x close

เคล็ดลับการใช้รถบนถนนอย่างปลอดภัยสำหรับคุณแม่

การใช้รถบนถนนอย่างปลอดภัย
การใช้รถบนถนนอย่างปลอดภัยสำหรับคุณแม่

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก chevrolet ประเทศไทย

          เชฟโรเรต ประเทศไทย บอกเคล็ดลับการใช้รถบนถนนอย่างปลอดภัยสำหรับเด็ก คุณแม่และว่าที่คุณแม่ที่ต้องปฏิบัติภารกิจมากมายในชีวิตประจำวัน เริ่มตั้งแต่การขับรถพาบุตรหลานไปโรงเรียน หรือสถานเลี้ยงเด็ก ตลอดจนการเดินทางไปทำงานและซื้อของใช้ในครอบครัว


การปกป้องเด็กทารกที่อยู่ในครรภ์

          เราสามารถปกป้องเด็กทารกได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ โดยคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ควรได้รับการปกป้องอย่างเหมาะสมเมื่อนั่งในรถ แพทย์แนะนำว่าสตรีมีครรภ์ควรคาดเข็มขัดนิรภัยตลอดเวลาไม่ว่าจะนั่งอยู่ที่เบาะหน้าหรือเบาะหลัง

          การคาดเข็มขัดนิรภัยจะอยู่ที่บริเวณหน้าตักพาดที่สะโพกและเชิงกราน โดยให้สายเข็มขัดอยู่บริเวณใต้หน้าท้อง ห้ามคาดเข็มขัดไว้ที่หน้าท้องหรือบริเวณสูงกว่าขณะที่สายเข็ดขัดส่วนไหล่ควรจะพาดที่หน้าอกและห้ามพาดไว้ด้านหลัง


          ถึงแม้รถทั่วไปจะมีถุงลมนิรภัยเหมือนกับรถเชฟโรเลตทุกรุ่น การคาดเข็มขัดนิรภัยจะสามารถปกป้องสตรีและทารกในครรภ์ได้ดีที่สุดในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ หากไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ตัวผู้โดยสารอาจถูกเหวี่ยงเข้าใส่ถุงลมนิรภัยที่ออกมาทำงานอย่างฉับพลันและรุนแรง นอกจากนี้แพทย์ยังแนะนำว่าเข็มขัดนิรภัยและถุงลมช่วยปกป้องสตรีมีครรภ์ได้ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ

          สตรีมีครรภ์ควรปรับเบาะที่นั่งให้ห่างจากพวงมาลัยหรือแผงแดชบอร์ดให้มากที่สุดเพื่อลดแรงกระแทกกรณีถุงลมนิรภัยทำงาน อย่างไรก็ตามควรระมัดระวังไม่ให้นั่งในระยะห่างมากเกินไปจนสูญเสียประสิทธิภาพในการควบคุมพวงมาลัย สตรีมีครรภ์ที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ควรพบแพทย์ทันทีถึงแม้จะไม่มีบาดแผลใด ๆ

การใช้รถบนถนนอย่างปลอดภัย

การปกป้องเด็กเมื่ออยู่ในรถ

          ตั้งแต่แรกเกิด เด็กทารกจำเป็นต้องมีเบาะที่นั่งเป็นของตัวเองซึ่งไม่ใช่เบาะที่นั่งในรถยนต์ โดยการติดตั้งเบาะที่นั่งเด็กจะหันไปทางด้านท้ายรถและยึดกับเบาะหลังจนกว่าเด็กจะมีอายุ 1 ปี และมีน้ำหนักตัวอย่างน้อย 9 กก.

          เด็กเล็กที่มีอายุระหว่าง 1-4 ปี และมีน้ำหนักตัวระหว่าง 9-18 กก. ควรนั่งในเบาะที่นั่งเด็กที่ติดตั้งอยู่ที่เบาะหลังโดยหันไปทางด้านท้ายรถ จนกว่าเด็กจะโตพอที่จะนั่งในเบาะที่นั่งที่หันไปด้านหน้ารถ

          เด็กที่มีอายุตั้งแต่ 4 ปี และมีน้ำหนักตัว 18 กก. ขึ้นไป จนถึงอายุ 8 ปี และมีส่วนสูง 145 ซม. ควรนั่งในเบาะที่นั่งเด็กที่ติดตั้งบริเวณแถวหลัง เด็กที่มีอายุ 8 ปีขึ้นไปสามารถนั่งที่เบาะหลังของรถยนต์ได้ตามปกติจนถึงอายุ 12 ปี ทั้งนี้ผู้โดยสารทุกที่นั่งควรคาดเข็มขัดนิรภัยอยู่เสมอ

          การติดตั้งเบาะที่นั่งเด็กที่ถูกต้องที่สุดต้องใช้จุดยึด ISO Fix และ Top Tether ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากลสำหรับการใช้เบาะที่นั่งเด็กในรถยนต์ จุดยึด ISO Fix และ Top Tether เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถเชฟโรเลตทุกรุ่น การตรวจสอบว่ารถที่ใช้มีจุดยึด ISO Fix และ Top Tether หรือไม่นั้นดูได้ที่ฉลากระหว่างฐานและด้านหลังของตัวเบาะ (หรืออาจพบตัวจุดยึดชัดเจน) นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบในคู่มือประจำรถหรือติดต่อผู้จัดจำหน่ายและบริษัทผู้ผลิต

ใช้ตัวล็อกนิรภัยป้องกันเด็กเปิดประตู

          เมื่อจัดให้เด็กนั่งอยู่ในเบาะที่นั่งเรียบร้อยแล้ว ควรใช้ตัวล็อกนิรภัยสำหรับเด็กที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถเชฟโรเลตทุกรุ่น เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กเปิดประตูออกจากภายในรถด้วยตนเอง

จัดเก็บสิ่งของเข้าที่ให้เรียบร้อย

          สิ่งของขนาดเล็กต่าง ๆ เช่น ของเล่นพลาสติก หรือสิ่งของขนาดใหญ่เช่น เครื่องใช้ในบ้าน ควรเก็บให้พ้นมือเด็ก เนื่องจากเด็กอาจนำเข้าปากและอาจเป็นอันตรายได้เมื่อเกิดอุบัติเหตุ สิ่งของเหล่านั้นควรเก็บไว้ท้ายรถหรือถ้ามีขนาดเล็กสามารถเก็บไว้ที่คอนโซลกลางหรือลิ้นชักหน้ารถ โดยรถเชฟโรเลตทุกรุ่นมาพร้อมกับช่องเก็บของที่สะดวกสบาย ทั้งนี้ของเล่นที่ทำจากผ้า เช่น ตุ๊กตาหมี ถือว่าเหมาะสมสำหรับ เด็กเล็กเนื่องจากมีความเสี่ยงต่ำในการบาดเจ็บเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

เก็บกุญแจให้พ้นมือเด็ก

เก็บกุญแจให้พ้นมือเด็กและไม่ทิ้งเด็กไว้ในรถ

          ควรเก็บกุญแจและรีโมทประตูให้พ้นมือเด็ก เนื่องจากเด็กอาจนำเข้าปากและถือเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญ ขณะเดียวกันไม่ควรปล่อยให้เด็กอยู่ในรถตามลำพัง ควรตรวจสอบเบาะหลังก่อนออกจากรถทุกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ทิ้งเด็กไว้ภายในรถ

ให้เด็กมีของเล่นระหว่างการเดินทาง

          ถ้าเด็กที่นั่งอยู่เบาะหลังมีของเล่นที่ทำจากผ้า หนังสือปกอ่อน เพลงหรือวีดีโอ เด็กจะมีแนวโน้มที่จะรบกวนสมาธิผู้ขับขี่น้อยลง ถ้ามีเด็กมากกว่าหนึ่งคนภายในรถ ขอให้แน่ใจว่าเด็กมีของเล่นของตัวเอง ซึ่งจะทำให้เด็กเล่นซนด้วยกันน้อยลง ขณะที่ผู้ขับขี่ก็จะมีสมาธิมากขึ้น

โทรศัพท์ขณะขับรถ

ไม่ควรใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ

          การคุยโทรศัพท์หรือส่งข้อความขณะขับรถอาจทำให้เกิดอันตรายได้ ผู้ขับขี่ควรมีสมาธิในการขับรถ ถ้าจำเป็นต้องใช้โทรศัพท์ส่งข้อความหรือช่วยเหลือเด็กขณะขับรถ ควรรอจนกว่าจะสามารถจอดรถอย่างปลอดภัยหรือเดินทางถึงจุดหมาย

ระมัดระวังเด็กบนท้องถนน

          ควรระมัดระวังคนเดินถนนอยู่เสมอ โดยเฉพาะเมื่อขับขี่อยู่ในเขตโรงเรียนหรือบนถนนที่มีรถจอดอยู่สองข้างทางซึ่งเด็กอาจวิ่งออกมาบนถนนอย่างไม่คาดคิดหรือบริเวณที่จอดรถของห้างสรรพสินค้าซึ่งเด็กอาจเดินอยู่ด้านหน้าหรือหลังรถ ควรถอยรถออกจากช่องจอดช้า ๆ พร้อมมองกระจก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เคล็ดลับการใช้รถบนถนนอย่างปลอดภัยสำหรับคุณแม่ อัปเดตล่าสุด 7 สิงหาคม 2557 เวลา 16:01:29 1,342 อ่าน
TOP