โดย Panasonic เริ่มเดินหน้าผลิตหลังคาโซลาร์เซลล์ 180 วัตต์ สำหรับติดตั้งบนหลังคารถยนต์อย่างเต็มตัวเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งหลังคารถยนต์โซลาร์เซลล์นั้นเป็นทางออกที่มีศักยภาพเพียงพอที่จะทำให้ Panasonic สามารถต่อสู้กับจีนได้ในสภาวะที่มีการแข่งขันสูงของอุตสาหกรรมโซลาร์เซลล์จากราคาที่ลดต่ำลงมาก ทั้งนี้ Panasonic ยังมีความพร้อมในการผลิตแผงโซลาร์เซลล์เพื่อให้ผู้ผลิตรายอื่นนำไปปรับใช้เป็นหลังคาบ้าน ผนังตึก หลังคาเต็นท์ ไปจนถึงกระเป๋าเป้ Backpack
นายชินโกะ โอกาโมโตะ ตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปและเป็นหนึ่งในผู้ดูแลการพัฒนาเทคโนโลยีของ Panasonic ได้กล่าวว่า "หลังคารถยนต์มีศักยภาพมากสำหรับตลาดอุตสาหกรรมแผงโซลาร์เซลล์ เราได้สร้างประวัติศาสตร์ในอุตสาหกรรมยานยนต์รวมถึงอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยการผลิตหลังคารถยนต์โซลาร์เซลล์ในแบบจำนวนมาก (Mass-Production) เป็นครั้งแรกของโลก"
นอกจากนี้นายอีลอน มัสก์ แชร์แมน ของ Tesla Motors ยังได้ทวีตผ่าน Twitter ด้วยว่าในเดือนพฤศจิกายนนี้ Tesla Model 3 อาจมาพร้อมกับหลังคาโซลาร์เซลล์ ซึ่งคงจะเป็นออปชั่นให้เลือกติดตั้ง ขณะที่ Nissan Leaf (โฉมปัจจุบัน) เองก็มีหลังคาโซลาร์เซลล์ขนาดจิ๋วให้เลือกติดตั้งเป็นออปชั่นด้วยเช่นกัน (บริเวณสปอยเลอร์หลัง) ซึ่งพลังงานไฟฟ้าที่ได้จากหลังคาโซลาร์เซลล์นั้นจะถูกนำไปใช้สำหรับระบบปรับอากาศและวิทยุ ตามคำกล่าวของนายนิค แม็กฟิลด์ โฆษกของ Nissan ดังนั้นหลังคารถยนต์โซลาร์เซลล์คือตลาดใหม่และเป็นโอกาสที่สำคัญของ Panasonic ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามจากการที่ Toyota Prius Plug-in Hybrid 2017 เป็นรถยนต์ที่ผลิตแบบจำนวนมาก (Mass-Production) รุ่นแรกที่ติดตั้งหลังคาโซลาร์เซลล์ได้จำหน่ายในญี่ปุ่นซึ่งมีสภาพอากาศและฤดูกาลเป็นตัวแปรสำคัญนั้นพบว่าสามารถเพิ่มระยะการเดินทางได้ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะเพิ่มได้มากกว่านี้อีกหากมีพื้นที่มากพอสำหรับติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการดีไซน์เป็นหลัก
ยุคของรถไฟฟ้าคงจะมาถึงแน่แล้วและอาจเร็วกว่าที่คิด ดังนั้นใครเห็นโอกาสและปรับตัวก่อนย่อมได้เปรียบ เพราะถ้าหากคิดช้าทำช้าอาจล้าหลังและสุดท้ายต้องกลายเป็นซากฟอสซิลในที่สุด
ภาพจาก Toyota, Tesla และ Nissan
