เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก dongfeng.co.th
กลุ่มตงฟง มอเตอร์ ประเทศจีน จับมือ เอบี วอลโว่ สวีเดน พัฒนาเทคโนโลยีการผลิต เพิ่มยอดขายรถ แบรนด์จีนสู่ตลาดโลก
วันที่ 18 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มตงฟง มอเตอร์ ประเทศจีน และ เอบี วอลโว่ สวีเดน เซ็นสัญญาตกลงร่วมธุรกิจผลิตรถเชิงพาณิชย์ในประเทศจีนแล้ว ซึ่งนับว่าเป็นการปรับโครงสร้างครั้งสำคัญของ บริษัท ตงฟงฯ โดย วอลโว่จะเข้ามาร่วมพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีการผลิต และการตลาดภายใต้แบรนด์ตงฟง ในกลุ่มรถบรรทุกขนาดกลางจนถึงกลุ่มรถบรรทุกหนัก ซึ่งจะมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองเสิ่นหยาง มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน
ทั้งนี้ การลงทุนสำหรับการร่วมทุนครั้งนี้ อยู่ที่ประมาณ 12.5 พันล้านหยวน ถือว่าเป็นการฉีกกฎการร่วมทุนในตลาดรถยนต์แบบเดิม โดยตงฟง ถือหุ้น ร้อยละ 55 ขณะที่วอลโว่ถือร้อยละ 45 และยังเป็นการเปิดยุค post joint venture era ที่จะใช้แบรนด์จีน เข้าสู่ตลาดสากลอีกด้วย ซึ่งจะร่วมกันดำเนินงานทั้งด้านการวิจัยและพัฒนาการผลิต รวมถึงการขายภายใต้แบรนด์ ตงฟง ครอบคลุมกลุ่มธุรกิจรถบรรทุกขนาดกลางและรถบรรทุกหนัก ตลอดจนรถตู้ยานพาหนะพิเศษตัวถังเครื่องยนต์และเกียร์
โดย นายซู ปิง ประธานกรรมการบริหารของ กลุ่มตงฟง มอเตอร์ กล่าวว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายประมาณ 7.9 ล้านคัน และเมื่อปี 2012 ที่ผ่านมา ยอดขายของรถยนต์โดยสารเพิ่มขึ้นถึง 1.2 ล้าน ขณะที่ยอดขายรถยนต์เชิงพาณิชย์สูงขึ้นกว่า 600,000 คัน ซึ่งเห็นได้ว่าการเติบโตของรถเพื่อการพาณิชย์ในประเทศจีนลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง ทางบริษัทฯ จึงเห็นว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะขยายตลาดสู่ต่างประเทศ
ด้านผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า บริษัท ตงฟง มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น สามารถแข่งขันในตลาดด้วย เนื่องด้วยต้นทุนที่ต่ำ แต่ยังอยู่ภายใต้กรอบกฎเกณฑ์ภายในประเทศ ขณะเดียวกันยังมีช่องว่างทางการตลาดให้บริษัทฯ สามารถพัฒนาคุณภาพการผลิตเข้าสู่ระดับสากลได้ ทั้งเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อม การประหยัดพลังงาน และความปลอดภัย ซึ่งการร่วมมือกันครั้งนี้ วอลโว่จะนำเทคโนโลยีทางด้านการผลิตเข้ามาใช้เพื่อพัฒนารถเชิงพาณิชย์ของตงฟงให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น
ทางด้าน นายโอลอฟ เพอร์สัน ซีอีโอของวอลโว่ กล่าวว่า ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าของวอลโว่และเครือข่ายพันธมิตรที่ดีทั่วโลก จะช่วยทำให้รถยนต์เชิงพาณิชย์แบรนด์ตงฟงก้าวเข้าสู่ตลาดโลกได้ และยังเป็นการขยายตลาดของวอลโว่ในประเทศจีนอีกด้วย
