หลุดตารางเทียบสเปค Tesla Model 3 กับ Model S เพื่อลดยอดขาย !!!

          หลุดตารางเทียบสเปคให้เห็นกันชัด ๆ ระหว่าง Tesla Model 3 ราคาเริ่มต้น 1.2 ล้านบาท กับ Tesla Model S ราคาเริ่มต้น 1.98 ล้านบาท ว่าห่างชั้นกันแค่ไหน หลัง Tesla เป็นกังวลกับยอดขายของ Tesla Model 3 ที่ดีเกินงามจนกระทบกับ Tesla Model S

          เมื่อ Tesla Model 3 ขายดีเกินไปก็ดันกลับกลายเป็นปัญหาสำหรับ Tesla Motors ซะแล้ว และเรื่องชวนปวดหัวนี้ก็ได้ถูกเปิดเผยหลังจากมีภาพตารางเปรียบเทียบสเปคอย่างละเอียด (กว่าบนเว็บไซต์) ระหว่าง Tesla Model 3 กับ Tesla Model S ซึ่งเตรียมไว้สำหรับพนักงานขายของ Tesla หลุดออกมาว่อนอินเทอร์เน็ตก่อนที่คันจริงจะได้ออกมาวิ่งกันเสียอีก

          ตารางเปรียบเทียบดังกล่าวถูกนำมาเผยแพร่โดยเว็บเพจ model3ownersclub.com ซึ่งเป็นข้อมูลภายในและจัดทำขึ้นภายใต้แคมเปญ Anti-sell เพื่อ "ลดยอดจอง" จำนวนมหาศาลของ Tesla Model 3 (ราคาเริ่มต้น 35,000 ดอลลาร์ ราว 1.2 ล้านบาท) และพยายามโน้มน้าวให้ลูกค้าหันกลับมาซื้อ Tesla Model S (ราคาเริ่มต้น 57,700 ดอลลาร์ หรือ 1.98 ล้านบาท ในรุ่น 75 kWh ไปจนถึง 128,200 ดอลลาร์ หรือ 4.4 ล้านบาท สำหรับ 100 kWh P100D) มากขึ้น


          ทั้งนี้นายอีลอน มัสก์ ได้ออกมายอมรับว่าเริ่มมีความกังวลในเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย เพราะกระทบกับ Tesla Model S รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหญ่ที่หรูเลิศและแพงกว่าเต็ม ๆ จนต้องคิดแคมเปญ Anti-sell นี้ขึ้นมาเพื่อสร้างความชัดเจนว่า "Tesla Model 3 ไม่ใช่รถโมเดลใหม่เอี่ยมของ Tesla เพราะ Tesla Model 3 คือ Tesla Model S ในเวอร์ชั่นที่เล็กกว่า ราคาประหยัดและมีฟีเจอร์ต่าง ๆ ด้อยกว่าเท่านั้น" ซึ่งตารางเปรียบเทียบที่ทำออกมาจะช่วยให้พนักงานขายอธิบายให้ลูกค้าเห็นภาพมากขึ้นว่าควรเลือกรุ่นไหน (ใจจริงก็คงอยากบอกว่าซื้อ Tesla Model S เถอะนะขอร้อง)


          ทั้งนี้จากตารางก็พยายามแสดงปมด้อยของ Tesla Model 3 เทียบกับปมเด่นของ Tesla Model S ให้เห็นอย่างชัดเจน ซึ่งแน่นอนว่ากลบมิดทุกประตู ตั้งแต่ขนาด สมรรถนะที่ด้อยกว่าราวฟ้ากับเหว (อันที่จริงอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลาประมาณ 5.6 วินาที ของ Tesla Model 3 ก็เร็วจนขนลุกแล้ว) เมื่อชาร์จไฟเต็มก็วิ่งได้ระยะทางไกลน้อยกว่าโดยทำได้เพียง 346 กิโลเมตร เท่านั้นเอง และทุกครั้งที่ชาร์จไฟแบบ Supercharging ลูกค้า Tesla Model 3 ก็ต้องเสียเงินต่างกับ​ Tesla Model S ชาร์จฟรีแบบไม่มีลิมิต เรียกว่าชักแม่น้ำทุกสายมารวมกันเพื่อบลัฟน้องเล็กคันสุดท้องกันน่าดู

          นอกจากนี้ฟีเจอร์เด่น ๆ อย่างระบบปรับอากาศฆ่าเชื้อแบคทีเรีย (HEPA Filtration System), ตัวถังอะลูมิเนียม, ระบบกันสะเทือนแอคทีฟแบบสปริงลม, หลังคากระจกและพาโนรามิคซันรูฟ, มือจับประตูดีดตัวออกอัตโนมัติ, รายการของตกแต่งมีให้เลือกปรับเปลี่ยนได้ตามใจกว่า 1,500 รายการ รวมถึงล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว ก็ไม่มีใน Tesla Model 3 ที่สำคัญคือถ้าจอง Tesla Mode S ตอนนี้ ไม่เกิน 30 วัน ก็ได้รับรถไปขับแน่นอน แต่ถ้าเป็น Tesla Model 3 อาจต้องรอนานเป็นปี ๆ (หรือนานกว่านั้น) เพราะยอดจองเยอะมากเหลือเกินและล็อตแรก 5,000 คัน น่าจะเริ่มส่งมอบได้ช่วงปลายปี 2017 นู่นเลยทีเดียว

          ฟังดูอาจไม่น่าสาหัสเท่าไรแต่...ปัจจุบันตัวเลขยอดจองของ Tesla Model 3 นั้นทะลุ 400,000 คัน ไปแล้ว โดยกำลังการผลิตแบบเต็มเหนี่ยวในปี 2018 คาดว่าจะทำได้สูงสุดที่ 10,000 คัน ต่อสัปดาห์เท่านั้น เห็นอย่างนี้จะเปลี่ยนใจรับเป็น Tesla Model S ไปขับก่อนดีไหมล่ะ

ภาพจาก Tesla, Carscoops และ model3ownersclub