เรื่องของยนต์กรรมเป็นสิ่งที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ค่ายรถยนต์ต่างพัฒนารถในแบบฉบับของตัวเอง แต่มีจุดหนึ่งที่ทุกค่ายรถมองเห็นและให้ความสำคัญคือ "ความปลอดภัย" ที่ให้แก่ผู้ขับขี่
ซึ่งอุปกรณ์ความปลอดภัยในเริ่มแรกอย่าง เข็มขัดนิรภัย, ถุงลมนิรภัย หรือกระทั่งกระจกนิรภัย อาจจะช่วยป้องกันชีวิตของผู้ขับขี่เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้ว
แต่มันจะดีกว่าหรือไม่ถ้า "ไม่เกิดอุบัติเหตุ" ด้วยเหตุนี้แทบทุกค่ายรถจึงมุ่งไปหาระบบขับขี่อัตโนมัติที่ให้เจ้าของรถเข้าไปนั่งเฉย ๆ และใช้คอมพิวเตอร์ควบคุมทำให้มีความแม่นยำ ประมวลผลได้เร็วและลดความเสี่ยงจากการขับที่ผิดพลาด
Ford Fusion Hybrid
ระบบช่วยขับนี้ยังเป็นแบบกึ่งอัตโนมัติ ใช้เรดาร์ 3 ตัว เซ็นเซอร์อัลต้าโซนิคและกล้องทำงานร่วมกัน สามารถตรวจจับสิ่งที่อยู่หน้ารถได้ในระยะ 200 เมตร โดยทำการแจ้งเตือนไปยังคนขับ และหากไม่มีการตอบสนองจากคนขับระบบก็จะเริ่มทำงานหลบหลีกสิ่งกีดขวางนั้นเอง ซึ่งในการทดสอบนั้นรถวิ่งด้วยความเร็วถึง 60 กม./ชม. เลยทีเดียว
นวัตกรรมระบบช่วยขับขี่ในค่ายรถอื่น ๆ ก็เริ่มมีแล้วเช่นกัน เพียงแต่ระบบจะทำงานได้ก็ต่อเมื่อรถยนต์มีความเร็วต่ำเท่านั้น นับว่าโปรเจกต์เป็นก้าวสำคัญของรถยนต์อัตโนมัติไร้คนขับแบบจริง ๆ
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก dgmag, slashgear เเละ คุณFord Europeสมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม