นักวิจัยพบ ! การฟังเพลงเร็ว ส่งผลให้คนขับรถใจร้อนเปลี่ยนเลนบ่อยและเผลอเร่งความเร็วเพิ่มตามไปด้วย แนวร็อกยืนหนึ่งเพลงที่อันตรายมากที่สุดเมื่อฟังตอนขับรถ
การศึกษาใหม่ของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเซาท์ไชน่า (South China University of Technology) ที่ได้ทำการทดลสอบพบว่า การฟังเพลงที่มีจังหวะเร็วมากกว่า 120bpm (ครั้งต่อนาที) มีแนวโน้มที่จะขับรถแย่ลง
การทดสอบดังกล่าวได้ให้ผู้เข้าร่วมใช้เครื่องจำลองการขับรถ โดยเซตให้อยู่บนถนนมอเตอร์เวย์ 6 เลน ในระยะเวลา 20 นาที พร้อมเปิดเพลงประเภทหนึ่งไปด้วย และขับแบบขับเงียบ ๆ ไม่เปิดเพลง ผลปรากฏว่า
คนขับรถจะเปลี่ยนเลนโดยเฉลี่ย 70 ครั้ง/ชั่วโมง แต่จะเพิ่มขึ้น 2 เท่าเป็น 140 ครั้ง/ชั่วโมง เมื่อเปิดเพลงร็อกที่มีจังหวะมัน ๆ แถมเพลงแนวนี้ยังทำให้คนขับรถเร็วขึ้นจากเดิมประมาณ 16 กิโลเมตร/ชั่วโมง อีกด้วย
เท่านั้นไม่พอผลการศึกษาครั้งนี้ยังไปสอดคล้องกับการวิจัยของเว็บไซต์ มันนี่ บาร์น (Moneybarn) ที่เคยสำรวจไว้ว่า เพลงร็อก American Idiot ของ Green Day ที่มีความเร็ว 189bpm คือ เพลงที่อันตรายมากที่สุดเมื่อฟังตอนขับรถ ตามด้วยเพลง Party In The U.S.A. ของ Miley Cyrus, เพลง Mr Brightside ของ The Killers และเพลง Don’t Let Me Down ของ The Chainsmokers ขณะที่เพลง Stairway to Heaven โดย Led Zeppelin ที่มีจังหวะช้า ๆ แค่ 63bpm ถูกยกให้เป็นเพลงที่อันตรายน้อยที่สุด
นอกจากนี้ยังมีการทดสอบที่คล้ายกันของเว็บไซต์ ออโต้เอ็กซ์เพรส (Auto Express) ซึ่งพบว่า วงเฮฟวี่เมทัลสุดเดือดอย่าง Slipknot มีผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อประสิทธิภาพการขับขี่ แต่การฟังเพลงแรปของ Kendrick Lamar กลับไม่มีผลใด ๆ เลยซะอย่างงั้น
ข้อมูลจาก : thesun.co.uk, autoexpress.co.uk
