หมากัดรถ ป้องกันยังไงดี ? กับวิธีง่าย ๆ ที่คุณอาจไม่เคยรู้

วิธีป้องกัน หมากัดรถ ทำอย่างไรได้บ้าง เพื่อให้รถสุดที่รักของเราปลอดภัยจากคมเขี้ยว พร้อมไขข้อสงสัย โดนหมากัดรถ เคลมประกันได้ไหม ?

เรียกได้ว่าปวดหัวกันเลยทีเดียว สำหรับคนรักรถที่อยู่ดี ๆ ก็พบว่ารถคันโปรดของตัวเองถูกหมากัดจนเป็นรอยแหว่ง และไม่รู้ว่าจะหาทางป้องกันยังไงดี แถมยังต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการซ่อมอีก เพราะไม่มั่นใจว่าจะสามารถเคลมประกันได้หรือไม่ วันนี้เราจะพาไปหาคำตอบเรื่องทั้งหมดกัน !

ในกรณีที่จอดรถอยู่ในบ้านของตัวเอง และหมาที่กัดก็คือตัวที่เลี้ยงไว้ นั่นอาจเป็นเพราะเจ้าตูบมีความรู้สึกเหงา เบื่อ อยากหาอะไรเล่น หรือต้องการเรียกร้องความสนใจ ซึ่งสิ่งของที่มันกัดอาจจะไม่ได้มีแค่รถ แต่รวมไปถึงข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ภายในบ้าน ส่วนรถยนต์นั้นตำแหน่งที่มักจะโดนกัดมากที่สุดคือ กันชน ยางล้อ และกระบังโคลน ยิ่งถ้าปล่อยให้มันกัดโดยไม่มีการลงโทษตักเตือนก็จะติดเป็นนิสัยจนทำซ้ำอีกบ่อยครั้ง

สำหรับกรณีที่จอดรถข้างนอกบ้านตามสถานที่ต่าง ๆ แล้วถูกหมาที่อยู่บริเวณนั้นกัด อาจเกิดจากสาเหตุอย่างอื่นได้อีก เช่น พวกมันได้กลิ่นหมาจากต่างถิ่นติดอยู่ที่รถ ทำให้เกิดความไม่พอใจและมารุมกัดทำลายรถนั่นเอง

กรณีเป็นหมาที่เลี้ยงในบ้าน อาจลองหาของเล่นอื่น ๆ มาให้กัดแทะเล่น เช่น ลูกบอลหรือกระดูกเทียม โดยฝึกให้เกิดความเคยชินอย่างการโยนให้ไปคาบมาบ่อย ๆ แล้วให้รางวัลเป็นขนมหรือการชมเชย รวมทั้งเมื่อพบว่าถ้ากัดสิ่งของในบ้านหรือรถยนต์ ให้ทำท่าดุหรือใช้มือตีปากเบา ๆ เพื่อให้มันรู้สึกตัวและไม่ทำอีก

นอกจากนี้ควรหมั่นล้างทำความสะอาดรถอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้มีกลิ่นเจ้าตูบที่บ้านติดไปกับรถ จนอาจทำให้หมาที่อื่นได้กลิ่นแล้วมารุมกัดแทะ และพยายามจอดรถในที่ปลอดภัย เช่น ในอาคารหรือที่ที่มีรั้วล้อมรอบ ส่วนสเปรย์กันหมากัดรถนั้นก็สามารถหาซื้อมาใช้ได้เช่นกัน โดยให้นำมาฉีดรอบ ๆ ตัวรถ ซึ่งจะมีกลิ่นที่หมาไม่ชอบ ทำให้พวกมันไม่อยากเข้ามาใกล้ ๆ

ถ้าหากรถยนต์ได้ทำประกันแบบชั้น 1 ไว้ เมื่อโดนหมากัดรถจะสามารถเคลมประกันได้ แต่มักจะมีเงื่อนไขที่ต้องชำระค่าเสียหายส่วนแรก (Excess) เป็นจำนวนเงิน 1,000 บาท แต่ถ้าประกันที่ทำไว้เป็นประกันประเภทอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ประกันชั้น 1 ก็จะไม่สามารถเคลมได้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการรับประกันของแต่ละบริษัทด้วย แต่สิ่งที่ควรทำคือเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นควรรีบแจ้งบริษัทประกันทันที เพื่อให้บริษัทประกันส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ หรืออาจถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐานเพิ่มเติมด้วยได้ 

เอาล่ะ ! รู้วิธีป้องกันพร้อมข้อมูลต่าง ๆ แล้ว หวังว่าคราวหน้าคงไม่เกิดปัญหา “หมากัดรถ” มากวนใจอีก หรือถ้าใครมีไอเดียดี ๆ ในการป้องกัน ก็อย่าลืมนำมาแชร์กันบ้างนะครับ