ใต้ไฟหน้าออกแบบช่องดักอากาศขนาดใหญ่สองด้านเพื่อระบายความร้อนคาลิเปอร์เบรกไฟฟ้า และอีกหนึ่งจุดเด่นคือครีบที่ตำแหน่งเสา C ถูกออกแบบให้ Mitsubishi e-Evolution Concept มีการจัดระเบียบกระแสลมที่ไหลผ่านด้านข้างตัวรถเพื่อผลทางด้านอากาศพลศาสตร์ดีเยี่ยม
ขณะที่การแบ่งสัดส่วนของ Mitsubishi e-Evolution Concept นั้นเน้นให้มีโอเว่อร์แฮงก์หน้าสั้น กระจกบังลมหน้าเหยียดยาวไปข้างหน้าเนื่องจากไม่ต้องมีเครื่องยนต์สันดาปภายในอีก ใต้ท้องรถสูงจากพื้นได้มากขึ้น ส่วนเส้นบ่าแข็งแกร่ง กลางตัวรถสอบเน้นซุ้มล้อชัดเจนแสดงถึงความว่องไวปราดเปรียว และมีล้อขนาดใหญ่ก็เพื่อให้ดูเป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ทรงพลังมากด้วยแรงบิดมหาศาลและยังอัจฉริยะด้วยระบบ Active Yaw Control แบบใหม่ล่าสุด เพื่อควบคุมแรงบิดของมอเตอร์ที่ส่งไปยังแต่ละล้อตามความเหมาะสม ส่งผลให้ Mitsubishi e-Evolution Concept เข้าโค้งได้อย่างรวดเร็ว มั่นคง ปลอดภัยมากขึ้น เป็นต้น
ซึ่ง Mitsubishi ตั้งใจให้ Form นำหน้า function คือยึดการใช้งานเป็นหัวใจสำคัญแล้วปรับดีไซน์ให้ลงตัว รวมถึงมีระบบ AI ที่ทำตัวเป็นเหมือนสิ่งมีชีวิตคิดเป็น สามารถเรียนรู้ผู้ขับได้ว่ามีทักษะอยู่ในระดับใดและถึงขั้นสอนมวย (หมายถึงสอนวิธีขับ) ให้ด้วยก็ได้ถ้าต้องการ นอกจากนี้ยังพร้อมเป็นทาสรับใช้เชื่อมต่อกับโลกภายนอกได้ ฟังภาษาคนและตอบโต้ด้วยภาษาคนรู้เรื่องเรียกว่าฉลาดมาก...ฉลาดกว่าเรา แต่ก็พร้อมที่จะรับใช้เราอย่างเต็มที่ด้วยเช่นกัน
ทั้งหมดไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันและแนวคิดของ Mitsubishi e-Evolution Concept ก็อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงทั้งหมด ไม่มีอะไรที่เกินศักยภาพของกลุ่ม Renault-Nissan-Mitsubishi หรือแม้กระทั่งนายใหญ่ที่กุมบังเหียน Mitsubishi อย่าง Carlos Ghosn แม้แต่น้อย และนั่นก็น่าจะทำให้น่าจับตาว่า Mitsubishi จะฝ่าอุปสรรคได้เหมือนรถ SUV เพื่อไปให้ถึงจุดหมายที่เรียกว่าความสำเร็จได้หรือไม่