ในช่วงวันหยุดยาว การเดินทางไปต่างที่ต่างถิ่นก็อาจจะมีสัมภาระที่ต้องขนมากมาย เรามีทริคเรื่องการขนบรรทุกของในรถยนต์กลุ่มอเนกประสงค์เป็นประโยชน์แก่ทุกคน มี 7 ข้อดังนี้
รถยนต์ทุกรุ่นจะการออกแบบมาให้รับน้ำหนักสูงสุดที่ต่างกัน ซึ่งสามารถเช็กได้จากคู่มือรถยนต์ โดยเฉลี่ยเริ่มตั้งแต่ 400 กิโลกรัมเป็นต้นไป
เริ่มต้นด้วย น้ำหนักโดยประมาณของผู้โดยสารทั้งหมด เฉลี่ย 4 คน 200 กก. ต่อด้วยน้ำหนักของน้ำมันเชื้อเพลิงที่เทียบ 1 ลิตรได้ประมาณ 0.83 กก. หากเต็มถัง 60 ลิตร ก็เทียบได้ 49 กก. เพราะฉะนั้นน้ำหนักสัมภาระก็ไม่ควรเกิน 150 กก.
ทั้งหมดที่กล่าวมาไม่เกี่ยวกับรถกระบะ ที่ระบบกันสะเทือนหลังเป็น "แหนบ" ที่ออกแบบบมาเพื่อบรรทุกหนักได้เป็นตัน
2. รักษาจุดศูนย์ถ่วงให้เหมาะสม
สัมภาระที่หนักสุด ให้วางล่างสุดและลึกสุดในที่เก็บ ที่เหลือกระจายน้ำหนักทั่วทั้งพื้นที่บรรทุก ช่วยให้ศูนย์ถ่วงต่ำลง ลดอาการล้อหน้ารถลอย ลดโอกาสในการพลิกคว่ำ
3. รัดให้แน่นปลอดภัยดี
ป้องกันไม่ให้สัมภาระกลายเป็นสิ่งอันตรายเมื่อต้องเบรกกระทันหัน
เลี่ยงการบรรทุกถึงเพดานรถและมองกระจกหลังได้ชัดเจน เพื่อความปลอดภัยเวลาจอดรถ หรือระหว่างขับมองกระจกหลังเช็กได้ก่อนเปลี่ยนเลน
5. การเก็บสัมภาระไว้บนหลังคา
การบรรทุกสัมภาระบนหลังคารถยนต์ ควรมีแร็คหลังคาอย่างถูกต้องพร้อมราง แต่ที่คุณควรรู้ไว้ว่ามีผลเสียเรื่องอากาศพลศาสตร์และศูนย์ถ่วง ส่งผลต่อการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงและการควบคุมแม้ใช้ความเร็วต่ำ และต้องระมัดระวังอย่างยิ่งเรื่องความแน่นหนาในการเก็บสัมภาระ และหุ้มด้วยวัสดุกันน้ำ
6. อย่าลืมตรวจสอบลมและสภาพยาง
ยางอยู่ในสภาพดี ดอกยางไม่สึกหรอเกินใช้งาน เติมลมยางอย่างถูกต้องเหมาะสม ตามคำแนะนำที่แสดงไว้บริเวณประตูด้านข้างของคนขับ ด้านในฝาน้ำมัน หรือในคู่มือผู้ใช้งาน
เช็กความจำเป็นให้ดีอีกครั้ง "ไม่จำเป็น" ก็ไม่ควรขนบรรทุกไป
ก่อนออกเดินทางหากมีสัมภาระที่ต้องบรรทุกไปเยอะ ๆ ก็อย่างลืมเช็ก 7 ข้อนี้เพื่อความปลอดภัย บางครั้งเราอาจจะหลงลืม ละเลยไป ก็หวังว่าเรื่องนี้จะช่วยคุณได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก เชฟโรเลต ประเทศไทย
