x close

ค่ายรถยนต์ตื่นตัว ตลาดรถดีเซลซบเซา หวังใช้แผนการกระตุ้นเต็มที่

ประหยัดน้ำมัน

รียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          ตอนนี้ ดูเหมือนว่า ตลาดรถยนต์ดีเซลเริ่มที่จะซบเซาลงไป เนื่องจากในขณะนี้ รถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินนั้น เริ่มมีสมรรถนะความแรงที่เพิ่มขึ้น และประหยัดน้ำมันเหนือกว่ารถยนต์ดีเซล อีกทั้งเทคโนโลยีแบบไฮบริด ก็เริ่มถูกลงทุกวัน และจากจุดนี้เอง รถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินและรถยนต์ไฮบริด ดูจะเป็นข้อได้เปรียบพอสมควร จนอาจทำให้ยอดขายรถยนต์ดีเซล ลดลงอย่างน่าใจหาย

          แม้ว่าเจนเนอรัล มอเตอร์ส และ ไครสเลอร์ ได้ประกาศแผนการผลิตรถยนต์รุ่นที่ใช้น้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นในปีนี้ แต่ทางฟอร์ด โตโยต้า และฮุนได กลับพยายามหลีกเลี่ยงเครื่องยนต์ดีเซลที่จะใช้กับรถเก๋ง ด้านนายจอห์น คราฟซิก ประธานบริหารของบริษัทฮุนได คาดการณ์ว่า ค่าใช้จ่ายของรถยนต์ดีเซลนั้น คิดเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.4 แสนบาท มากกว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินทั่วไป ส่วนค่าใช้จ่ายของรถยนต์ไฮบริดนั้น ก็อยู่ที่ประมาณ 1,500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4.4 หมื่นบาทเท่านั้น

          นอกจากนี้ รถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซิน ยังถูกพัฒนาให้มีกำลังแรงขึ้น แต่ประหยัดน้ำมันมากขึ้น และแม้ว่าในปีก่อน ยอดขายของตลาดรถยนต์ดีเซลในสหรัฐอเมริกาจะเพิ่มขึ้นถึง 25 เปอร์เซ็นต์ แต่มีเพียง 2.7 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่เป็นรถใหม่ และมียอดขายน้อยกว่ารถยนต์แบบไฮบริดเพียงเล็กน้อย ซึ่งครึ่งหนึ่งของรถใหม่ที่ใช้น้ำมันดีเซล จะอยู่ที่ตลาดยุโรปมากกว่า

Chevrolet Chevette

          ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เจนเนอรัล มอเตอร์ส ได้เผยโฉมรถยนต์ เชฟโรเลต ครูซ แบบดีเซล ซึ่งถือเป็นรถเก๋งดีเซลของ GM คันแรกนับตั้งแต่ที่ผลิตรถยนต์ เชฟโรเลต เชฟเว็ตต์ (Chevrolet Chevette) ในปี 1986 เชฟโรเลต ครูซ รุ่นดีเซล มาพร้อมกับเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จขนาด 148 แรงม้า มีแรงบิดอยู่ที่ 350 นิวตันเมตร ประหยัดน้ำมันเพียง 18 กิโลเมตรต่อถัง เมื่อวิ่งบนทางหลวง

          นอกจากนี้ ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของเยอรมันอย่าง โฟล์คสวาเกน บีเอ็มดับเบิลยู เมอร์เซเดส เบนซ์ ได้ร่วมกันจัดโครงการ Clean Diesel. Clearly Better เพื่อเร่งโปรโมทน้ำมันดีเซลว่า เป็นเชื้อเพลิงที่มีราคาถูก คุ้มค่า และสามารถแข่งขันกับราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ และในปีก่อน ยอดขายของรถโฟล์คสวาเกนแบบเครื่องยนต์ดีเซล ก็เพิ่มสูงขึ้นถึง 32 เปอร์เซ็นต์ หรือกว่า 83,000 คัน ในขณะที่ยอดขายรถยนต์ออดี้ แบบเครื่องยนต์ดีเซลในอเมริกานั้น ลดลงมาประมาณ 1.6 เปอร์เซ็นต์ หรือเพียง 7.179 คันเท่านั้น





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ค่ายรถยนต์ตื่นตัว ตลาดรถดีเซลซบเซา หวังใช้แผนการกระตุ้นเต็มที่ อัปเดตล่าสุด 5 เมษายน 2556 เวลา 10:55:50
TOP