ชัดเจน Tesla Model 3 รถยนต์ไฟฟ้าขายดีที่สุดในสหรัฐฯ เดือนสิงหาคม 2561 คาดทำสถิติได้สูงสุด 17,800 คัน และถ้านับตั้งแต่เดือนมกราคม-สิงหาคม 2561 Tesla Model 3 จะมียอดขายสะสม รวม 55,882 คัน ทิ้งคู่แข่งทั้งแบบไฟฟ้าล้วน (BEV) และปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV) กระจายแบบไม่เห็นฝุ่น
ปัญหาดูเหมือนจะเริ่มคลี่คลายแล้วสำหรับ Tesla Model 3 รถยนต์ไฟฟ้าระดับ Entry Level ราคาพอซื้อหาได้ เพื่อจับตลาด Mass Production หลังโดนถล่มจองอย่างหนักจนมีปัญหาเรื่องการผลิตและส่งมอบไม่ทันความต้องการ ประมาณว่าต้องรอกันข้ามปี ลูกค้าหลายรายถึงกับถอดใจหันไปซื้อรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่น เช่น Nissan Leaf (รถยนต์ไฟฟ้าขายดีที่สุดในโลก) แต่อุปสรรคใด ๆ ก็มิอาจพรากตำแหน่งรถยนต์ไฟฟ้าขายดีที่สุดในสหรัฐฯ ไปจาก Tesla Model 3 ได้เลย
โดยเดือนสิงหาคม 2561 Tesla Model 3 สามารถทำยอดขายในสหรัฐ (โดยประมาณ) ได้สูงถึง 17,800 คัน เรียกว่าสูงสุดตั้งแต่ Tesla Model 3 วางจำหน่ายมาเลยทีเดียว ซึ่งถ้านับตั้งแต่เดือนมกราคม-สิงหาคม 2561 Tesla Model 3 มียอดขายสะสมรวมแล้ว 55,882 คัน เหนือกว่าอันดับ 2 อย่าง Toyota Prius Prime ที่ทำได้ 18,310 คัน ส่วน Nissan Leaf ตามมาห่าง ๆ ที่ 9,123 คัน (เป็นรอง Honda Clarity PHEV ด้วยซ้ำ)
ไม่เพียงแค่ Tesla Model 3 ที่ฮอตถล่มทลาย Tesla Model S และ Model X ก็จัดอยู่ในอันดับต้น ๆ ของยอดขายรวมรถยนต์ไฟฟ้า+รถปลั๊กอินไฮบริดในสหรัฐฯ (มกราคม-สิงหาคม 2561) Tesla Model S ราคาแสนแพงเอาใจตลาดบน ทำได้ 14,645 คัน ส่วน Model X ทำได้ 13,600 คัน (แต่ Margin อาจไม่มาก ตัวทำกำไรของ Tesla จริง ๆ คือ Tesla Model 3) ซึ่งตัวเลขดังกล่าวยากที่ BMW, Mercedes-Benz หรือรถยุโรปแบรนด์อื่น ๆ จะฝันถึง มัดรวมกันแล้วยังยาก
แต่จะว่าไป Tesla Model 3 อาจไม่ใช่รถยนต์ไฟฟ้าระดับ Entry Level เสียเท่าไรนัก แม้ว่า Tesla Model 3 ตั้งราคาเริ่มต้นไว้ 35,000 ดอลลาร์ (1.15 ล้านบาท) จริง แต่ถ้าลากออปชั่นถมลงไป เช่น Long Range Battery, แพ็กเกจตกแต่ง Premium Upgrades, ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ, แพ็กเกจเสริมสมรรถนะ, ล้อ 19 นิ้ว หรือระบบช่วยขับขี่เต็มรูปแบบ เป็นต้น ราคา Tesla Model 3 ก็จะไปไกลมากเกือบเท่าตัวของราคาจำหน่าย
ดังนั้นใครที่คาดหวังว่า Tesla Model 3 ในไทยจะมีราคาถูก (ถ้าจะมีขายจริง ๆ) คงเป็นเรื่องที่ยากมากและอย่างน้อยก็คงไม่ใช่ตอนนี้หรือเร็ว ๆ นี้
ภาพจาก Insideevs
