All-new Lexus ES 2019 ซีดานผู้บริหารไฟแรง สปอร์ตสู้ตายกับรถยุโรปพรีเมียม

All new Lexus ES 2019 รถซีดานพรีเมียมขนาดกลางระดับบิซิเนสคลาสเปิดตัวในไทย ดีไซน์เฉียบขาด เอาใจผู้บริหารหัวใจสปอร์ต แต่นั่นอาจต้องใช้ความกล้าหาญและมั่นใจสูงพอสมควรที่จะมองข้ามคู่แข่งอย่าง Mercedes-Benz E-Class หรือ BMW 5 Series เพื่อเลือก All new Lexus ES 2019 ในระดับราคาที่ใกล้เคียงกัน

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดตัว All new Lexus ES 2019 รถซีดานพรีเมียมขนาดกลางระดับบิซิเนสคลาส (Executive Sedan) ของ Lexus คู่แข่ง Mercedes-Benz E-Class และ BMW 5 Series ซึ่ง Lexus เป็นรถพรีเมียมที่ดีและเลิศเกินพอจะเป็นคู่แข่งกับรถยุโรปมานาน แต่ต้องยอมรับความจริงว่า จากสายตาคนทั่วไปภาพลักษณ์ Lexus ในไทยวัดด้วยได้ยาก แต่สาวกหรือคนที่เคยสัมผัส Lexus จะรู้ว่าทำไมจึงยอมปล่อยผ่านข้อดีบางอย่างในรถยุโรป แม้นั่นจะเป็นชนกลุ่มน้อยแต่ก็น้อยด้วยความพิเศษ

โดย All new Lexus ES 2019 ในไทยจะเป็นแบบไฮบริดทั้งหมด มีให้เลือก 3 ระดับการตกแต่ง ดังนี้

• Lexus ES 300h Luxury                     ราคา 3,579,000 บาท
• Lexus ES 300h Grand Luxury          ราคา 3,760,000 บาท
• Lexus ES 300h Premium                  ราคา 4,190,000 บาท

อาจเหนื่อยหน่อยที่จะต้องพยายามโน้มน้าวว่า All new Lexus ES 2019 มีดีแค่ไหน (ซึ่งเราไม่มีความจำเป็นต้องทำอย่างนั้น อีกทั้ง Lexus ขายได้ด้วยคุณค่าในตัวเองอยู่แล้วส่วนหนึ่ง) และน่าจะง่ายกว่าหากแนะนำให้ไปเลือก Mercedes-Benz E-Class หรือ BMW 5 Series แต่ถ้าว่ากันตามเนื้อผ้า ความประณีต หรูหรา Lexus ไม่น้อยหน้าใคร และ All new Lexus ES 2019 ก็แสดงความกล้าหาญ เหนือชั้น ตั้งแต่งานออกแบบทั้งภายใน-ภายนอกได้ดีพอสมควร

เส้นสายและสัดส่วนภายนอกของ  All new Lexus ES 2019 เฉียบขึ้นมาก การขึ้นรูปพื้นผิวตัวถังพับเป็นเส้นคม ระยะห่างรอยต่อประณีต ไม่ใช่งานง่ายมีต้นทุนสูง เป็นวิธีที่ Lexus พยายามโชว์สกิล ส่วนสวยหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับรสนิยม แต่ภาพรวม All new Lexus ES 2019 สปอร์ตเนี้ยบกว่า Lexus ES โฉมปัจจุบันมากภายใต้แพลตฟอร์มใหม่ GA-K (Global Architecture-K Platform) ออกแบบยังผลในแง่ความสปอร์ต จุดศูนย์ถ่วงต่ำและแน่นอนใช้ร่วมกันได้กับรถยนต์หลายรุ่นหลายแบบ ถ้าฟังชื่อแพลตฟอร์มแล้วยังไม่คุ้น อธิบายได้ว่า มันคือหนึ่งในแพลตฟอร์ม TNGA หรือจะให้ชัดกว่านั้นคือแพลตฟอร์มเดียวกับ Toyota Camry 2018 โฉมใหม่ ง่าย ๆ ตามนั้น

ซึ่งที่ผ่านมา Lexus จะวางตำแหน่งให้รหัส ES มีบุคลิกหรูสุภาพ พิธีรีตอง มากกว่า Lexus GS ที่ขนาดพอ ๆ กัน แต่ GS เน้นสมรรถนะด้วยบุคลิกสปอร์ตขับหลัง ต่างจากรถขับเคลื่อนล้อหน้าอย่าง Lexus ES ชัดเจน แต่จากการที่ All new ES 2019 ใหม่ ดูสปอร์ตขึ้นทั้งภาพลักษณ์และบุคลิกการขับขี่ (กว่าเดิม) ทำให้มีข่าวลือว่า Lexus อาจจะยุบรหัส GS ลงในอนาคต

ทางด้านภายใน ความประณีตแบบงานฝีมือสไตล์ญี่ปุ่นคือหัวใจ Lexus แต่ All new Lexus ES 2019 กล้าหาญกว่าคู่แข่งในแง่ของดีไซน์ ไม่ยึดติดกับรูปแบบเดิม ๆ จนลูกค้าเซ็ง ยอมนำเสนอสิ่งแปลกใหม่ แม้มีความเสี่ยงสูง เพราะแน่นอนว่ารสนิยมของลูกค้าไม่สามารถคาดเดาได้ทั้งหมด นั่นเป็นสิ่งที่เราชื่นชม ส่วนคุณภาพวัสดุ ความหรูหรา ไม่ต้องถามหาจาก Lexus ไม่ใช่ไม่มี แต่เพียบพร้อม

ส่วนขุมพลังของ All new Lexus ES 300h ซึ่งเป็นแบบไฮบริดทั้งหมดนั้น ประกอบไปด้วยเครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 221 นิวตันเมตร ทำงานผสานกับมอเตอร์ โดยทั้งสองระบบให้กำลังสูงสุดรวมกัน 218 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ E-CVT ส่วนแบตเตอรี่เป็นแบบนิกเกิล-เมทัลไฮไดรด์ นั้นดูเชยไปจริง ๆ

ส่งผลให้ตัวเลขบนกระดาษของ All new Lexus ES 300h สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลา 8.9 วินาที และมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 23.2 กม./ลิตร ขณะที่ความเร็วสูงสุดน่าจะถูกจำกัดไว้ที่ 180 กม./ชม. และตัวเลขนี้อาจทำให้ขัดใจผู้บริหารบางท่านอยู่ก็เป็นได้ แม้ว่าโลกความเป็นจริงการวิ่งแช่ด้วยความเร็วระดับนี้ไม่อาจเกิดขึ้นได้บ่อยนัก แต่ใครก็ชอบตัวเลขสวย ๆ ทั้งนั้น ถึงไม่ได้ใช้แต่มีไว้คุยก็ยังดี โดยแทบไม่สนคุณภาพหรือแฮนด์ลิ่งในการวิ่งที่สำคัญกว่าเลยด้วยซ้ำ

สำหรับระบบความปลอดภัย ไม่ต้องกังวล All new Lexus ES 2019 ติดตั้งมาให้เพียบ เช่น

• ถุงลมนิรภัย 10 ตำแหน่ง
• ระบบลดไฟสูงอัตโนมัติ (ไฟ LED ดิมเป็นบางจุดเฉพาะส่วนที่แยงตารถคันหน้า)
• ระบบหลีกเลี่ยงการชนด้านหน้า
• ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา
• ระบบควบคุมความเร็วรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าอัตโนมัติด้วยเรดาร์
• ไฟช่วยส่องสว่างขณะเข้าโค้ง
• ระบบแจ้งเตือนการจราจรขณะถอย

All new Lexus ES 2019 ในไทย มีสีตัวถังให้เลือกมากถึง 10 เฉดสี ซึ่งเราเชื่อว่าใครก็ตามที่เลือก Lexus ย่อมมีเหตุผลมากพอที่จะปล่อยผ่านบางเรื่อง เช่น ภาพลักษณ์ ที่ดูเหมือนจะเป็นรองรถยุโรปพรีเมียมที่ราคาใกล้เคียงกันในสายตาของคนไทยส่วนใหญ่ (ซึ่งในระดับสากลไม่เลย) แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้บุคคลเหล่านั้นดูพิเศษด้วยเช่นกัน