Furion M1 บิ๊กไบค์ไฮบริด สปอร์ตและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยเครื่องยนต์โรตารี่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ผลลัพธ์ที่ได้คือพละกำลังระดับ 180 แรงม้า ว่าแต่มีใครสนใจลงทุนกับไอเดียนี้บ้างไหม
มีใครแถวนี้อยากได้บิ๊กไบค์ขุมพลังไฮบริดบ้างหรือเปล่า...จริง ๆ มันก็อาจไม่ได้น่าสนใจอะไรมากมายนักหากเมืองไทยยังไม่ได้เข้มงวดกับมาตรฐานการปล่อยไอเสียแบบยุโรป หรือตราบใดที่ราคาน้ำมันยังไม่แพงไปกว่าน้ำอัดลมมากนัก แต่ถ้าสมมุติว่าเมื่อไรที่สถานการณ์รอบตัวเปลี่ยนไป (เดี๋ยวนี้เปลี่ยนได้เร็วเสียด้วย) คุณอาจเริ่มสนใจจะอยากให้ Furion M1 เกิดขึ้นจริงซะตอนนี้เลยก็ได้
ใช่เลย Furion M1 ยังเป็นเพียงโปรเจคท์ของ Furion Motorcycles บริษัทมอเตอร์ไซค์เกิดใหม่ของฝรั่งเศสที่อาจจะไม่ได้มีทุนหนาแบบ Tesla Motors ซึ่งเพียงแค่คิดแล้วก็ผลิตออกมาจำหน่ายได้ในทันที เลยยังต้องนำเสนอแนวคิดเพื่อหาผู้ร่วมลงทุนเพื่อสานฝันให้กับ Furion M1 บิ๊กไบค์แนว Roadster ขุมพลังไฮบริดให้เกิดขึ้นได้จริง โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นไบค์เกอร์ที่นิยมโลกสวยด้วยมือเรา (ทุกครั้งที่บิดคันเร่ง) หรือเป็นกังวลกับมาตรการใหม่ของยุโรปเรื่องการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดขึ้น โดยไม่กระทบกับความสปอร์ตเร้าใจในแบบเดิม ๆ หรืออาจมากกว่าเสียด้วยซ้ำ
โดยขุมพลังไฮบริดของ Furion M1 จะเป็นการผสานกันระหว่างเครื่องยนต์โรตารี่ ขนาดความจุ 654 ซี.ซี. ที่ให้กำลังสูงสุด 125 แรงม้า ที่ 9,000 รอบ/นาที และแรงบิด 105 นิวตันเมตร กับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ Lithium-ion ที่ช่วยเสริมกำลังให้อีก 55 แรงม้า และแรงบิด 100 นิวตันเมตร โดยเมื่อรวมกันทั้งระบบ Furion M1 จะเป็น Roadster ที่มีพละกำลังอย่างโหดถึง 180 แรงม้า และแรงบิด 205 นิวตันเมตร เลยทีเดียว และที่สำคัญคือน้ำมันเชื้อเพลิงเต็มถัง (16 ลิตร) สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุดถึง 400 กม. (ไม่ได้ระบุว่าวิ่งด้วยความเร็วระดับไหน)
นอกจาก Furion M1 จะเป็น Roadster ที่ทรงพลังแล้ว ยังว่องไวและให้การบังคับควบคุมที่เป็นสปอร์ต คล่องแคล่ว และเฉียบคม โดยรายละเอียดทางเทคนิคก็ไม่ต่างจากบิ๊กไบค์รุ่นใหญ่ปกติทั่วไปมากนัก เช่น ใช้โครงเฟรมหลักแบบถักล้อมรอบมอเตอร์ ระบบกันสะเทือนหน้าใช้โช้คอัพหน้าแบบกลับด้าน ขนาดแกน 43 มม. ปรับความหนืดและพรีโหลดได้ ด้านหลังเป็นสวิงอาร์มเดี่ยว Back-link Horizontal โช้คอัพแก๊สเดี่ยวปรับพรีโหลดได้ ส่วนเบรกหน้าใช้จานดิสก์คู่ ขนาด 310 มม. คาลิเปอร์เบรก 4 พอต และด้านหลังจานดิสก์เดี่ยว ขนาด 250 มม. คาลิเปอร์แบบ 1 พอต ตามมาตรฐานบิ๊กไบค์ทั่วไป และยังส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีด (โดยมี Adrien Chareyre แชมป์โลก Supermoto 4 สมัย คอยเป็นที่ปรึกษาให้กับ Furion Motorcycles)
สำหรับงานดีไซน์ก็คล้าย ๆ กับบิ๊กไบค์แนวเนกเคด (หรือบางค่ายอาจเรียก Street หรือ Roadster) ในปัจจุบัน ซึ่งก็นับว่า Furion M1 หล่อเหลาเอาไปขี่อวดสาวได้แบบไม่ต้องอายใคร แต่ทั้งหมดนี้ก็ยังเป็นเพียงแค่ดีไซน์ต้นแบบ อย่างน้อยก็จนกว่าจะหาผู้ร่วมลงทุนโปรยเม็ดเงินเพื่อเนรมิตให้โปรเจคท์ Furion M1 กลายเป็นความจริงได้ในที่สุด
สรุปง่าย ๆ ก็คือ Furion M1 พร้อมแล้วขาดก็แต่ทุนสร้างเท่านั้น และเราเชื่อว่าลูกค้าบางส่วนก็น่าจะพร้อมด้วยหากราคาไม่แรงสุดโต่งจนเกินไป เพราะทุนซื้อก็ดูจะเป็นปัญหาที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน
คลิป Furion M1 โดย Marc Evenisse (ดีไซเนอร์ Furion M1) :
ภาพจาก Furion Motocycles
ที่มา Furion Motorcycles
