ศาลตัดสินให้ บริษัทจำหน่ายรถยนต์ฟอร์ด จ่ายเงินค่าเสียหายรวมกว่า 23 ล้านบาท ให้แก่โจทก์ 291 ราย ด้านฟอร์ดยันเกียร์พาวเวอร์ชิฟต์ไม่ได้มีปัญหาความปลอดภัย
วันที่ 21 กันยายน 2561 ศาลแพ่งกรุงเทพใต้
นัดอ่านคำพิพากษาคดีที่กลุ่มผู้ใช้รถยนต์ฟอร์ด รุ่นเฟียสต้าและรุ่นโฟกัส
จำนวน 308 ราย เป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัท ฟอร์ด เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส
(ประเทศไทย) จำกัด
เนื่องจากการผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์ชำรุดบกพร่องไม่ได้มาตรฐาน
ไม่เป็นไปตามคำโฆษณา และทำให้ผู้บริโภคเสี่ยงอันตราย
เรียกค่าเสียหายเชิงลงโทษและจิตใจ
คดีนี้ผู้ใช้รถได้ยื่นฟ้องบริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ฟอร์ด เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ฟอร์ด โอเปอเรชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ฟอร์ด เซอร์วิส จำกัด เป็นจำเลยที่ 1-4 โดยมีโจทก์ยื่นฟ้องคดีแบบกลุ่มจำนวน 421 ราย ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2560 แต่ระหว่างพิจารณาคดี ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์สามารถเจรจายุติได้ประมาณ 113 ราย
ล่าสุด
ศาลอ่านคำพิพากษาให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ที่ได้รับความเสียหาย
รายละตั้งแต่ 20,000 บาท - 200,000 บาท รวมยอดจำนวนเงิน ประมาณ 23 ล้านบาท
พร้อมชำระดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อไป ให้จำเลยชำระค่าทนายความแทนโจทก์ 1.5
แสนบาท พร้อมเงินรางวัลแก่ทนายความ 800,000 บาท ตามกฎหมายด้วย
และให้บังคับคดีตามคำพิพากษาให้เสร็จภายใน 7 วัน ขณะเดียวกัน มีโจทก์ 12
ราย ใน 308 ราย ที่ศาลไม่สั่งให้จำเลยต้องชดใช้
เพราะพบว่ามีการดัดแปลงสภาพรถยนต์ และไม่เคยนำรถยนต์เข้าซ่อมกับบริษัท
หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า นอกจากการได้รับการเยียวยา
ยังต้องการให้เป็นคดีตัวอย่าง
สร้างมาตรฐานไม่ให้ผู้ประกอบการหาช่องทางเอาเปรียบผู้บริโภค และสังคมต้องไม่เพิกเฉย
หรือยินยอมให้เกิดการเอาเปรียบ
ล่าสุด ฟอร์ดได้ชี้แจงหลังมีคำตัดสินดังกล่าวว่า ฟอร์ดเคารพต่อคำพิพากษาของศาล ศาลได้วินิจฉัยแล้วว่าระบบเกียร์พาวเวอร์ชิฟต์ไม่ได้มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยแต่อย่างใด และคดีนี้ศาลได้พิพากษาโดยพิจารณาปัญหาของลูกค้าแต่ละรายที่มีต่อเกียร์พาวเวอร์ชิฟต์ จากประสบการณ์ลูกค้าที่แตกต่างกัน โดยคำพิพากษาได้กำหนดกระบวนการแก้ไขปัญหาและยุติข้อพิพาทของลูกค้าซึ่งพิจารณาจากปัญหาของลูกค้าแต่ละราย ซึ่งสอดคล้องกับคำชี้แจงฟอร์ดที่ผ่านมา ฟอร์ดต้องขออภัยต่อความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นจากปัญหาเกียร์พาวเวอร์ชิฟต์ และขอย้ำว่าเรามีความมุ่งมั่นที่จะรับผิดชอบและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นตามกระบวนการการดูแลลูกค้าของฟอร์ดต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
, 
