Rivian รถกระบะ R1T และรถเอสยูวี R1S ขับเคลื่อน 4 ล้อ ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าล้วน ไปได้ทุกที่ไกลกว่า 650 กิโลเมตร/ชาร์จ ลุยน้ำลึกได้ถึง 1 เมตร แถมอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ของ Rivian ยังเร็วพอ ๆ กับไฮเปอร์คาร์ ราคาเริ่มต้น 61,500 ดอลลาร์ (ราว 2.01 ล้านบาท)
การมาของรถยนต์ไฟฟ้านับว่าเป็นปรากฏการณ์สำคัญที่กำลังจะเปลี่ยนโฉมหน้าของอุตสาหกรรมยานยนต์โลก ผู้ผลิตรถยนต์หน้าใหม่เตรียมผุดเป็นดอกเห็ด ขณะที่ซัพพลายเออร์บางส่วนอาจล้มหายตายจากหากปรับตัวไม่ทัน เพราะมอเตอร์ไฟฟ้าจะมาแทนเครื่องยนต์สันดาปภายในที่มีชิ้นส่วนซับซ้อน รถธรรมดาจะเร่งได้ไวราวกับไฮเปอร์คาร์ และนี่คือ Rivian R1T (รถกระบะ) กับ R1S (รถเอสยูวี) ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ที่เปิดตัวใน LA Auto Show 2018 พร้อมแข่งกับผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่เพิ่มอีกหนึ่งราย
Rivian R1T
Rivian R1S
การเปิดตัวรถไฟฟ้าล้วนทั้ง 2 รุ่น 2 สไตล์ของ Rivian ครั้งนี้ ทำให้ Rivian R1T ที่มาในแบบรถกระบะและ Rivian R1S รถเอสยูวี กลายเป็นดาวเด่นของงานที่คนทั่วโลกให้ความสนใจในทันที แม้ดีไซน์จะเรียบง่าย เป็นทรงกล่อง เส้นสายน้อย ซึ่ง Rivian พยายามสื่อสารถึงความแข็งแกร่ง แต่มีดีเทลทันสมัย อย่างกระจังหน้าเรืองแสงคาดยาว ขั้นด้วยไฟซิกเนเจอร์ ที่ประกอบด้วยไฟหน้าและไฟวิ่งกลางวัน ซึ่ง Rivian เรียกว่า "Stadium" ทรงแคปซูลตั้งคล้ายอัฐจันทร์สนามกีฬา โดยรวมจึงดู ทะมัดทะแมง แอ็คทีฟเพื่อกระตุ้นให้ผู้เป็นเจ้าของอยากออกไปผจญภัย
สำหรับขนาดตัวของ Rivian นั้นจัดว่าเป็นรถที่ใหญ่โตพอสมควร โดย Rivian R1T จะยาวถึง 5,475 มม. และ Rivian R1S ตัวถัง SUV สั้นกว่าที่ 5,040 มม. ส่วนความกว้างเท่ากันที่ 2,015 มม. นอกจากนี้อีกหนึ่งจุดเด่นของ Rivian R1T และ Rivian R1S คือแพลตฟอร์มสเกตบอร์ดของรถไฟฟ้า ที่ช่วยทำให้การ Packaging ง่ายกว่ารถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในที่มีชิ้นส่วนกลไก รุงรัง กว่ามาก รถไฟฟ้าอย่าง Rivian จึงมีพื้นที่เก็บของและอุปกรณ์มากมาย เช่น ใต้ฝากระโปรงหน้าก็เป็นหลุมเก็บสัมภาระได้มากถึง 330 ลิตร
ขณะที่ Rivian R1T จะมีช่องสอดอุปกรณ์หลังแค็บโดยสาร ขนาด 350 ลิตร เรียกว่า Gear Tunnel™ แตกต่างจากรถกระบะทั่วไป เพราะไม่ต้องมีเพลาส่งกำลัง อีกทั้งรถไฟฟ้าของ Rivian ยังมีโอเวอร์แฮงก์หน้า-หลังที่สั้นมาก คือแทบจะอยู่สุดปลายขอบกันชน จึงมีมุมไต่ (34 องศา) และมุมจาก (30 องศา) ที่ชันกว่าปกติรถกระบะปกติ แถมใต้ท้องรถที่เป็นแพลตฟอร์มแบบสเกตบอร์ดไม่มีอะไรให้เกะกะจึงมี Ground Clearance มากถึง 360 มม. (และ 365 มม. ใน Rivian R1S) ช่วยให้รถลุยเส้นทางโหด ๆ ได้ดีมากขึ้น
ส่วนห้องโดยสาร ทาง Rivian กล่าวไว้ว่า ภายในจะมีสิ่งแวดล้อมและบรรยากาศที่พรีเมียม เป็นงานฝีมือ ประณีต แต่ยังให้ความรู้สึกกระฉับกระเฉง พร้อมลุย รวมถึงเหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน การเลือกใช้โทนสีและวัสดุเป็นธรรมชาติ อบอุ่น เชื้อเชิญ อย่างงานไม้และหนัง (แถมยังทนทาน ทำความสะอาดง่าย) ส่วนลวดลายและลีลายังมีความเป็นสปอร์ต ทันสมัย ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬา
ทั้งนี้ Rivian R1T และ Rivian R1S จะขับเคลื่อนล้อทั้ง 4 ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว ให้กำลังรวมกัน 750 แรงม้า และส่งแรงบิดลงพื้นได้ 14,000 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาประมาณ 3.2 วินาที บรรทุกหนักสูงสุด 800 กก. ลากจูงน้ำหนักได้ 5 ตัน (Rivian R1T) และ 3.5 ตัน (Rivian R1S) โดยทั้งรถ 2 รุ่น วิ่งได้ระยะทางไกลมากกว่า 650 กม./ชาร์จ ซึ่งสเปกดังกล่าวจะเป็นสเปกของแบตเตอรี่ขนาดความจุ 180 kWh แต่ในเบื้องต้นจะมีขนาดความจุน้อยกว่าที่ 135 kWh ให้เลือกด้วย (ในช่วงต้นของการจำหน่าย)
อย่างไรก็ตาม Rivian R1T และ Rivian R1S ที่เปิดตัวในงาน LA Auto Show 2018 นั้นเป็นรถโปรโตไทป์ที่นำมาโชว์ให้ชมกันก่อน เพื่อเปิดรับจองแบบ Preorder โดยลูกค้าที่สนใจจะต้องวางเงินจอง 1,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 33,000 บาท) ฟังดูไม่มากมาย Rivian แต่จะเริ่มเดินสายการผลิตในปี 2020 (รุ่นพื้นฐาน เริ่มเดินสายการผลิตภายใน 12 เดือนนับจากนี้)
ทั้งนี้ราคาค่าตัวจริงของรถกระบะไฟฟ้า Rivian R1T เริ่มต้นที่ 61,500 ดอลลาร์ หรือราว 2.02 ล้านบาท (คงเป็นสเปกแบตเตอรี่ความจุ 105 kWh ที่จะตามมาภายหลังจากขนาด 135 และ 180 kWh) ส่วน Rivian R1S ตัวถังเอสยูวี เริ่มต้นที่ 65,000 ดอลลาร์ หรือ 2.13 ล้านบาท
ภาพจาก Rivian
