กฤษฎีกา-ขนส่งทางบก มีมติตีกลับข้อเสนออายัดการต่อภาษีประจำปีให้ผู้ไม่ชำระค่าปรับ ชี้ขัดรัฐธรรมนูญ ด้านตำรวจเปลี่ยนแนวทางเร่งผลักดันเสนอเพิ่มโทษผู้ไม่ชำระค่าปรับ โทษสูงสุดปรับ 1 หมื่น-จับเข้าคุก
เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากก่อนหน้านี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เคยยื่นข้อเสนอเรื่องการต่อภาษีประจำปี คือ หากผู้ที่โดนใบสั่งแล้วไม่ไปจ่ายค่าปรับจะไม่สามารถต่อภาษีได้ ซึ่งทำให้หลายคนเกิดความเข้าใจผิดในเรื่องนี้นั้น
พล.ต.ต. อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) รับผิดชอบงานจราจร เปิดเผยว่า ในเรื่องการขอปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ขอแก้ไขกฎหมายจราจรให้สามารถบังคับใช้กับผู้กระทำความผิดให้มากยิ่งขึ้นนั้น โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการขอให้กรมการขนส่งทางบก อายัดการต่อภาษีประจำปีหากผู้เสียภาษีโดนใบสั่งแล้วไม่มาชำระค่าปรับ ซึ่งทางกรมการขนส่งทางบกเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำได้ เพราะขัดต่อรัฐธรรมนูญ ประกอบกับคณะกฤษฎีกาที่มีมติไม่เห็นชอบทำให้ข้อเสนอดังกล่าวตกไป พร้อมให้ข้อแนะนำในการแก้ไขกฎหมายว่าให้ทำในส่วนที่เกี่ยวข้องกับตำรวจเท่านั้น ดังนั้น ทางตำรวจได้เตรียมยื่นข้อเสนอใหม่อีกรอบในเรื่องการขอเพิ่มอัตราโทษปรับ ซึ่งแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ
ส่วนที่ 1 หากผู้กระทำผิดได้รับใบสั่งแล้ว ไม่มาชำระค่าปรับจะมีโทษปรับตั้งแต่ 400-1 พันบาท จากเดิมปรับไม่เกิน 1 พันบาทและปรับขั้นต่ำ 200 บาท ส่วนที่ 2 หากครบ 60 วัน ยังไม่มาชำระค่าปรับ จะเพิ่มโทษปรับตั้งแต่ 1 พัน-5 พันบาท ส่วนที่ 3 หากครบ 180 วัน ยังไม่มาชำระค่าปรับจะจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับตั้งแต่ 2 พัน-1 หมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งในข้อหานี้สามารถนำขึ้นศาลแขวง เพื่อให้ศาลพิจารณาโทษจำคุกได้
พล.ต.ต. อดุลย์ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ ทางตำรวจจะไม่ยื่นเสนอขอแก้ไขในเรื่องห้ามต่อภาษีประจำปีสำหรับผู้เสียค่าปรับอีกแล้ว เนื่องจากข้อเสนอดังกล่าวถูกตีตกถึง 2 รอบ แต่จะยื่นข้อเสนอในส่วนการขอเพิ่มอัตราโทษปรับ ซึ่งขณะนี้ ทาง บช.น. ได้ลงนามในข้อเสนอแล้ว เพื่อเสนอต่อสำนักกฎหมายและสำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณาแก้ไขและนำเสนอต่อกฤษฎีอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะผ่านความเห็นชอบและเข้าสู่กระบวนการให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาต่อไป ส่วนข้อเสนอการชำระค่าปรับผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส ขณะนี้ได้รับความเห็นชอบจากกฤษฎีกาแล้ว ซึ่งต้องรอให้ สนช. มีความเห็นชอบอีกครั้งและคาดว่าเร็ว ๆ นี้ ประชาชนจะได้ใช้บริการและมีความสะดวกในการชำระค่าปรับ
ภาพจาก ยกทัพข่าวเช้า
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
