นี่เป็นหนึ่งจุดขายที่ทาง เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) เลือกใช้พรีเซ็นต์ และเป็นจุดขายกับคำว่า "Smart Car" นี่คือท่อนหนึ่งในการเปิดตัวของ MG ZS ปี 2018
ย้อนกลับไปงานเปิดตัว MG ZS เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2560 โดย บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) ได้รับเสียงฮือฮาอย่างมากจากจุดขาย "Smart Car"
"ฮัลโหล เอ็มจี"... "ฮัลโหล"... "เปิดซันรูฟ"... "เปิดซันรูฟใช่ไหมครับ"... "ใช่"... วื้ดดดดด โอ้ว อะเมซิ่ง สั่งงานด้วยเสียงภาษาไทย
แต่ไม่เพียงเท่านั้น ราคาของ MG ZS ปี 2018 ดูเป็นมิตรมาก ๆ เมื่อมองถึงประเภทรถ มิติรถใหญ่โตโอ่อ่า อุปกรณ์ การตกแต่งภายใน และออปชั่นให้แน่นเอียด เรื่องนี้เอ็มจีก็ไม่ได้เหนียม โชว์ชัด ตอนนี้ในกลุ่มมี ดีเซล 1.5 ลิตร, เบนซิน 1.5-2.0 ลิตร พร้อมราคา A-B-C-D Model วางเทียบ
ทุกอย่างเหมือนจะดี หลังจากว่ากันเรื่องเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร แต่ต้องไปสะดุดที่ระบบส่งกำลังเกียร์ 4AT ขยี้ตาแป๊บ ใช่ครับ 4AT ในยุค พ.ศ. 2560 ที่หลายค่ายหันไปซบ CVT หรือ 6AT เป็นเรื่องธรรมดา เอาล่ะเก็บความสงสัยนี้เอาไว้และแล้วก็มาถึง อีกอาทิตย์กว่า ๆ เท่านั้น
ในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2560 บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) ก็เชิญสื่อมวลชนร่วมทดสอบ MG ZS ปี 2018 โดยเส้นทางการทดสอบเริ่มต้นจากกรุงเทพฯ สู่จังหวัดระยอง ไป-กลับระยะทางประมาณ 600 กิโลเมตร ที่เราหมายมั่นนอกจากสมรรถนะ ก็คือใช้งานจริงของระบบ i-SMART
MG ZS ปี 2018 กับรุ่นย่อย X ดีไซน์และฟีเจอร์ ครบเครื่องดี และ "ไม่เล็กนะครับ" มิติรถโอ่อ่ามากสำหรับ B-SUV ตัวเลขมิติรถ
ความยาว 4,314 มม.
ความกว้าง 1,809 มม.
ความสูง 1,624 มม.
ระยะฐานล้อยาว 2,585 มม.
ระยะฐานล้อคู่หน้า 1,526 มม.
ระยะฐานล้อคู่หลัง 1,534 มม.
ดีไซน์และอุปกรณ์ส่งเสริมความเป็นรถครอสโอเวอร์รุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี อาทิ โคมไฟหน้าโปรเจคเตอร์ ที่มีระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ พร้อมไฟเดย์ไทม์ รันนิ่ง ไลท์ (Daytime Running Lights) ไฟท้ายก็ให้แอลอีดี ทิวบ์ (LED TUBE) กระจกมองข้างพับ และปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว
หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา มีขนาด 90 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่หลังคาทั้งหมด ให้เสาอากาศแบบครีบฉลาม มีราวหลังคาให้ โลโก้ดีไซน์ให้เป็นที่เปิดประตูท้าย ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว
ทั้งหมดทั้งมวล ดูเข้ากันอย่างลงตัว ส่วนชอบ ไม่ชอบ แล้วแต่บุคคลเลย...
MG ZS ปี 2018 กับรุ่นย่อย X ภายในซอฟต์ทัช ดูดีเกินราคา
ย่างเข้าห้องโดยสาร ดูดีทีเดียว การตกแต่งด้วยทูโทน หนังสีน้ำตาล-สีดำ เนื้อสัมผัสดี ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการบุแบบซอฟต์ทัช กดตรงไหนก็นุ่ม
ส่วนตัวชอบเบาะนั่งของ MG ZS ปี 2018 เห็นได้ชัดเลยว่ามีชั้นหนา ไม่นุ่ม ไม่แข็ง รับทั้งสะโพก และไหล่ดีจริง ตลอดการเดินทาง ทั้งขับและนั่ง
งานดีไซน์ทำได้ดี ดูเกินราคา เช่น ช่องแอร์ดีไซน์ท่อไอพ่น แหงนหน้าอื้อฮือ ซันรูฟใหญ่จริง เปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า มีม่านบังแสงพร้อม
ฟังก์ชั่นการใช้งานครบครันดี เบาะนั่งด้านหลังพับแยกส่วนได้ 60:40, พวงมาลัย ปรับระดับ 2 ทิศทาง ขึ้น-ลง, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ครูสคอนโทรล, เบาะคนขับปรับ 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง (ปรับมือ), มีจออินโฟเทนเมนต์ 8 นิ้ว พร้อมระบบเนวิเกเตอร์
ทดสอบการเล่นอินโฟเทนเมนต์ การใช้งานอยู่กลาง ๆ ไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยาก เมนูย่อยปรับแต่งเยอะ ระบบทัชสกรีนยังไม่ลื่นติดนิ้วเท่าไหร่ เนวิเกเตอร์ไม่มีปัญหาใช้งานได้ดี แม่นยำ คุณภาพเสียงจากลำโพงเยี่ยมทีเดียว ไม่เชื่อต้องลอง !
แต่ก็ใช่ว่าจะชอบทั้งหมด ส่วนตัวรู้สึกขัดใจกับการตกแต่งรอบจออินโฟเทนเมนต์ด้วยลายเคฟลาร์มาก ๆ จะให้ดูสปอร์ตทำไม ขัดกับลุคโดยรวมห้องโดยสารที่ดูหรูหรา
MG ZS ปี 2018 กับระบบ i-Smart ฟังก์ชั่นล้ำ ใช้ดีจริงแต่ก็พาให้โดนติ
เป็นจุดขายสำคัญเลย ซึ่งผู้ทดสอบขอแยกออกเป็น 2 ส่วน คือการใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน และการใช้งานด้วยคำสั่งเสียง
อย่างที่รู้กัน MG พัฒนาในจุดนี้มาตั้งแต่เริ่ม ประเดิมกับระบบ Inkanet ที่ใส่ซิมมือถือลงในรถ แล้วทำระบบสั่งการต่าง ๆ ผ่านอินเทอร์เน็ต แต่ตอนนี้พัฒนาขึ้นไปอีกขั้นที่มี ปัญญาประดิษฐ์-AI (Artificial Intelligence) สั่งงานด้วยเสียง รวมถึงการซิงค์ความสามารถของรถให้มากขึ้นในระบบแอพพลิเคชัน
สั่งการผ่าน i-SMART แอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟน สามารถเปิดแอร์รถยนต์รอ ขึ้นมาเย็นฉ่ำ ใช้งานง่ายมีให้ใส่พาสเวิร์ดเพื่อยืนยันเป็นการป้องกัน รถยนต์ก็จะสตาร์ทเครื่องเปิดแอร์รอเรา 10 นาที หากใช้เวลาเกินกว่านั้น ก็จะตัดการทำงานเอง, ส่งโลเคชั่นที่จะเดินทางเข้ารถ รวมไปถึงเช็กสถานะความผิดปรกติต่าง ๆ ตั้งขอบเขตเป็นระยะที่รถสามารถไปได้ด้วย สุดท้ายก็ตามได้ไม่ว่ารถอยู่ตรงไหน ในแอปฯ บอกหมดจ้า... ขอแค่ตรงนั้นมีสัญญาณมือถือ
การใช้สั่งด้วยคำสั่งเสียง เมื่อจุดขายกลายเป็นจุดตำหนิ "ฮัลโหล เอ็มจี" "ฮาโหล เอ็มจี" "ฮาาาโหลลลลล เอ็มจี" เชื่อสิ ใครที่ได้ลองก็พยายามพูดทั้งนั้น ใช่ว่าจะทำไม่ได้ แต่กว่าจะใช้งานได้ หงุดหงิดเลยทีเดียว
เอาล่ะเมื่อฮัลโหล ไม่มา กดปุ่มคำสั่งเสียงเลยก็ได้ "ตรู๊ด" "เปิดซันรูฟ" "ต้องการปรับแอร์ใช่ไหมครับ" เอ้ย..รับคำสั่งแล้ว ประมวลผิดอีก นั่นแหละครับ สั่งเปิดซันรูฟ ให้ยืนยันปรับโหมดแอร์, สั่งเปิดกระจกฝั่งขับ (โหทำได้ด้วย) ให้ยืนยันปิดแอร์ เอาเป็นว่าประมวลผิด ๆ ถูก ๆ เพียบ และยังตอบสนองต่อคำสั่งช้า
เรื่องนี้ก็สอบถามกับทางเอ็มจี ได้รับคำตอบรวม ๆ ว่า เพราะระบบ ปัญญาประดิษฐ์-AI (Artificial Intelligence) ยังได้รับตัวอย่างเสียงที่ไม่เพียงพอ เพราะเพิ่งเริ่มใช้ และทดสอบกันภายใน
เมื่อมีลูกค้าใช้มากขึ้น ระบบจะได้รับตัวอย่างเสียงและวิเคราะห์ ก็จะสามารถแยกได้ง่ายขึ้นสำหรับคำสั่ง...
เมื่อจุดขาย แต่ใช้งานได้ลำบากขนาดนี้ ไม่พลาดแน่ ๆ ที่จะโดนตำหนิ อย่างในสมาร์ทโฟนที่มีระบบสั่งงานด้วยเสียง ยังขอเก็บเสียงเจ้าของไปประมวลผลและจดจำ แต่รถ MG ZS ปี 2018 ไม่มีการเก็บเสียงก่อน ไม่แปลกครับที่จะไม่ตอบสนอง
อีกอย่างคือห้องโดยสารมีเสียงรบกวนสูง มีใครบ้างนั่งขับรถเงียบ ๆ ก็นั่นแหละ ไม่เปิดเพลงเบา ๆ ก็คุยกันในรถ ยิ่งทำให้สั่งด้วยเสียงยากเข้าไปใหญ่ แต่บอกเลยว่าผู้ทดสอบ ลองเงียบสนิท พยายามสั่งรถด้วยเสียงเรื่อย ๆ ก็ยังชวนหงุดหงิดครับ
MG ZS ปี 2018 กับการขับขี่ ไม่ได้ด้อยอย่างที่คิด
เครื่องยนต์เบนซิน DOHC VTi-TECH 4 สูบ 1.5 ลิตร พละกำลัง 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังอัตโนมัติ 4 สปีดพร้อม Manual Mode ครับใครที่สงสัยอยู่ ใช่เลย เป็นบล็อกเดียวกับ MG3 และ MG5 รุ่น n/a เลย แต่มีการปรับปรุงในระบบฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์จากเดิม 106 แรงม้า และแรงบิด 135 นิวตันเมตร
การขับขี่ปรกติทำได้ดี ในการวิ่งที่ความเร็ว 120 กม./ชม. รอบเครื่องยนต์ราว ๆ 3,000 รอบต่อนาที ฟีลลิ่งเกียร์ AT รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนระดับเกียร์ ด้วยความที่เป็น 4AT การลากรอบเรียกแรงบิด และหากคุณคิกดาวน์ เข็มรอบสามารถกวาดไปเกือบ 7,000 รอบต่อนาที แรงมาเต็ม
อืดไหม.. เลยลองทดสอบ 0-100 กม./ชม. มาให้ ใช้เวลา 17.15 วินาที ใช้ Manual Mode ดีกว่านิดหน่อย 16.88 วินาที รถแบกน้ำหนักผู้ชาย 2 คน ลองทดสอบอยู่หลายรอบ ตัวเลขใกล้เคียงกันตลอด ขอย้ำนี่เป็นผลทดสอบส่วนตัว..
ต้องบอกเลย MG ZS ปี 2018 มีนิสัยแปลก กดเบรกมาคิกดาวน์แล้วมีอาการนิ่งรออยู่ราว ๆ 1.30-2 วินาที แบบเข็มรอบไม่ขยับ ไม่รู้ว่าเอ็มจีเลือกเซตให้เป็นการเซฟตี้หรือเปล่า แต่หลังจากที่เข็มรอบเครื่องยนต์กวาดขึ้นแล้ว เรี่ยวแรงพอได้ ไม่อืดอย่างที่คิด
เรื่องประหยัดน้ำมัน วิ่งเต็มที่ จากระยองสู่กรุงเทพฯ ตามหน้าปัดได้ 11.1 กม./ลิตร
การควบคุม ระบบพวงมาลัยผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า คือความสมูทของแร็คดีมาก วงเลี้ยวคม ที่สำคัญมีโหมดการปรับน้ำหนักของพวงมาลัย รถกลุ่ม B-SUV สามารถปรับน้ำหนักพวงมาลัยได้ Comfort, Normal และ Sport ไล่เรียงความหนักจากซ้ายไปขวา สามารถปรับขณะวิ่งได้เลย ส่วนรัศมีวงเลี้ยว 5.6 เมตร
ช่วงล่างด้านหน้า อิสระแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ช่วงล่างด้านหลัง ทอร์ชั่นบีม เซตมาดี เวลาเลี้ยวไม่รู้สึกการโยนตัวที่มักจะเจอในรถครอสโอเวอร์ การดูดซับแรงทำได้ดีมากเช่นกัน ที่สำคัญนิ่งมากเมื่อใช้ความเร็ว แถมได้ลองทำความเร็วเยอะ...บนบูรพาวิถี ผ่านบททดสอบเรื่องนี้สบาย ๆ
ด้านระบบความปลอดภัยแน่นเอียดใน MG ZS ได้ทุกรุ่นย่อย
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock Braking System)
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake Force Distribution)
- ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
- ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
- ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
- ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
- ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือนเมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัยรวมทั้งหมด 6 จุด
สรุปส่วนตัวจากผู้เขียน
หลังการทดสอบ ก็ได้พูดคุยช่วงถาม-ตอบกับเอ็มจี ก็ว่ากันตรง ๆ รุ่นนี้ไม่ได้ทำมาเน้นสมรรถนะ และการที่เลือกใช้เกียร์ 4 สปีด ก็เพื่อทำราคาสำหรับแข่งขัน ทดสอบแล้วว่าเพียงพอ อัตราสิ้นเปลืองก็ไม่ได้แย่ ทั้งหมดก็ตามนั้นรถเป็นไปในทิศทางนั้นจริง ๆ
สำหรับผู้ทดสอบตั้งแต่ทดสอบรถยนต์ MG มา MG ZS ปี 2018 นี่แหละ ใช่เลย ผ่านครับ เป็นรถที่น่าใช้ หากคุณไม่ใช่สายซิ่ง ทุกอย่างครบ ออปชั่นดี ดีไซน์ผ่าน การโดยสารและความอเนกประสงค์ กับราคาเริ่มเพียง 679,000 บาท
เมื่อมองราคากับสิ่งที่ได้ส่วนตัวก็มองว่าคุ้มครับ หากถามผมเลือกรุ่นไหนดี ขอเคาะไปที่ MG ZS รุ่น D ราคา 729,000 บาท ตัดออปชั่นอย่างซันรูฟ ไฟหน้าอัตโนมัติ และการวัดลมยางออกเท่านั้น (สั่งเปิดแอร์ระยะไกลยังอยู่ อิอิ)
NEW MG ZS มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่
NEW MG ZS รุ่น C ราคา 679,000 บาท
NEW MG ZS รุ่น D ราคา 729,000 บาท
NEW MG ZS รุ่น X ราคา 789,000 บาท *** รุ่นที่ใช้ทดสอบ
สุดท้าย เมื่อประมวลข้อดี-ข้อเสียที่มี ผมนึกถึงเป้าหมายของ MG ที่วางยอดขาย MG ZS ไว้ 10,000 คันต่อปี หลังจากได้ลองแล้ว บอกเลยว่าไม่ใช่เลขที่สูงเว่อร์เกินไปแน่ ๆ
