รถยนต์ 7 ที่นั่ง 2022 รุ่นไหนน่าใช้ มาดูกัน !

รถยนต์ 7 ที่นั่ง รุ่นน่าสนใจที่มีจำหน่ายในไทย ปี 2022 คัดมาเน้น ๆ ทุกแบบ ทุกสไตล์ ทั้งครอสโอเวอร์, SUV, PPV ส่วนจะมีคันไหนจากค่ายใด ออปชั่นเป็นอย่างไร ราคาเท่าไหร่บ้าง ไปดูกันเลย

รถยนต์ 7 ที่นั่ง รถอเนกประสงค์ที่ชูจุดเด่นด้วยเบาะที่นั่งที่สามารถรองรับผู้โดยสารรวมผู้ขับขี่ได้ถึง 7 ที่ ครอบคลุมทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวใหญ่ หรือคนเพื่อนเยอะ อีกทั้งยังสามารถปรับที่นั่งด้านหลังให้เป็นห้องบรรทุกสัมภาระที่มีความจุกว้างขวางได้ และมีรูปลักษณ์หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทรงกล่องสไตล์ MPV หรือจะมาในแบบครอสโอเวอร์สายลุย รวมถึงในรูปแบบ SUV อเนกประสงค์ ไปจนถึงพื้นฐานกระบะ PPV ซึ่งวันนี้หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังมองหา รถยนต์ 7 ที่นั่ง ปี 2022 อยู่ บอกเลยว่าห้ามพลาด เพราะเราได้รวบรวมรถใหม่มาแนะนำกันแล้ว

          แม้ปัจจุบัน รถยนต์ 7 ที่นั่ง จะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยความที่มีรูปร่างหน้าตาทันสมัยและใช้งานได้หลากหลาย แต่ก่อนที่คุณจะตัดสินใจซื้อรถใหม่ 2022 มาใช้สักคัน คุณจำเป็นต้องรู้ก่อนว่ารถคันนั้นเหมาะกับคุณจริง ๆ ไหม หรือมีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ซึ่งต้องบอกแบบเข้าใจง่าย ๆ ว่าสำหรับ รถยนต์ 7 ที่นั่ง ข้อดีคือ สามารถรองรับผู้โดยสารได้เยอะ มีพื้นที่ห้องโดยสารกว้าง และมีพื้นที่บรรจุสัมภาระได้มากกว่าเมื่อเทียบกับรถยนต์นั่งทั่วไป (เมื่อมีการพับเบาะที่นั่งด้านท้ายลง)

          ส่วนข้อเสียคือ มีให้เลือกไม่มากนัก เพราะจะมีเฉพาะบางแบรนด์เท่านั้นที่ผลิตออกมาจำหน่วย รวมไปถึงความสะดวกสบายในการนั่ง โดยเฉพาะที่นั่งแถว 3 ที่อาจทำให้ดูอึดอัดได้หากผู้โดยสารเป็นคนตัวใหญ่ รวมถึงถ้าวันไหนบรรทุกคนแบบจัดเต็ม 7 ที่นั่ง ก็จะทำให้พื้นที่สำหรับเก็บของน้อยลงเช่นกันนั่นเอง 

Toyota Veloz เป็น Mini MPV รถครอบครัวแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง เจเนอเรชั่นใหม่ เป็นรถที่นำเข้ามาจากประเทศอินโดนีเซีย มาพร้อมกับดีไซน์สปอร์ตและโฉบเฉี่ยว โดดเด่นด้วยกระจังขนาดใหญ่รูปทรงหกเหลี่ยม ขนาบข้างด้วยชุดไฟหน้าที่เป็นแบบ LED ทั้งระบบ มาพร้อมไฟเลี้ยวแบบ Sequential ล้ออัลอยขนาด 16-17 นิ้ว ขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่นย่อย ภายในห้องโดยสารออกแบบให้กว้างเทียบเท่ารถระดับ C-segment เบาะนั่งหุ้มวัสดุหนังสังเคราะห์และผ้า ตกแต่งด้วยด้ายสีเทา เบาะนั่งแถวที่ 2 และ 3 สามารถพับได้ถึง 7 รูปแบบ ด้านชุดอุปกรณ์จะติดตั้งจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว หน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 9 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันปรับได้ 4 ทิศทาง ที่ชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สาย ระบบกุญแจ Smart Keyless Entry และปุ่ม Push Start ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า 12V บริเวณกล่องเก็บของ และช่องต่อ USB 2 ช่อง สำหรับผู้โดยสารแถว 2 

ด้านขุมพลังติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ให้กำลัง 106 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ CVT พร้อม Sequental Shift ระบบเบรกเป็นดิสก์เบรก 4 ล้อ ด้านความประหยัดทาง Toyota เคลมไว้ว่าจะมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันสูงสุดถึง 17.9 กิโลเมตร/ลิตร

ราคาจำหน่าย

• Toyota Veloz Premium ราคา 875,000 บาท
• Toyota Veloz Smart ราคา 795,000 บาท

Honda CR-V เป็น Compact SUV ที่มีทั้งรุ่น 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง มาพร้อมกับกระจังหน้าแบบ Gloss Black ตกแต่งด้วยโครเมียมรมดำ หลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามาพร้อมระบบเปิด-ปิดแบบ One-Touch ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ Sequential และช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถว 3 เบาะที่นั่งสามารถปรับเบาะได้มากถึง 4 รูปแบบ ได้แก่ 7-SEAT MODE, 5-SEAT MODE, UTILITY Mode หรือเน้นพื้นที่บรรทุกเต็มรูปแบบ และ LONG MODE สำหรับขนเฟอร์นิเจอร์หรืออุปกรณ์ที่มีความยาวโดยเฉพาะ ประตูท้ายไฟฟ้ามาพร้อมระบบ Hand Free ปิดท้ายด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย Honda SENSING

ขุมพลังเครื่องยนต์มีให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซล 1.6 ลิตร i-DTEC เทอร์โบ 160 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด และเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC ความจุ 2.4 ลิตร i-VTEC 173 แรงม้า แรงบิด 224 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์ CVT

ราคาจำหน่าย

• Honda CR-V รุ่น 2.4 E 7 ที่นั่ง ราคา 1,529,000 บาท

• Honda CR-V รุ่น 2.4 EL 4WD 7 ที่นั่ง ราคา 1,579,000 บาท

• Honda CR-V รุ่น DT-EL 4WD 7 ที่นั่ง ราคา 1,759,000 บาท

Toyota Sienta เป็นรถยนต์แบบ 7 ที่นั่ง มีความโดดเด่นอยู่ที่ประตูสไลด์ทั้ง 2 ฝั่ง ซ้าย-ขวา  ภายในห้องโดยสารดีไซน์สปอร์ต กว้างขวาง ด้วยการปรับเปลี่ยนตำแหน่งเบาะนั่งด้านหลังเพื่อบรรทุกสัมภาระได้หลายรูปแบบ เบาะนั่งแถว 2 แยกพับ 50:50 แบบ 1 Touch Tumble พร้อมที่พักแขนด้านข้าง ส่วนเบาะนั่งแถว 3 แยกพับ 50:50 แบบ Dive-in มาพร้อมช่องเก็บของด้านบนคอนโซลหน้าที่เป็นแบบ Cool Box เก็บความเย็น ติดตั้งจอ LED เพดาน ขนาด 8 นิ้ว สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เสริมฟังก์ชันความปลอดภัยด้วยกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา และกล้องบันทึกภาพหน้าและหลังรถ ขุมพลังมากับเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร 16 วาล์ว DOHC Dual VVT-i ให้กำลังสูงสุด 108 แรงม้า

ราคาจำหน่าย

• Toyota Sienta รุ่น 1.5G ราคา 775,000 บาท

• Toyota Sienta รุ่น 1.5V ราคา 889,000 บาท

Toyota Innova Crysta รถอเนกประสงค์สไตล์ MPV ที่มาพร้อมกับความโฉบเฉี่ยว กระจังหน้ารุ่น 2.0 เป็นวัสดุสีเงิน ส่วน 2.8 เป็นโครเมียม ชุดไฟหน้าเป็นแบบโปรเจกเตอร์ LED ส่วนในรุ่นล่างสุดเป็นหลอดฮาโลเจน แต่ทุกรุ่นจะได้รับระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ปรับสูง-ต่ำได้ กระจกมองข้างมีไฟเลี้ยวมาให้ในตัว ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบให้กว้างขวางนั่งสบาย เบาะนั่งหุ้มด้วยผ้าสีดำ เบาะคู่หน้าเลื่อนและปรับเอนได้ เบาะหลังแถว 2 เป็นแบบ Captain Seat เบาะหลังแถว 3 สามารถปรับได้แบบ 50:50 ปรับและพับที่นั่งเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของที่ห้องเก็บสัมภาระด้านท้าย มาพร้อมปิดประตูท้ายปิด-เปิดอัตโนมัติ ระบบปรับอากาศแถวแรกเป็นแบบอัตโนมัติ ส่วนแถว 2 และ 3 เป็นแบบปรับแรงลมอัตโนมัติ

ในด้านขุมพลังมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว DOHC Dual VVT-i ขนาด 2.0 ลิตร ประสานงานคู่เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว DOHC VN Turbo และ Intercooler ขนาด 2.8 ลิตร ทำงานคู่เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อม Sequential Shift 

ราคาจำหน่าย

• Toyota Innova Crysta รุ่น 2.0 Entry ราคา 1,199,000 บาท

• Toyota Innova Crysta รุ่น 2.8 Crysta ราคา 1,279,000 บาท

• Toyota Innova Crysta รุ่น 2.8 Crysta Premium ราคา 1,429,000 บาท

Toyota Fortuner เป็นรถยนต์ PPV แบบ 7 ที่นั่ง ที่มีพื้นฐานมาจากรถกระบะ โดย Toyota Fortuner ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยจะมีให้เลือกหลายเกรด ทั้งในรุ่นเริ่มต้น Toyota Fortuner 2020, Toyota Fortuner Legender ที่เปิดตัวในช่วงกลางปี 2020 และยังมีรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Toyota Fortuner GR Sport 2021 ที่เป็นรุ่นท็อปไลน์ของโมเดลนี้ มาพร้อมชุดแต่งสปอร์ตรอบคันจากทาง Toyota Gazoo Racing เสริมด้วยการปรับแต่งช่วงล่างใหม่ ให้การทรงตัวได้ดีและนุ่มนวลที่ดีมากขึ้น 

ดีไซน์ภายนอกจะมากับชุดไฟหน้าแบบ LED Dual Projector พร้อมระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ไฟเลี้ยวใหม่แบบ Sequential ไฟท้าย LED แบบ Light Guiding ภายในห้องโดยสารมีหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay ลำโพง JBL 9 ตำแหน่งรอบคัน เบาะนั่งแถวที่ 1 ปรับด้วยไฟฟ้าทั้งด้านผู้ขับและผู้โดยสาร เบาะนั่งแถว 2 พับแบบ 60:40 พร้อมที่พักแขนแบบพับเก็บได้ และที่วางแก้วน้ำ มาพร้อมระบบพับและยกขึ้นได้ในจังหวะเดียว เบาะนั่งแถว 3 พับได้แบบ 50:50 ปรับเอนและพับเก็บได้

ในด้านขุมพลังมีเครื่องยนต์ 2 ตัวเลือก คือ เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า และเครื่องยนต์ดีเซล 2.8 เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 240 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อม Sequential Shift และ Paddle Shift ที่พวงมาลัย มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมระบบ Auto start Stop 

ราคาจำหน่าย

• Toyota Fortuner รุ่น 2.4G ราคา 1,351,000 บาท

• Toyota Fortuner รุ่น 2.4V ราคา 1,466,000 บาท

• Toyota Fortuner รุ่น 2.4V 4WD ราคา 1,536,000 บาท

• Toyota Fortuner รุ่น 2.4 Legender ราคา 1,566,000 บาท

• Toyota Fortuner รุ่น 2.4 Legender 4WD ราคา 1,636,000 บาท

• Toyota Fortuner รุ่น 2.8 Legender ราคา 1,775,000 บาท

• Toyota Fortuner รุ่น 2.8 Legender 4WD ราคา 1,839,000 บาท

• Toyota Fortuner รุ่น2.8 GR Sport 4WD ราคา 1,879,000 บาท

Suzuki XL7 เป็นรุ่นที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Suzuki Ertiga มาพร้อมพื้นที่โดยสารรองรับได้ถึง 7 ที่นั่ง รูปลักษณ์ภายนอกดีไซน์ให้เป็นรถสไตล์ครอสโอเวอร์ด้วยการออกแบบที่ดูสปอร์ตและดุดัน มาพร้อมกับการปรับความสูงของตัวรถขึ้น 20 มม. กันชนหน้า-หลัง บันไดข้าง และราวหลังคา ตกแต่งด้วยวัสดุสีเงินรอบคัน ภายในห้องโดยสารจัดเต็มด้วยออปชั่นต่าง ๆ อาทิ หน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 10 นิ้ว, ช่องเชื่อมต่อ USB และ HDMI บริเวณคอนโซลหน้า และช่องจ่ายไฟสำรอง 12V มากถึง 3 ตำแหน่ง รวมถึงระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติด้านหน้าและด้านหลัง ในส่วนเบาะนั่งแถว 2 ปรับพับได้แบบ 60:40 ส่วนเบาะแถว 3 ปรับพับแบบ 50:50

ขุมพลังเป็นบล็อกเดียวกันกับตัว Suzuki Ertiga เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร 105 แรงม้า แรงบิด 138 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด 

ราคาจำหน่าย 

• Suzuki XL7 GLX ราคา 779,000 บาท

Isuzu MU-X รถอเนกประสงค์แบบ PPV 7 ที่นั่ง เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลกไปเมื่อเดือนตุลาคม 2020 มาพร้อมกับโครงสร้างตัวรถที่มีการปรับปรุงขนาดใหญ่ขึ้นในทุกมิติเมื่อเทียบกับในรุ่นก่อนหน้านี้ ดีไซน์เพิ่มความสปอร์ตด้วยเส้นข้างตัวถังและเส้นโครเมียมขอบกระจก รวมทั้งด้านหน้ารถปรับเปลี่ยนกระจังหน้าแบบใหม่ เติมเต็มฟังก์ชันความปลอดภัยใหม่ในระบบ ADAS มาพร้อมกล้องหน้าคู่อัจฉริยะ 3D Imaging Stereo Camera และระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเลี้ยว Turn Assist with AEB 

สำหรับขุมพลังมีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2 ความจุ ได้แก่ 1.9 ลิตร 150 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร และความจุ 3.0 ลิตร 190 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร ใช้เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อมระบบ Rev Tronic และมีระบบขับ 2 ล้อ กับขับ 4 ล้อ ให้เลือก

ราคาจำหน่าย

• Isuzu MU-X รุ่น 1.9 Ddi Active ราคา 1,119,000 บาท

• Isuzu MU-X รุ่น 1.9 Ddi Luxury ราคา 1,314,000 บาท

• Isuzu MU-X รุ่น 1.9 Ddi Elegant ราคา 1,359,000 บาท

• Isuzu MU-X รุ่น 3.0 Ddi Elegant ราคา 1,404,000 บาท

• Isuzu MU-X รุ่น 1.9 Ddi Ultimate ราคา 1,454,000 บาท

• Isuzu MU-X รุ่น 3.0 Ddi Ultimate ราคา 1,499,000 บาท

• Isuzu MU-X รุ่น 3.0 Ddi Ultimate 4WD ราคา 1,599,000 บาท

Mitsubishi Pajero Sport PPV 7 ที่นั่ง จากค่าย Mitsubishi ถึงแม้ว่ารุ่นนี้จะมีอายุนานกว่า 6 ปี แต่ก็ยังมีรุ่นพิเศษลงสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรุ่น Elite Edition และอย่างล่าสุดส่งรุ่นพิเศษ Passion Red Edition ที่มาพร้อมกับสีตัวถังใหม่ สีแดง นอกจากนั้นยังเพิ่มเติมด้วยฟีเจอร์อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยใหม่ ๆ เข้ามาสมทบจากรุ่นเดิมที่มีมา ให้ทั้งฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า Power Tailgate ระบบเปิด-ปิดฝาท้าย โดยไม่ต้องใช้มือ Hands-Free Tailgate หน้าจอสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ขนาด 12.1 นิ้ว พร้อมรีโมต ช่องเชื่อมต่อ HDMI/USB สำหรับหน้าจอด้านหลัง หูฟังอินฟราเรด 2 ชุด สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charger

เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง หน้าจอมาตรวัดแบบ Full Digital พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ LCD ขนาด 8 นิ้ว ระบบกรองอากาศภายในห้องโดยสาร Nanoe กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ ระบบสั่งงานตัวรถผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน MITSUBISHI Remote Control 

ด้านขุมพลังของ Mitsubishi Pajero Sport มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.4 ลิตร 181 แรงม้า แรงบิด 430 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัจฉริยะ 8 สปีด พร้อม Sport Mode

ราคาจำหน่าย

• Mitsubishi Pajero Sport รุ่น 2.4D GT Plus ราคา 1,354,000 บาท

• Mitsubishi Pajero Sport รุ่น 2.4D GT Premium 2WD ราคา 1,473,000 บาท

• Mitsubishi Pajero Sport รุ่น 2.4D GT Premium 4WD ราคา 1,603,000 บาท

• Mitsubishi Pajero Sport รุ่น 2.4D GT-Premium 2WD (Elite Edition) ราคา 1,529,000 บาท

• Mitsubishi Pajero Sport รุ่น 2.4D GT-Premium 4WD (Elite Edition) ราคา 1,634,000 บาท

• Mitsubishi Pajero Sport รุ่น Passion Red Edition 2.4 GT 2WD ราคา 1,299,000 บาท

• Mitsubishi Pajero Sport รุ่น Passion Red Edition 2.4 GT Plus 2WD ราคา 1,353,000 บาท 

• Mitsubishi Pajero Sport รุ่น  Passion Red Edition2.4 GT-Premium 2WD ราคา 1,473,000 บาท 

• Mitsubishi Pajero Sport รุ่น  Passion Red Edition 2.4 GT-Premium 4WD ราคา 1,603,000 บาท

Mitsubishi Xpander ครอสโอเวอร์แบบ 7 ที่นั่ง เพิ่งเปิดตัวโฉมใหม่ 2020 ในช่วงเดือนตุลาคม 2020 โดยปรับดีไซน์ใหม่ โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบ Advanced Dynamic Shield ที่เป็นเอกลักษณ์ของทาง Mitsubishi ส่งผลให้รูปลักษณ์ภายนอกดูสปอร์ตมากขึ้น นอกจากนั้นยังปรับความสูงของตัวรถเพิ่มขึ้นถึง 205 มม. เพื่อให้สามารถลุยเส้นทางแบบออฟโรดเล็ก ๆ ได้อย่างคล่องตัว 

และล่าสุดที่งาน Motor Show 2022 ได้เปิดตัว Mitsubishi Xpander 2022 ปรับโฉมทั้งภายนอกและภายใน ด้วยชุดไฟหน้าใหม่ T-Shape ไฟท้ายทรงเดิมดีไซน์ใหม่ และล้ออัลลอยสีทูโทน ขนาด 17 นิ้ว ภายในห้องโดยสารมีการเปลี่ยนแผงหน้าปัดภายในทั้งหมด หน้าจอระบบความบันเทิงแบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto และกล้องมองหลัง

ในด้านขุมพลังของ Mitsubishi Xpander ทุกรุ่นย่อยจะติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC MIVEC ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติใหม่ Eco-Dynamic CVT รองรับน้ำมัน E20 ได้

ราคาจำหน่าย

• Mitsubishi Xpander รุ่น GLS-LTD ราคา 799,000 บาท

• Mitsubishi Xpander รุ่น GT ราคา 895,000 บาท

Mazda CX-8 เป็นรถอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ระดับพรีเมียม กับที่นั่งแบบ 3 แถว มีให้เลือกทั้งแบบ 6 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง รูปลักษณ์ภายนอกออกแบบให้ดูเรียบหรูตามแบบฉบับ Kodo Design ไฟหน้าโปรเจกเตอร์แบบ LED ปรับระดับสูง-ต่ำแบบอัตโนมัติ มาพร้อมระบบไฟหน้าเปิด-ปิดแบบอัตโนมัติ ไฟ DRL แบบ LED Signature และไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED

ภายในห้องโดยสารเป็นแบบ 3 แถว เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Nappa สีแดง Deep Red เดินด้วยด้ายสีน้ำตาลเข้ม เบาะนั่งด้านหน้าฝั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบปรับเบาะดันหลังไฟฟ้า เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งของเบาะนั่งคนขับ 2 ตำแหน่ง เบาะนั่งแถว 2 เป็นแบบ Captain Seat 2 ที่นั่ง แยกซ้าย-ขวา พร้อมคอนโซลกลาง ส่วนในรุ่น 7 ที่นั่งจะเป็นเบาะเต็มแบบ 3 ที่นั่ง ปรับพับได้แบบ 60:40 และสามารถปรับเอนและเลื่อนหน้า-หลังได้ เบาะที่นั่งแถว 3 รองรับได้ 2 ที่นั่ง ปรับพับได้แบบ 50:50

ขุมพลังมีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ เครื่องยนต์สกายแอ็คทีฟคลีนดีเซล (SKYACTIV-D) ขนาด 2.2 ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน ให้กำลัง 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์สกายแอ็คทีฟเบนซิน (SKYACTIV-G) ขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 194 แรงม้า แรงบิด 258 นิวตันเมตร โดยทั้ง 2 เครื่องยนต์จะถูกส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

ราคาจำหน่าย 

• Mazda CX-8 รุ่น SKYACTIV-G 2.5 S ราคา 1,499,000 บาท

• Mazda CX-8 รุ่น SKYACTIV-G 2.5 SP ราคา 1,599,000 บาท

• Mazda CX-8  รุ่น SKYACTIV-D XDL ราคา 1,799,000 บาท

Audi Q7 รถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง สุดหรูจากยุโรป ที่ได้รับการปรับโฉมใหม่เมื่อปี 2020 จัดเต็มทั้งความหรู สปอร์ตล้ำสมัย ครบครันทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกและความปลอดภัย ดีไซน์ภายนอกใหม่ด้วยกระจังหน้าแบบชิ้นเดียวรูปทรงแปดเหลี่ยม ที่ออกแบบให้กว้างมากกว่ารุ่นเดิม ไฟหน้าแบบ Matrix LED โดยที่ไฟ LED แต่ละดวงจะทำงานเป็นอิสระแยกจากกัน ภายในห้องโดยสารมีหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ แสดงผลและควบคุมแบบสัมผัส (MMI Radio plus) เชื่อมต่อสมาร์ตโฟน รองรับการเชื่อมต่อได้ทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมกับระบบเครื่องเสียงจาก BOSE Premium Sound system แบบ 3 มิติ เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ 2 ตำแหน่ง เบาะผู้โดยสารตอนหลังพับได้หลากหลาย เพื่อเพิ่มความอเนกประสงค์ในการขนสัมภาระชิ้นใหญ่ เมื่อพับเบาะหลังลงราบกับพื้นจะเพิ่มพื้นที่ความจุจาก 890 ลิตร เป็น 2,075 ลิตร

Audi Q7 ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล V6 ขนาด 3.0 ลิตร พ่วงด้วยชุดอัดอากาศแบบไบเทอร์โบ กำลังสูงสุด 249 แรงม้า มาพร้อมแรงบิดที่มากถึง 600 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ Tiptronic 8 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ Quattro Permanent AWD สมรรถนะเร่งจาก 0-100 กม. ในเวลา 6.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 225 กม./ชม.

ราคาจำหน่าย

• Audi Q7 รุ่น 45 TDI quattro ราคา 4,849,000 บาท

• Audi Q7 รุ่น 45 TDI quattro S line ราคา 5,299,000 บาท

BMW ได้เปิดตัวรถรุ่นเรือธงของทางค่ายอย่าง BMW X7 xDrive30d M Sport SUV ขนาดใหญ่ แบบ 7 ที่นั่ง รุ่นประกอบในประเทศเมื่อต้นปี 2021 กับราคาที่ลดลงจากเดิมถึง 3 ล้านกว่าบาท โดยที่ออปชั่นต่าง ๆ ยังจัดเต็มและอยู่ครบ เริ่มจากความสปอร์ตภายนอกด้วยชุดแต่ง M Sport รอบคัน ภายในห้องโดยสารเป็นแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง ที่ทุกเบาะนั่งสามารถปรับได้ด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหุ้มด้วยหนังแท้ Merino หลังคาเป็นแบบ Panorama glass roof Sky Lounge เสริมด้วยเครื่องเสียงจาก Bowers & Willkins จอผู้โดยสารตอนหลังซ้าย-ขวา Rear Seat Entertainment และระบบปรับอากาศเป็นแบบ 5 - Zones พื้นที่เก็บสัมภาระมีความจุ 300 ลิตร สามารถเพิ่มความจุได้สูงสุดถึง 2,120 ลิตร เมื่อพับเบาะแถว 2 และ 3 ลง  

นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยใหม่ มีระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ Parking Assistant Plus ระบบช่วยการขับขี่ Driving Assistant ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control with Stop & Go Function

ในด้านขุมพลังติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบแถวเรียง ขนาด 3.0 ลิตร BMW TwinPower Turbo 265 แรงม้า แรงบิด 620 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 227 กม./ชม.

ราคาจำหน่าย

• BMW X7 xDrive30d M Sport ราคา 5,999,000 บาท

Mercedes-Benz GLS 350d 4MATIC AMG Premium เป็นรถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ระดับเรือธง ของค่ายรถหรูจากเยอรมนี โดยความพิเศษของรถรุ่นนี้อยู่ที่เป็นรุ่นประกอบในประเทศ จึงทำให้มีราคาค่าตัวที่ถูกลงกว่ารุ่นนำเข้าถึง 2 ล้านกว่าบาท มาพร้อมกับชุดไฟหน้าแบบ Multibeam LED ระบบไฟสูง Adaptive Highbeam Assist Plus ที่มีไฟสูงแบบ Ultra Range Highbeam สามารถปรับความเข้มและความยาวของแสงได้อย่างอิสระ พร้อมระบบตรวจจับวัตถุที่ช่วยคำนวณความสว่างได้อัตโนมัติ

เบาะนั่งภายในห้องโดยสารเป็นแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง พร้อมเบาะนั่งแถว 2 สามารถปรับระดับได้ด้วยระบบไฟฟ้าและหน่วยบันทึกความจำ สามารถปรับเลื่อนเบาะถอยหลังได้สูงสุด 10 ซม. เพื่อเพิ่มพื้นที่ leg room ส่วนเบาะที่นั่งแถว 3 เป็นที่นั่งแบบ full-size พร้อมระบบ EASY-ENTRY ที่ออกแบบเป็นพิเศษให้เบาะและพนักพิงของที่นั่งแถว 2 สามารถพับขึ้นด้วยระบบไฟฟ้า เพื่อให้เข้าสู่ที่นั่งแถว 3 ได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ เบาะที่นั่งแถว 2 และ 3 สามารถพับได้อย่างอิสระ เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย และเพิ่มพื้นที่ความจุสำหรับเก็บสัมภาระได้สูงสุดถึง 2,400 ลิตร 

Mercedes-Benz GLS 350d 4MATIC AMG Premium มากับเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 3.0 ลิตร 2,925 ซี.ซี. ให้พละกำลังสูงสุดถึง 286 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9G-TRONIC ขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 7 วินาที มาพร้อมระบบช่วงล่างแบบถุงลม ที่ให้ความสะดวกสบายเช่นเดียวกับในรุ่น S-Class 

ราคาจำหน่าย

• Mercedes-Benz GLS350d ราคา 6,499,000 บาท

นี่เป็นเพียงรถยนต์บางส่วนที่มีวางจำหน่ายในไทย และได้รับความนิยมเป็นเบอร์ต้น ๆ ในตลาด ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีเรตราคาตั้งแต่หลักแสนไปจนถึงหลักล้านบาท และในปีนี้สำหรับรถยนต์แบบ 7 ที่นั่ง คาดว่าคงจะมีหลายค่ายที่นำรถรุ่นใหม่ ๆ มาทดแทนรุ่นเก่าที่ใกล้จะถึงการปรับเปลี่ยนโมเดลแล้ว ส่วนจะเป็นรุ่นไหน แบรนด์ใด ขุมพลังเครื่องยนต์อะไร ต้องติดตามกันให้ดี