รถเสียบนทางด่วน ทำอย่างไรดี ? โทร. เบอร์ไหนได้บ้าง

รถเสียบนทางด่วน รถเกิดอุบัติเหตุบนทางด่วน หรือมอเตอร์เวย์ ต้องทำอย่างไร ข้อควรปฏิบัติเมื่อรถเสียบนทางด่วนมีขั้นตอนอะไรบ้าง เพื่อความปลอดภัยแก่ตนเองและผู้ใช้ทางคนอื่น

ใครที่ต้องใช้รถยนต์ในการเดินทางไปไหนมาไหน สิ่งหนึ่งที่หลายคนไม่อยากประสบพบเจอนั่นก็คือ รถเสีย แม้เราจะบำรุงดูแลรักษาเป็นอย่างดีแล้วก็ตาม แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันเหล่านี้ก็สามารถเกิดขึ้นได้

รถเสีย หากเกิดบนถนนปกติทั่วไป เจ้าของรถหรือผู้ขับขี่อาจไม่รู้สึกวิตกกังวลมากนัก เพราะสามารถขอความช่วยเหลือจากผู้ที่สัญจรไป-มา ร้านค้า บ้านคนที่อยู่บริเวณนั้นได้ แต่ถ้ารถเสียบนทางด่วนล่ะจะทำยังไง ควรปฏิบัติตัวอย่างไรดี ?

วันนี้เราได้รวบรวมข้อมูล วิธีการปฏิบัติตัว หากเกิดเหตุการณ์รถเสียบนทางด่วน หรือเกิดอุบัติเหตุ เพื่อเป็นแนวทาง เคล็ดลับ ในการเอาตัวรอดและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างปลอดภัยมาแนะนำกัน

หากขับรถอยู่ดี ๆ บนทางด่วนแล้วเกิดรถเสีย ขัดข้อง มีความผิดปกติบางอย่าง หรือแม้กระทั่งเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนจนไม่สามารถขับต่อไปได้ ต้องขอความช่วยเหลือจากใคร หรือต้องทำอะไรก่อน ซึ่งสิ่งแรกที่ต้องทำเลยคือ

• ตั้งสติ - เป็นสิ่งแรกที่ต้องมี ไม่ควรตื่นตระหนกหรือตกใจ จากนั้นให้กดสัญญาณไฟฉุกเฉิน หรือไฟผ่าหมาก เพื่อให้รถคันอื่นรับทราบว่ารถของเรากำลังมีปัญหา และพยายามประคับประคองรถเข้าข้างทางหรือไหล่ทางให้ได้

• โทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ - หลังจากนำรถจอดข้างทางหรือที่ปลอดภัยเรียบร้อย ให้ติดต่อแจ้งเหตุที่เบอร์ EXAT Call Center 1543 ซึ่งเป็นเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้แจ้งเหตุต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนทางด่วน เช่น รถเสีย เกิดอุบัติเหตุ พบเจอสิ่งของหล่นกีดขวาง หรือเจอสัตว์ขึ้นไปอยู่บนทางด่วน และให้นั่งรอเจ้าหน้าที่อยู่ภายในรถ

• ใช้โทรศัพท์ฉุกเฉิน - หากโทรศัพท์ส่วนตัวใช้งานไม่ได้ สามารถใช้โทรศัพท์ฉุกเฉินที่การทางพิเศษฯ ติดตั้งไว้บนทางด่วนในทุก ๆ ระยะ 500-1,000 เมตร เพื่อขอความช่วยเหลือ หากจุดที่เราจอดรถอยู่ห่างจากโทรศัพท์ฉุกเฉินมากและไม่สามารถขยับรถเข้าไปใกล้กว่านี้ได้ ให้พยายามเดินชิดขอบทางมากที่สุด เมื่อแจ้งเหตุเสร็จให้กลับมานั่งรอภายในรถ

• เบอร์ฉุกเฉินทางด่วนและบูรพาวิถี (การทางพิเศษแห่งประเทศไทย) โทร. 1543
• เบอร์ฉุกเฉินกรมทางหลวง โทร. 1586
• เบอร์ฉุกเฉินมอเตอร์เวย์ โทร. 1586 กด 7
• เบอร์ฉุกเฉินดอนเมืองโทลเวย์ โทร. 1233

อย่างไรก็ตาม รถเสีย แม้จะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีโอกาสเกิดขึ้น เราจึงควรตรวจเช็กสภาพความพร้อมของรถเป็นประจำอยู่เสมอก่อนออกเดินทาง เช่น ลมยาง แบตเตอรี่ หม้อน้ำ หรือปริมาณของน้ำมันเชื้อเพลิง

ขอบคุณข้อมูลจาก : tollway.co.th