เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
รถใครใครก็รัก ยิ่งเป็นรถของเราเองยิ่งทั้งรัก ทั้งหวง ทั้งเห่อ (หากว่าเพิ่งถอยรถมาใหม่ ๆ) หมั่นขัดสีฉวีวรรณกันเป็นประจำทั้งข้างนอกข้างใน นอกจากพาไปเข้าอู่เช็กสภาพตามระยะแล้ว รถเปรอะนิดเปื้อนหน่อยก็ต้องพาไปอาบน้ำล้างรถให้สดใส เพื่อไม่ให้รถที่รักต้องสกปรกด่างพร้อย นี่ยังไม่รวมค่าอุปกรณ์บำรุงรักษา ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแชมพูล้างรถ แวกซ์เคลือบเพื่อความเงางาม ผ้าเช็ดรถดี ๆ สักผืนเพื่อให้รถสวย ๆ มันปลาบไร้รอยใด ๆ แม้แต่รอยขนแมวเล็ก ๆ และยังมีอีกหลายรายการซึ่งจะให้คำนวณออกมาเป็นตัวเงินแล้วก็คงจะทำให้กระเป๋ากรอบแห้งมิใช่น้อย ถ้ามีอะไรที่ดูแลรถได้ดีพอ ๆ กัน แต่ทุ่นสตางค์ในกระเป๋าได้มากกว่าก็น่าจะดี ว่าไหม? ... แล้วมันก็มีจริง ๆ นะ กับทริคดูแลรถดี ๆ และประหยัด แม้บางข้อจะฟังดูแปลกหูไปบ้างก็เถอะ ลองมาดู ทริคแปลก ๆ ที่ช่วยดูแลรถคุณได้ ที่กระปุกคาร์นำมาฝากจาก reader digest กันครับ เผื่อว่าคุณจะหยิบไอเดียไหนไปใช้กับรถตัวเองได้บ้างครับ
1. ใช้ครีมนวดผมเพิ่มประกายเงางาม
ครีมนวดผมไม่ได้เพิ่มความเงางามให้กับเส้นผมได้อย่างเดียวเท่านั้น มันยังเพิ่มประกายเงางามแวววาวให้กับรถสุดที่รักของคุณได้ด้วย เลือกใช้ครีมนวดผมที่มีส่วนผสมของ ลาโนลิน (lanolin) จะช่วยให้รถคุณเงาวับได้ไม่แพ้การลงแวกซ์ ทดสอบผลความเงางามและมันปลาบได้จริง ๆ ลองดูสิว่าฝนตกมาโดนเม็ดฝนยังไหลไม่ทิ้งคราบไว้เลยล่ะ
2. โคล่าล้างกระจกรถ
หลังฝนตกและแดดออกแล้ว มันคงไม่วายทิ้งคราบน้ำฝนไว้ที่กระจกรถของคุณ ดูแล้วหมอง ๆ มองทางไม่ชัดเจน ลองสาดน้ำอัดลม (โคล่านี่แหละดี ซ่าที่สุดแล้ว) ไปที่กระจก (อย่าลืมหาผ้าขนหนูมาวางเป็นแนวยาวไว้ด้านล่าง เพื่อป้องกันไม่ให้เปื้อนที่ปัดน้ำฝน) ฟองฟู่ของมันจะช่วยชะเอาคราบน้ำฝนที่เกาะแน่นที่กระจกออกไปได้ แต่อย่าลืมล้างตามด้วยน้ำเปล่าเพื่อชะความเหนียวเหนอะหนะของน้ำหวานออกไปด้วยนะ
3. วอดก้าล้างกระจก
เพื่อการเช็ดล้างกระจกอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แทนที่จะเติมน้ำเปล่าหรือน้ำยาเช็ดกระจกลงไปในกล่องน้ำสำหรับฉีดเช็ดล้างกระจก ให้คุณลองเติมส่วนผสมของสิ่งต่อไปนี้เข้าไปแทน นั่นคือ วอดก้า 3 ถ้วย (เลือกชนิดที่ถูกที่สุดก็พอครับ) น้ำเปล่า 4 ถ้วย และน้ำยาล้างจาน 2 ช้อนชา ใส่ขวด ปิดฝา แล้วเขย่าให้เข้ากันดีเสียก่อนจึงค่อยเทลงไปในกล่องน้ำยาล้างกระจก คราวนี้พอกระจกมัว ก็กดปุ่มตรงแผงคอนโซลให้ฉีดน้ำยาขึ้นมา ตามด้วยเปิดที่ปัดน้ำฝนไปมาสักพัก กระจกก็จะใสสะอาดขึ้นทันตา
4. ขัดไฟหน้าด้วยถุงน่อง
หากโคมไฟหน้าเริ่มหมอง แสงเริ่มส่องไม่ชัด อันอาจก่อให้เกิดอันตรายยามขับขี่ โดยเฉพาะในเวลากลางคืน ให้ใช้น้ำยาเช็ดกระจกฉีดที่โคม แล้วเช็ดถูด้วยถุงน่องเก่า ๆ (ขอมาจากคุณภรรยานั่นแหละ) โคมไฟก็จะสะอาด ส่องไฟได้สดใสชัดเจนเหมือนเดิม
5. เช็ดกระจกทันใจด้วยเบบี้ไวพ์
ลองพกทิชชูเปียกสำหรับเด็กหรือเบบี้ไวพ์ ติดรถเอาไว้ คุณจะใช้เช็ดได้สารพัด ไม่ว่าจะเช็ดมือ เช็ดหน้า เช็ดตัว เช็ดพวงมาลัย แผงคอนเซลหน้ารถ รวมถึงเอาไปเช็ดกระจกในยามฉุกเฉินได้ด้วย
6. เช็ดกระจกด้วยผ้าอนามัย
ทริคนี้อาจพิลึกและเพี้ยนไปหน่อย แต่รับรองว่าได้ผลจริง ในกรณีที่คุณต้องการล้างกระจก แต่ดันไม่มีน้ำยาล้างกระจกเหลือในกระปุกน้ำยาเลย ลองใช้ผ้าอนามัยด้านที่นุ่ม ๆ เช็ดกระจกดู ออกแรงเยอะ ๆ หน่อย แล้วจะพบว่ากระจกใสแจ๋วขึ้นเยอะเลยล่ะ
7. ล้างที่ปัดน้ำฝนด้วยแอมโมเนีย
ถ้าหากที่ปัดน้ำฝนมีคราบสกปรกจับอยู่มาก การเปิดที่ปัดน้ำฝนแต่ละทีแทนที่จะทำให้กระจกสะอาด กลับกลายเป็นทิ้งรอยสกปรกเป็นทางยาวเอาไว้เสียอย่างนั้น คุณสามารถทำความสะอาดที่ปัดน้ำฝนได้ด้วยการใช้แอมโมเนีย (ชนิดสำหรับทำความสะอาด) 1/4 ถ้วย ผสมกับน้ำเปล่า 1 ลิตร ยกที่ปัดน้ำฝนขึ้นมาแล้วใช้ผ้าขนนุ่มชุบส่วนผสมนี้เช็ดทำความสะอาด ตามด้วยการใช้ผ้าแห้งเช็ดตามอีกครั้ง เท่านี้ที่ปัดน้ำฝนก็สะอาดเอี่ยมแล้ว
8. ใช้แอมโมเนียเช็ดกระจก
นอกจากแอมโมเนียจะใช้ล้างที่ปัดน้ำฝนได้สะอาดเอี่ยมแล้ว ยังใช้เช็ดกระจกรอบคันรถทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลังได้ดีอีกด้วย คุณสามารถใช้แอมโมเนียผสมกับน้ำเปล่าตามสัดส่วนที่แนะนำไว้ข้างต้น เช็ดกระจกทุกบานได้ใสแจ๋ว มองอะไรได้ชัดเจนขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย
9. ล้างรถด้วยเบกกิ้งโซดา
ผสม เบกกิ้งโซดา 1/4 ถ้วย น้ำยาล้างจาน 1/4 ถ้วย ลงในขวดแกลลอนใหญ่ ๆ เติมน้ำลงไปให้ครบ 4 ลิตร เขย่าให้เข้ากัน คุณก็จะได้หัวเชื้อน้ำยาสำหรับผสมน้ำเอาไว้ล้างทำความสะอาดรถแล้ว เมื่อต้องการใช้ให้เทส่วนผสมดังกล่าว 1 ถ้วย มาเจือจางกับน้ำ 8 ลิตร คนให้เข้ากัน และใช้ทำความสะอาดทุกส่วนของรถได้เลย
10. รถเงาวับด้วยน้ำมันก๊าด
ผสมน้ำมันก๊าด 1 ถ้วย กับน้ำเปล่า 12 ลิตร ใช้ฟองน้ำชุบส่วนผสมนี้แล้วเช็ดรถให้ทั่วทั้งคัน จากนั้นทิ้งไว้ให้แห้ง รถจะเงาวับขึ้นมาทันที แถมพื้นผิวก็ลื่นเป็นมันขึ้นชนิดที่ว่าฝนตกกระทบปุ๊บ หยดน้ำกลิ้งไหลลงจากตัวรถเลยล่ะ นอกจากนี้เพื่อป้องกันไม่ให้รถมีคราบ ไม่ควรเป่าลมรถหลังจากเพิ่งล้างเสร็จใหม่ ๆ หรือขับรถทันทีหลังล้างรถ เพราะหยดน้ำที่ยังติดอยู่จะทิ้งรอยคราบไว้บนตัวรถได้ คุณควรเช็ดมันให้แห้งก่อนด้วยผ้าขนนุ่ม ผ้าชามัวร์ หรือใช้ที่กรีดน้ำปาดหยดน้ำออกเพื่อให้แห้งไวยิ่งขึ้นก็ได้ครับ
ลองนำทริคเหล่านี้ไปใช้ในการดูแลรถของคุณดูนะครับ วัตถุดิบหาง่าย ใช้งานได้จริง แถมยังสบายกระเป๋าด้วยล่ะ
