและความเสียหายที่จะเกิดได้อย่างแน่นอนครับ
