Ford, General Motors และ Tesla 3 ผู้ผลิตรถยนต์ของอเมริกา ปรับเปลี่ยนสายการผลิตจากรถยนต์เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์อย่างหน้ากากอนามัยและเครื่องช่วยหายใจ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยและหยุดยั้งการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส COVID-19
Ford ได้ตอบรับนโยบายจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ออกมาเรียกร้องให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ต่าง ๆ ช่วยปรับสายการผลิตรถยนต์มาช่วยผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์เป็นกรณีฉุกเฉิน โดย Ford ได้ร่วมกับพาร์ตเนอร์อย่าง 3M และ GE Healthcare ผลิตพัดลมระบายอากาศและเครื่องช่วยหายใจ พร้อมกับตั้งชื่อโครงการนี้ด้วยว่า “Project Apollo”
ในขณะที่ General Motors (GM) ก็ได้ร่วมมือกับ Ventec Life Systems ผลิตเครื่องช่วยหายใจให้กับโรงพยาบาลที่ต้องการเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยจากการติดเชื้อไวรัส COVID-19 และมีปัญหากับระบบทางเดินหายใจ โดยทาง Ventec ตั้งเป้าไว้ที่ 1,000 เครื่องต่อเดือน จากปกติ 150 เครื่องต่อเดือน และภายใน 90 วัน จะเพิ่มเป็น 2,000 เครื่องต่อเดือน และทาง GM ก็กล่าวว่า จะพยายามหาหนทางเพื่อให้ผ่านวิกฤตนี้ไปให้ได้ต่อไป
ภาพจาก : twitter Mike Levine
ต้นแบบหน้ากากพร้อมเครื่องช่วยหายใจที่ Ford ร่วมกันพัฒนากับ 3M
ด้าน Elon Musk CEO บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Tesla ได้กล่าวว่า ได้ทำการซื้อเครื่องช่วยหายใจต่อจากจีนแล้วกว่า 1,000 เครื่อง และได้ทำการส่งมอบให้แก่รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (23 มีนาคม) พร้อมกับหน้ากากอนามัย N95 ของ 3M อีก 50,000 ชิ้น ให้กับศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวอชิงตันไปแล้ว นอกจากนี้ยังเตรียมการเปิดโรงงาน Gigafactory ในนิวยอร์ก ให้กลับมาผลิตเครื่องช่วยหายใจต่อให้เร็วที่สุด
ถือเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่เกิดจากการช่วยเหลือสังคมจากกลุ่มอุตสาหกรรมที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลย แต่สามารถปรับเปลี่ยนสิ่งที่ตนเองเชี่ยวชาญมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเหลือสังคมได้ในยามฉุกเฉิน ไม่แน่ว่าบริษัทผู้ผลิตรถยนต์เหล่านี้ อาจจะพบผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจหลังจากการแพร่ระบาดผ่านพ้นไปแล้วก็ได้
ภาพและข้อมูลจาก : The Verge, Reuters, foxnews, Ford Midia Center
