FAIRLADY Z HS30 MADE BY AVO เรโทรคาร์ หล่อแรงกินขาด

 

        สำนักแต่ง เอโว-AVO ร่วมกับ โมเทค-MOTEC กล่องอีซียูแต่งแบรนด์ดัง สร้างสรรค์เรโทรคาร์ระดับตำนาน "นิสสัน แฟร์เลดี้ แซด เอส30" พร้อมปรับแต่งหลายจุด รวมถึงเสริมความแรงด้วยกล่องอีซียูโมเทค เอ็ม800 เป็นรถที่ถูกส่งจากออสเตรเลียสู่ญี่ปุ่นเพื่อปรับแต่ง และปัจจุบันนับเป็นรถล้ำค่าสุดหายาก

        รายละเอียดภายนอก โดยรวมคงสภาพเดิม ๆ ได้สมบูรณ์แบบ แต่ภายห้องโดยสารอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีขั้นเทพ "มร.โคชิม่า" เจ้าของรถกล่าวว่า ทุกอย่างเต็มไปด้วยความทรงจำ เพราะเริ่มปรับแต่งก่อนตั้งสำนักแต่งรถชื่อ "เอโว" ในออสเตรเลีย 

 

        แฟร์เลดี้ แซด เอส30 คันนี้มีชื่อเล่นในออสเตรเลียว่า HARRY KOJIMA เป็นรถสุดหวงของ มร.โคชิม่า แห่งสำนักแต่งเอโว ผู้หลงใหลการปรับแต่งรถสุด ๆ แต่หลายอุปกรณ์ของรถเสื่อมตามอายุ จึงเปลี่ยนหรือปรับสภาพให้คืนชีพอีกครั้ง บนเรือนร่างที่คงความคลาสสิคให้นึกถึงวันเก่า ๆ รถคันนี้จากโรงงานใช้เครื่องยนต์บล็อกแอล 6 สูบเรียง และเคยเปลี่ยนใช้เครื่องยนต์ 6 สูบ 4.3 ลิตรจาก CHRYSLER Charger จ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด เคยร่วมแข่งแรลลี TARGA TASMANIA และได้ประสบการณ์มากมาย ทำให้คุณโคชิม่าไม่มีวันลืม และเคยลงคอลัมน์พิเศษของนิตยสารรถในออสเตรเลีย จนมีคนรู้จักในช่วงเวลานั้น ล่าสุดรถคันนี้ถูกขนย้ายสู่ญี่ปุ่น คุณโคจิม่าฝากไว้กับคนรู้จัก ซึ่งช่วยดูแลรถอย่างดี และช่วยปรับแต่งเติมความสดให้กลับมาอีกครั้ง     

 

        ภายนอกคงมนต์เสน่ห์ในสไตล์คลาสสิค ผสานเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในแบบฉบับของรถซิ่งปัจจุบัน กับคอนเซ็ปต์ของสำนักแต่งเอโว โดยติดตั้งสปอยเลอร์หลังเพิ่มความโหดและดุดัน (ทำให้คล้ายเฟอร์รารี) และล้อแม็กรุ่นครบรอบพิเศษ การผสมผสานนี้ทำให้ตัวรถมีความคลาสสิคและดูสปอร์ตควบคู่กัน ทำให้หวนกลับเป็นรถล้ำค่าเหมือนในอดีตอีกครั้ง ขุมพลังเดิมถูกแทนที่ด้วยบล็อกใหม่อย่างอาร์บี26ดีอีทีที เพิ่มความจุกระบอกสูบเป็น 2.7 ลิตร ตามสูตรของจีที-อาร์ ตัวแข่งกรุ๊ปเอ ในการแข่งที่ออสเตรเลีย สร้างพลังได้ 620 แรงม้า โดยควบคุมระบบต่าง ๆ ด้วยกล่องอีซียูซิ่ง-โมเทค และใช้พีดีเอ็ม32 คุมระบบไฟฟ้า     

 

        อัดแน่นด้วยอุปกรณ์เสริมความปลอดภัย และความสบาย ทั้งแอร์ออโต, พวงมาลัยเพาเวอร์, ระบบเบรกทั้งชุดพร้อมเอบีเอสยกชุดจากซูบารุ อิมเพรซา จีดีบี, พีดีเอ็ม ยูนิต ซึ่งเป็นออปชันเสริมจากโมเทค และถอดรีเลย์ทั้งหมด เพื่อให้ระบบไฟฟ้าต่าง ๆ ควบคุมได้ง่าย พวงมาลัยเพาเวอร์ดัดแปลงใช้ของมาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 แบบแรงดันน้ำมัน ช่วยให้ขับใช้งานทั่วไปได้สะดวกขึ้น เพียงหักพวงมาลัยเบา ๆ ก็เลี้ยวได้ง่าย ภายในห้องโดยสารเสริมมาตรวัดคุณภาพสูง ช่วยให้ตรวจสอบการทำงานของเครื่องยนต์ได้ตลอดเวลา พร้อมเก็บข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ปัญหาต่างๆ และจับเวลา 0-402 เมตร ได้ด้วย โดยทำงานร่วมกันระหว่างกล่องอีซียูและดาต้าล็อกผ่านระบบ CAN        

 

        คุณโคจิม่าเคยอธิบายถึงการปรับแต่งว่า...อยากเสริมไนตรัส ในอนาคตเราอาจได้เห็นรถคันนี้อีกครั้งด้วยเทคโนโลยีที่เหนือกว่านี้ 

ขยายความจุกระบอกสูบเป็น 2.7 ลิตร พลังเกือบ 620 แรงม้า + กล่องอีซียูซิ่งโมเทค และใช้พีดีเอ็ม32 คุมระบบไฟฟ้า

 

แม้ภายในห้องโดยสารอุปกรณ์บางชิ้นจะเสื่อมตามกาลเวลา แต่ก็รักษาความสมบูรณ์ได้ดี และเบาะถูกเปลี่ยนใช้ของเรคาโร 

มาตรวัดที่เสริมเข้าไปเป็นรุ่น เอสดีแอล3 ที่เก็บข้อมูลได้

 

แร็คพวงมาลัยใช้ของมาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 แบบแรงดันน้ำมัน

ภายในเครื่องยนต์จัดเต็มด้วยตัวจุดระเบิดจาก Bosch และพอร์ตสำหรับต่อคอมพิวเตอร์ ไม่น่าเชื่อว่านี่คือ...เรโทรคาร์

แร็คพวงมาลัยใช้ของมาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 แบบแรงดันน้ำมัน  

ภายนอกใช้โป่งเดิมและสปอยเลอร์หลังสแตนดาร์ด คงสภาพของชิ้นงานต่าง ๆ อย่างน่าทึ่ง ทั้งที่เคยผ่านสังเวียนการแข่ง