Mercedes-Benz GLA-Class 2017 ใหม่ ปรับโฉมราคาเดิม เริ่มต้น 2.09 ล้านบาท

          Benz gla 2017 ปรับโฉมใหม่ ประกอบในประเทศ ราคาเท่าเดิม โดย Mercedes-Benz GLA 200 Urban ราคา 2,090,000 บาท และ Mercedes-Benz GLA 250 AMG Dynamic ราคา 2,390,000 บาท ส่วน Benz gla 2017 เวอร์ชั่นแรง AMG GLA 45 4MATIC ราคาปรับเพิ่มเป็น 4,840,000 บาท (ประกอบนอก)



           เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2560 บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดงานเปิดตัว Mercedes-Benz GLA-Class 2017 ใหม่ ปรับโฉมตามตลาดโลกเป็นที่เรียบร้อย โดยรุ่นประกอบในประเทศยังคงมีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ราคาเท่าเดิม ได้แก่ Mercedes-Benz GLA 200 Urban ราคา 2,090,000 บาท และ Mercedes-Benz GLA 250 AMG Dynamic ราคา 2,390,000 บาท ส่วนเวอร์ชั่นแรง Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC ราคาปรับเพิ่ม 150,000 บาท จากเดิม 4,690,000 บาท เป็น 4,840,000 บาท




           สำหรับการเปลี่ยนแปลงของ Mercedes-Benz GLA-Class 2017  นั้นแค่เชนจ์เบา ๆ แค่พอให้มีจุดสังเกตได้ เช่น ลายกระจังหน้าใหม่, ไฟหน้าใหม่ LED High Performance (ทรงเดิม) ที่ให้อุณหภูมิของแสงใกล้เคียงกับแสงสว่างในเวลากลางวัน ซึ่งช่วยลดความเครียดทางสายตาของผู้ขับขี่, กันชนหน้าดีไซน์ใหม่โดยทั้ง 3 รุ่น จะแตกต่างกัน ไฟท้ายใหม่ภายใต้กรอบทรงเดิม, แผงใต้กันชนท้ายและล้ออัลลอยลายใหม่ซึ่งแต่ละรุ่นย่อยก็จะมีดีไซน์ไม่เหมือนกัน

           ทั้งนี้ในส่วนของภายใน Mercedes-Benz GLA-Class 2017 ทั้ง 3 รุ่น หลัก ๆ แล้วแทบไม่เปลี่ยนจากเดิม ซึ่งบางจุดปรับรายละเอียดให้ดูทันสมัยขึ้น เช่น แถบประดับลายใหม่ พวงมาลัยสามก้านดีไซน์ต่างจากเดิมเล็กน้อยและดูเนี้ยบขึ้น ส่วนที่แย่ลงหน่อยเห็นจะเป็นฝาปิดช่องเก็บขวดน้ำตรงจุดที่รถปกติจะเป็นตำแหน่งคันเกียร์นั้นกลับไม่มีฝาปิด (ยกเว้น Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC เท่านั้นที่มีคันเกียร์) ซึ่งรุ่นเดิมมีและรุ่นปรับโฉมในต่างประเทศก็ยังมีหรือใครเอาไปซ่อนไว้ไหน นอกเหนือจากนี้ก็แทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง โดยแต่ละรุ่นย่อยจะตกแต่งต่างกันดังนี้




           - Mercedes-Benz GLA 200 Urban จะได้เบาะหุ้มหนังสังเคราะห์ ARTICO สีซาฮารา เบจ สำหรับตัวถังภายนอกสีดำ คอสโม แบล็ก และเบาะสีดำ สำหรับตัวถังภายนอกสีขาว เซอร์รัส ไวท์, สีเงิน โพลาร์ ซิลเวอร์ และสีเทา เมาน์เทน เกรย์ ส่วนแถบประดับเป็นอะลูมิเนียมลาย Sail-Pattern




           - Mercedes-Benz GLA 250 AMG Dynamic จะได้เบาะสีดำเย็บตะเข็บแดงทรงสปอร์ตหุ้มหนังสังเคราะห์ ARTICO และผ้าไมโครไฟเบอร์ DYNAMICA แบบเดียว ไม่ว่าตัวถังภายนอกจะเป็นสีใดก็ตาม (สีตัวถังภายนอกมีให้เลือกเหมือนกับ GLA 200 Urban) ส่วนแถบประดับอะลูมิเนียมโทนสว่างลายเส้นขวาง (longitudinal grain)
 



           - Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC จะได้เบาะสีดำเย็บตะเข็บแดงทรงสปอร์ตหุ้มหนัง ส่วนแถบประดับค่อนข้างโดดเด่นด้วยลายคาร์บอนไฟเบอร์เพนต์ลาย ตัดด้วยเส้นสีแดง Red Cut ตามจุดต่าง ๆ แผงหน้าปัดและแผงประตูหุ้มหนัง เข็มขัดนิรภัยสีแดง ส่วนพวงมาลัยยังเป็นแบบปาดเรียบด้านล่างหุ้มด้วยหนัง Nappa สลับวัสดุสังเคราะห์ DYNAMICA ไมโครไฟเบอร์กันลื่น

           ในส่วนทางด้านอุปกรณ์มาตรฐานที่ Mercedes-Benz GLA 200 Urban แตกต่างกับ Mercedes-Benz GLA 250 AMG Dynamic มีดังนี้
 
           ขณะที่ Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC จะมีอุปกรณ์มาตรฐานมากกว่าทั้ง 2 รุ่น เช่น ระบบอุ่นเบาะ (เพราะประกอบนอก), ระบบเครื่องเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon Logic 7, ระบบปรับรูปแบบการขับขี่ AMG DYNAMIC SELECT (มีทั้งหมด 5 รูปแบบ ได้แก่ Individual, Comfort, Sport, Sport+ และ Race), ระบบกันสะเทือน AMG Sport Suspension, ระบบเบรก AMG High-Performance, ล้ออัลลอย AMG ขนาด 20 นิ้ว, ชุดแต่งรอบคัน AMG Aerodynamics package และ AMG Night package รวมถึงชุดท่อระบายไอเสีย AMG Performance exhaust system ที่มีปลายท่อไอเสีย 4 ท่อ (ฝั่งละ 2 ท่อ) ตกแต่งด้วยสีดำ เป็นต้น

           ทางด้านขุมพลังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง Mercedes-Benz GLA-Class 2017 ทุกรุ่นยังใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ เทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ เหมือนกันโดยมีรายละเอียดต่างกันดังนี้
 
           ส่วนระบบส่งกำลัง Mercedes-Benz GLA-Class 2017 ทั้ง 2 รุ่น จะใช้เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด (7G-DCT) พร้อมแพดเดิลชิฟต์ที่พวงมาลัย ส่วน Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC จะใช้เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด แบบสปอร์ตจาก AMG (AMG SPEEDSHIFT DCT 7 Speed) พร้อมแพดเดิลชิฟต์ที่พวงมาลัย รวมถึงใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC

           สรุปคือ Mercedes-Benz GLA-Class 2017 ใหม่ เปลี่ยนไม่มากแต่เน้นปรับให้ดูสปอร์ต สดใสและทันสมัยมากขึ้นซึ่งเราก็ชินแล้ว แต่ก็อย่าไปคิดมากเนื่องจากราคายังเท่าเดิมสำหรับรุ่นประกอบในประเทศ ทั้งนี้หากใครสนใจก็ลองไปชมคันจริงกันได้เลย