หากใครที่กำลังสงสัยว่าเพราะเหตุใด Honda Civic Type R 2017 ใหม่ เจ้าของสถิติรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้าที่เร็วที่สุดในสนามนูร์เบอร์กริงต้องมีปลายท่อไอเสียที่ออกกลางลำตัวรถถึง 3 ท่อ ซึ่งไม่ใช่เหตุผลที่ช่วยให้ Honda Civic Type R 2017 มีพละกำลังสูงถึง 320 แรงม้า (PS) แน่นอน หรือนี่อาจเป็นแค่การตกแต่งไร้สาระเลียนแบบซูเปอร์คาร์อย่าง Ferrari 458 Italia เพื่อข่มคู่ต่อสู้แสร้งว่าให้ดูดุดันขึ้นเท่านั้น
ในประเด็นนี้วิศวกรของ Honda ได้เฉลยกับทาง Road & Track แล้วว่าทำไมเครื่องยนต์แค่ 4 สูบ ของ Honda Civic Type R 2017 ใหม่ ถึงต้องมีปลายท่อ 3 ท่อ โดยท่อตรงกลางนั้นมีขนาดหน้าตัดเล็กกว่าอีกสองท่อที่ประกบอยู่ด้านข้าง เหตุผลหลักนั้นก็เพื่อ "ความสบาย" ของผู้ขับขี่และผู้โดยสารสำหรับการเดินทางด้วยความเร็วสูงเป็นระยะเวลานาน ๆ กล่าวคือหากไม่มีท่อที่ 3 แล้ว Honda Civic Type R 2017 ใหม่ จะสร้างเสียงที่ดังกระหึ่มกึกก้องอยู่ตลอดเวลาขณะเดินทางด้วยความเร็วสูง และมันก็จะรบกวนจนทำให้ผู้โดยสารรวมถึงผู้ขับขี่นั่งได้ไม่สบายจากการที่ต้องระบายไอเสียออกในปริมาณมาก
แต่ในขณะเดียวกัน Honda ยังต้องการให้ Honda Civic Type R 2017 ใหม่ มีเสียงที่สปอร์ตดุดัน เร้าอารมณ์ ไม่เงียบเกินไปจนน่าเบื่อโดยมีข้อแม้ว่าเสียงที่เกิดขึ้นนั้นต้องไม่ทำร้ายโสตประสาทผู้ขับขี่แบบที่พอลงจากรถแล้วหูแทบดับ
ซึ่งผู้ผลิตรถยนต์ล้วนต้องการให้เป็นแบบนั้นโดยไม่จำเป็นต้องปรุงแต่งด้วยเสียงสังเคราะห์ รวมถึงการใช้ระบบไอเสียแบบ Multi-mode ที่ซับซ้อนซึ่งทำให้มีต้นทุนสูงขึ้น ดังนั้นทางออกที่ลงตัวที่สุดสำหรับ Honda Civic Type R 2017 คือการแยกท่อออกมาเป็น 3 ท่อ โดยสองท่อที่มีขนาดใหญ่จะต่อตรงจากหม้อพัก ส่วนท่อกลางซึ่งมีขนาดหน้าตัดเล็กกว่าจะทำหน้าที่เปรียบเสมือนตัวลดเสียงไอเสีย (Resonator) ซึ่งก็เหมือนกับเป็นหม้อพักลักษณะหนึ่งแยกออกมาต่างหากเพิ่มอีกหนึ่งจุดแบบเฉพาะกิจ
ที่ความเร็วต่ำ-เมื่อเหยียบคันเร่งเจ้า Honda Civic Type R 2017 จนมิดออกจากจุดหยุดนิ่ง ไอเสียจะไหลผ่านท่อกลางออกไปและแผดเสียงคำรามดุดันตามปกติ แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงความเร็วสูงขณะเดินทางปริมาณไอเสียที่ไหลผ่านท่อกลางนั้นจะมีความถี่สูงและรุนแรง (resonant frequency) โดยตัวลดเสียงไอเสีย (Resonator) ทรงกระบอกที่อยู่แถว ๆ ปลายท่อไอเสียกลางก็จะกักไอเสียไม่ให้ไหลออกไว้ด้วยอากาศส่งผลให้เกิดแรงดันไหลย้อนกลับออกไปยังหม้อพัก (Muffler) สองข้าง (ซึ่งออกแบบให้เก็บเสียงได้ดีกว่าท่อกลางที่ทำหน้าที่เป็น Resonator) และปล่อยไอเสียออกไปทางปลายท่อขนาดใหญ่แทน โดยกระบวนการทั้งหมดจะช่วยลดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารขณะวิ่งด้วยความเร็วสูง
มันคือผลที่เกิดจากตัวลดเสียงไอเสีย (Resonator) หรือหม้อพักรูปแบบหนึ่งภายใต้ตัวแปรที่เปลี่ยนแปลง ตัวลดเสียงไอเสียของท่อกลางจะเริ่มกักไอเสีย จากการเกิด Venturi Effect ภายในและผลักไอเสียให้ไหลออกไปยังหม้อพักทั้งสองข้างแทน ซึ่งช่วยลดทอนเสียงรบกวนโดยที่ไอเสียยังสามารถไหลผ่านออกไปได้ในปริมาณเท่าเดิม
แน่นอนว่าท่อไอเสีย 3 ท่อ นั้นเกิดจากความตั้งใจให้ใกล้เคียงกับท่อของ Ferrari 458 Italia ที่ไม่ใช่แค่เพียงตั้งใจให้ดูเหมือนไฮเปอร์คาร์อย่าง Ferrari F40 รุ่นดังในอดีตเท่านั้น เพียงแต่ระบบของ Ferrari จะซับซ้อนขึ้นด้วยวาล์วเปิด-ปิดและทำหน้าที่สลับกับ Honda Civic Type R 2017 โดยไอเสียจะไหลผ่านท่อกลางหากเครื่องยนต์ทำงานไม่เกิน 3,000 รอบ (Silent Mode) เพื่อไม่ให้ส่งเสียงดัง และบายพาสวาล์วจะเปิดเมื่อวิ่งด้วยความเร็วที่รอบสูงเกิน 3,000 รอบ ขึ้นไป ไอเสียก็จะไหลผ่านท่อไอเสียที่ใหญ่กว่าสองข้าง เสียงท่อก็จะแผดดังสนั่นหวั่นไหวเพื่อความเร้าใจ (ประเภท ราคาและ Purpose ของรถต่างกันวิธีคิดจึงแตกต่างไปด้วย) แต่การมีท่อที่ 3 นั้นเพื่อจุดประสงค์เดียวกันแต่หลักการสลับกัน
นี่คือคำเฉลยจากวิศวกรของ Honda ถึงเหตุผลว่าทำไม Honda Civic Type R 2017 จึงมี 3 ท่อ เพราะสิ่งที่ปรากฏนี้คือการออกแบบที่เรียบง่ายเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมโดยปราศจากกลไกหรือสมองกลซึ่งไม่มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนที่ มันจะคงทนและเป็นทางออกที่ถูกกว่า
ภาพจาก Road & Track และ Honda
