วิธีขับรถสำหรับสตรีตั้งครรภ์แบบปลอดภัย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ผู้หญิงท้องขับรถอย่างไร วิธีขับรถสำหรับสตรีตั้งครรภ์แบบปลอดภัย
สังคมปัจจุบันที่เป็นไปด้วยความเร่งรีบ ทำให้สตรีขับรถด้วยตนเองมากขึ้น โดยเฉพาะสตรีมีครรภ์ควรเพิ่มความระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนนเป็นพิเศษ เพราะสภาพร่างกายที่เปลี่ยนแปลงจะส่งผลต่อความคล่องตัวในการขับรถ และหากประสบอุบัติเหตุจะก่อให้เกิดอันตรายต่อตนเองและเด็กในครรภ์ได้
ด้วยเหตุนี้ กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เตือนสตรีตั้งครรภ์ที่ขับรถด้วยตนเองเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ ปรับเบาะนั่งให้เหมาะสม คาดเข็มขัดนิรภัยอย่างถูกวิธี เพื่อปกป้องครรภ์มิให้เกิดภาวะแท้งกรณีประสบอุบัติเหตุ
วิธีขับขี่และโดยสารรถอย่างปลอดภัยสำหรับสตรีมีครรภ์ ดังนี้
ควรปรับเบาะนั่งให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
โดยท้องต้องอยู่ห่างจากพวงมาลัยหรือคอนโซลหน้ารถประมาณ 12 นิ้ว ไม่ปรับเบาะให้อยู่ในท่านอนหรือเอนเกินไป หากครรภ์มีขนาดใหญ่ขึ้นควรปรับที่นั่งให้ห่างออกไปในระยะที่เหมาะสม โดยไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการบังคับพวงมาลัยและเท้าสามารถเหยียบแป้นเบรกและคันเร่งได้ถนัด
คาดเข็มขัดนิรภัยอย่างถูกวิธีทุกครั้งที่ขับขี่และโดยสารรถ
เพื่อลดแรงกระแทกและฉุดรั้งไม่ให้ร่างกายพุ่งไปด้านหน้ากรณีประสบอุบัติเหตุ จนได้รับบาดเจ็บรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต โดยคาดส่วนล่างให้พาดผ่านหน้าตัก ห้ามคาดเข็มขัดนิรภัยผ่านหน้าท้องหรือบริเวณที่สูงกว่า เพราะหากประสบอุบัติเหตุจะเป็นอันตรายต่อเด็กในครรภ์
ใช้หมอนใบเล็กรองที่หน้าท้องส่วนล่างก่อนคาดเข็มขัดนิรภัย
ช่วยลดแรงกระแทกขณะขับรถ รวมถึงจัดสายเข็มขัดนิรภัยไม่ให้พลิก บิด งอหรือหย่อนยาน รวมถึงคาดให้เข็มขัดส่วนไหล่พาดหน้าอก ห้ามพาดไว้ด้านหลัง เพราะหากประสบอุบัติเหตุ เข็มขัดนิรภัยจะไม่สามารถเหนี่ยวรั้งลำตัว ทำให้กระตุกจนก่อให้เกิดอันตรายได้
หากรับประทานยาบรรเทาอาการคลื่นไส้ ห้ามขับรถอย่างเด็ดขาด
เพราะยาดังกล่าวมีผลข้างเคียงให้เกิดอาการง่วงนอน อาจเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุได้
กรณีประสบอุบัติเหตุแม้จะไม่มีบาดแผลใด ๆ สตรีมีครรภ์ก็ต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจสภาพร่างกายและความปลอดภัยของทารกในครรภ์
ทั้งนี้สตรีที่ตั้งครรภ์ 1-3 เดือนควรเพิ่มความระมัดระวังในการขับรถเป็นพิเศษ เพราะมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแท้งได้ง่าย ส่วนสตรีที่มีอายุครรภ์ 7-9 เดือนควรเลี่ยงการขับรถด้วยตนเอง เนื่องจากครรภ์มีขนาดใหญ่หากประสบอุบัติเหตุ จะทำให้แม่และเด็กได้รับบาดเจ็บรุนแรงหรือคลอดก่อนกำหนด ซึ่งเป็นภาวะเสี่ยงที่ทำให้เด็กในครรภ์เสียชีวิตได้ครับ