Honda CR-V e:HEV 2026 ใหม่ อัปเกรดอุปกรณ์ ราคาเริ่ม 1,4XX,000 บาท

Honda CR-V e:HEV 2026 ใหม่ ทุกรุ่นจะมาพร้อมเทคโนโลยีไฮบริด e:HEV พร้อมติดตั้งเตือนมุมอับสายตา เตือนขณะถอย Google Build-in ในทุกรุ่นย่อย ราคาเริ่ม 1,4XX,000 บาท

Honda CR-V e:HEV 2026 (ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี 2026) ใหม่ รถยนต์ SUV ขนาดคอมแพกต์อีกหนึ่งรุ่นสำคัญของ Honda ยกเครื่องใหม่ทั้งไลน์อัพ ปรับปรุงรุ่นย่อยและอุปกรณ์ ทุกรุ่นย่อยจะใช้เทคโนโลยี e:HEV มี Google Built-in สำหรับโหลดแอปพลิเคชันบน Google Play มาติดตั้งได้ในตัว นอกจากนี้ ยังตัด Honda LaneWatch ใส่ระบบเตือนมุมอับสายตา กล้องมองภาพรอบคัน โดยแบ่งเป็น 5 รุ่นย่อย เริ่มจากเกรด E, ES, HuNT, RS และ RS 4WD  

Honda CR-V e:HEV 2026 ไม่ได้เน้นการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของดีไซน์ภายนอกมากนัก แต่มีการปรับการตกแต่งคิ้วกันกระแทกรอบคันด้วยวัสดุสีดำ หากเป็นเกรด RS ไม่ว่าจะขับเคลื่อน 2 หรือ 4 ล้อ ใช้วัสดุสีดำเงา รวมถึงมือจับประตู และกระจกมองข้าง ส่วนล้ออัลลอยใช้สีทูโทนขนาด 19 นิ้ว ขณะที่เกรด E, ES และ HuNT ใช้ขนาด 18 นิ้ว สีดำเงา สำหรับความพิเศษของเกรด HuNT คือจะมาพร้อมชุดแต่งอย่าง ชุดเสริมหลังคาคู่ บันไดข้าง คิ้วตกแต่งกระจังหน้า-ไฟตัดหมอกสี Glossy Copper แผงใต้กันชนหน้า เป็นต้น

ทางด้านอุปกรณ์ทุกรุ่นติดตั้งไฟส่องสว่างแบบ LED รอบคัน กระจกมองข้างพับอัตโนมัติ-ปรับองศาลงขณะถอย ที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ฝาท้ายไฟฟ้าพร้อมฟังก์ชัน Hand-Free และปิดเมื่อกุญแจรีโมตห่างจากตัวรถ ไฟตัดหมอกหลังเพิ่มให้เฉพาะเกรด RS/ RS 4WD นอกจากนี้ กระจกพาโนรามิกเลื่อนเปิด-ปิดไฟฟ้าให้มาทุกเกรดยกเว้นแค่เกรด E เท่านั้น

สำหรับภายในห้องโดยสาร Honda CR-V e:HEV 2026 ใช้วิธีการปรับปรุงอุปกรณ์ ทุกรุ่นใช้โทนสีดำ ให้เบาะคู่หน้าแบบระบายอากาศ ฝั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ดันหลัง 4 ทิศทาง ฝั่งผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับด้านข้างพนักพิง เบาะแถวสองเลื่อนเดินหน้า-ถอยหลัง แยกพับพนักพิงได้ 60:40 เบาะหุ้มหนังแท้สลับหนังสังเคราะห์ และเพิ่มตะเข็บแดงกับสัญลักษณ์ RS ในเกรด RS/ RS 4WD

อุปกรณ์อำนวยความสะดวกมีระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกปรับซ้าย-ขวา เบรกมือไฟฟ้า ที่ชาร์จไร้สาย ระบบอินโฟเทนเมนต์จอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว ระบบปฎิบัติการ Google Built-in สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันมาใช้งานได้ เช่น Google Map, Spotify, Youtube, Podcast รองรับ Apple CarPlay ไร้สายและ Android Auto มี Google Assistant รองรับคำสั่งเสียง ลำโพง Bose 12 จุด ในทุกเกรด ยกเว้นเกรด E ได้ลำโพง 8 จุด ไม่มีระบบฟอกอากาศ Plasmacluster และระบบนำทาง รวมถึงระบบแสดงข้อมูลบนกระจกบังลม HUD มีเฉพาะเกรด RS/ RS 4WD

เทคโนโลยีไฮบริด e:HEV ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร กำลัง 183 แรงม้า แรงบิด 148 นิวตันเมตร ทำงานประสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมกันสูงสุด 207 แรงม้า และแรงบิด 335 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ E-CVT อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 19.2 กิโลเมตร/ลิตร (ขับเคลื่อน 4 ล้อ) และ 20.8 กิโลเมตร/ลิตร (ขับเคลื่อนล้อหน้า)

ทุกรุ่นของ Honda CR-V e:HEV 2025 ติดตั้ง Honda SENSING ซึ่งประกอบด้วยระบบรักษาความเร็วแปรผัน พร้อมรักษาระยะห่างตามรถคันหน้าที่ความเร็วต่ำ ช่วยควบคุมให้รถอยู่ในช่องทาง เตือนการชนพร้อมช่วยเบรก เตือนรถคันหน้าออกตัว เตือนและช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน ระบบปรับไฟสุงอัตโนมัติ แต่ไฟหน้าอัจฉริยะมีเฉพาะเกรด RS/ RS4WD

นอกจากนี้ ถุงลมนิรภัย 8 จุด เบรก ABS ระบบควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง เตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้างที่มาแทน Honda LaneWatch ระบบเตือนการจราจรขณะถอย เซนเซอร์กะระยะ 8 จุด ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก ISOFIX ในทุกรุ่น ยกเว้นกล้องมองภา่พรอบคันจะไม่มีแค่เกรด E

• สีเทา Urban Gray Pearl (มีเฉพาะรุ่น e:HEV RS และ e:HEV RS 4WD เพิ่ม 10,000 บาท)

• สีขาว Platinum White Pearl (เพิ่ม 14,000 บาท และไม่มีในรุ่น e:HEV HuNT)

• สีดำ Crystal Black Pearl (เพิ่ม 10,000 บาท)

• สีน้ำเงิน Canyon River Blue Metallic (มีเฉพาะรุ่น e:HEV HuNT)

• สีเงิน Lunar Silver Metallic (ไม่มีในรุ่น e:HEV HuNT)

• สีเทา Meteoroid Gray Metallic

• รุ่น e:HEV E ราคา 1,4XX,000 บาท

• รุ่น e:HEV ES ราคา 1,5XX,000 บาท

• รุ่น e:HEV HuNT ราคา 1,5XX,000 บาท (รุ่นเพิ่มชุดแต่ง บนพื้นฐานเกรด ES)

• รุ่น e:HEV RS ราคา 1,6XX,000 บาท

• รุ่น e:HEV RS 4WD ราคา 1,7XX,000 บาท

หมายเหตุ : ราคาคาดการณ์จาก Honda รอเปิดราคาเต็ม 28 พฤศจิกายน นี้ 

ในภาพรวม Honda CR-V e:HEV 2026 ใหม่ แต่ละรุ่นย่อยมีความเหลื่อมล้ำด้านอุปกรณ์ค่อนข้างน้อย ซึ่งเกรดเริ่มต้น E จะขาดแค่บางรายการที่สำคัญ เช่น ไม่มีกล้องมองภาพรอบคัน ระบบฟอกอากาศ เบาะคู่หน้าระบายอากาศ และลำโพง Bose

ถ้าอยากได้ หลังคากระจก ระบบฟอกอากาศ เบาะนั่งคู่หน้าแบบระบายอากาศ ลำโพง Bose 12 จุด เพิ่มจากเกรด E และได้กระจังหน้าแบบเกรด RS หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง ต้องขยับไปเกรด ES ส่วนเกรด HuNT คือเกรด ES ที่จ่ายแพงขึ้น เป็นค่าชุดแต่งภายนอกเท่านั้น

และถ้าไม่ต้องการภายนอกที่ดูสปอร์ตพรีเมียมขึ้นด้วยคิ้วตกแต่งสีดำ ล้ออัลลอย 19 นิ้ว สีทูโทน รวมถึงอุปกรณ์ไฮเทคหรือเพื่อความปลอดภัยทีดีขึ้น เช่น ไฟหน้าอัจฉริยะ (ADB)  ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว(HUD) รวมถึงระบบนำทางที่อาจไม่จำเป็นเพราะมี Google Map ให้ใช้อยู่แล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นต้องเล่นเกรด RS เว้นเสียแต่ต้องการระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ นั่นคือมีตัวเลือกเดียวคือ RS 4WD

• Toyota Land Cruiser FJ 2025 เผยโฉม เปิดตัวไทยปีหน้าในฐานะรถ PPV

• Nissan Elgrand 2026 รถ MPV หรูพลัง e–POWER เข้าไทยปีหน้า

• Toyota Fortuner Leader G Plus รุ่นย่อยใหม่ ราคา 1,439,000 บาท

• Deepal S07 2025 รถ SUV ไฟฟ้าทรงคูเป้ ราคา 1,099,000 บาท

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : honda.co.th