ม.ล.ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดูคาทิสติ จำกัด หรือดูคาติไทยแลนด์ กล่าวถึงการนำรถโมเดลใหม่มาเปิดตัวในงาน Motor Expo 2017 ว่า "หนึ่งในนโยบายการตลาดของดูคาติไทยแลนด์คือการนำรถดูคาติรุ่นใหม่ ๆ ที่มีความแตกต่างทางด้านสมรรถนะและคาแรกเตอร์การใช้งานมาเปิดตัวให้ลูกค้าในเมืองไทยได้เลือกและสัมผัสอยู่เสมอ
ตั้งแต่ต้นปี 2017 ที่ผ่านมา ทางบริษัทฯ มีการเปิดตัวรถดูคาติในเมืองไทยไปแล้วทั้งหมด 5 รุ่น และดูคาติไทยแลนด์ได้มีการนำรถรุ่นใหม่ล่าสุดที่ทางบริษัทแม่ที่อิตาลีเพิ่งเปิดตัวในงาน EICMA 2017
นอกจากนี้ ทางดูคาติไทยแลนด์ยังคงมุ่งเน้นนโยบายการตลาดที่สำคัญทางด้านการบริการหลังการขายกับ Ducati Smart Service Package โดยการปรับโครงสร้างราคาการตรวจเช็คตามระยะและราคาอะไหล่สิ้นเปลือง ให้สอดคล้องกับราคาของรถดูคาติที่จำหน่ายในประเทศไทย ทำให้ค่าบำรุงรักษารถดูคาติทุกรุ่นมีราคาลดลงประมาณ 42.5% โดยเฉลี่ยทุกรายการ โดยสามารถเช็ครายละเอียดราคาเช็คระยะของรถแต่ละรุ่นได้ที่ ducatismartservice.com"
Ducati Panigale V4
จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่จะมาทดแทนรุ่น 1299 Panigale ซึ่งจะก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของ Superbike ในสายการผลิตของ Ducati โดยการเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถของตัวรถ ในการมอบความตื่นเต้นเร้าใจไปกับ Panigale V4 ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยได้รับความร่วมมือจากทีม Ducati Corse เพื่อนำความรู้และเทคโนโลยีจากโลกของการแข่งขัน สู่รถจักรยานยนต์ที่ให้อารมณ์แห่งการขับขี่และสมรรถนะของเทคโนโลยีที่ใกล้เคียงกับรถในการแข่งขัน MotoGP มากที่สุด
ออกแบบใหม่หมด ทั้งในส่วนของเครื่องยนต์และแชสซีที่ทันสมัยรวมถึงระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ผสมผสานเทคโนโลยีของ Ducati กับการออกแบบที่มีสไตล์และประสิทธิภาพการใช้งานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว
ดีไซน์โดดเด่นสง่างาม พละกำลังแรงบิดมหาศาล และเทคโนโลยีล้ำสมัย คือคำจำกัดความของ Ducati Panigale V4 ที่ทีมออกแบบกำหนดทิศทางของรถคันนี้ให้ออกมาในรูปแบบสปอร์ตสัญชาติอิตาเลียนได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ยังคงเน้นส่วนโค้งเว้าอันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของยานยนต์จากอิตาลี แต่ได้เพิ่มเส้นสายที่เฉียบคมเพื่อตอกย้ำบุคลิกของตัวรถให้เป็นผู้นำแห่งโลกใหม่ของรถ Superbike อย่างแท้จริง
ขุมกำลัง Ducati Panigale V4 กับเครื่องยนต์ Desmosedici Stradale ที่ได้รับการออกแบบมาจากเทคโนโลยีที่เป็นสายพันธุ์ตรงจาก MotoGP ด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบแบบ V4 ทำมุม 90 ° กับปริมาตรความจุ 1,103 ซีซี มาพร้อมกับระบบ counter-rotating crankshaft
โดยปกตินั้นระบบนี้จะอยู่ในรถที่ใช้แข่งขันใน MotoGP เท่านั้น ประกอบกับ Desmodromic valves แบบ 4 วาล์วต่อสูบ ด้วยทั้งหมดนี้ จึงรีดแรงม้าออกมาได้ถึง 214 แรงม้า (157.5 กิโลวัตต์) ที่ 13,000 รอบต่อนาที และเรียกแรงบิดสูงสุดได้ที่ 122 นิวตันเมตร (12.44 กิโลกรัม) ที่ 10,000 รอบต่อนาที กับน้ำหนักตัวที่ไม่รวมของเหลวเพียง 174 กก. ในรุ่น S และ 175 กก. สำหรับรุ่นธรรมดา
รถที่ใช้งานบนถนนโดยทั่วไปนั้น เพลาข้อเหวี่ยงจะหมุนไปในทิศทางเดียวกันกับการหมุนของล้อ แต่ในทางตรงกันข้าม ในรถที่ใช้ในการแข่งขัน MotoGP นั้น จะใช้เพลาข้อเหวี่ยงที่หมุนไปใน ทิศทางที่ตรงกันข้ามกับล้อ
สำหรับเครื่องยนต์ Desmosedici Stradale ที่ได้ประจำการอยู่ใน Ducati Panigale V4 นั้นได้หยิบยืมยืมเทคโนโลยีนี้จาก MotoGP เพื่อให้ตัวรถนั้นสามารถชดเชยแรงเฉื่อยที่เกิดขึ้นได้ ส่งผลให้ Ducati Panigale V4 มีความคล่องตัวและแม่นยำมากขึ้น สามารถพลิกรถเพื่อเปลี่ยนทิศทางระหว่างโค้งได้อย่างสมดุลย์และต่อเนื่องมากขึ้น
ระบบความปลอดภัยของ Ducati Panigale V4 นั้นได้กำหนดมาตรฐานและสมรรถนะใหม่ในการมอบความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยการควบคุมยานยนต์ด้วยชุดอิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัย 6D IMU เพื่อเพิ่มศักยภาพสูงสุดในการประมวลผลแกนหมุนทั้งหกแกนจาก Bosch
6D IMU จะอ่านค่าต่าง ๆ พร้อมประมวลผลและสั่งการให้ระบบอ่านค่าความปลอดภัยต่างๆ อาทิเช่น
- Cornering ABS EVO (เพิ่มประสิทธิภาพการเบรคขณะที่รถอยู่ในมุมเอียง)
- Ducati Traction Control EVO (ป้องกันการหมุนฟรีของล้อ)
- Ducati Wheelie Control (ป้องกันการยกตัวของล้อหน้า)
- Ducati Slide Control (ช่วยการควบคุมอาการสไลด์ขณะอยู่ในโค้ง)
- Engine Brake Control EVO (สามารถปรับระดับของอาการหน่วงจากเครื่องยนต์ขณะยกคันเร่ง)
ทั้งหมดนี้ เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเพลิดเพลินไปกับอรรถรสในการขับขี่และเรียกประสิทธิภาพของ Panigale V4 ออกมาได้อย่างสมบูรณ์
ราคาพิเศษเฉพาะช่วงเปิดตัว Motor Expo 2017 ของ Ducati Panigale V4
- Ducati Panigale V4 949,000 บาท
- Ducati Panigale V4 S อยู่ที่ 1,149,000 บาท
