รีวิว mitsubishi xpander 2018 ก่อนเปิดตัวในไทยสิงหาคมนี้ เจาะข้อมูล mitsubishi xpander 2018 ก่อนเปิดตัวสิงหาคมนี้
หากถามว่ารถยนต์ของมิตซูบิชิ รุ่นไหนฮอตสุดในเวลานี้ก็ต้องยกให้ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ 2018 (mitsubishi xpander 2018) ตั้งแต่เปิดตัวอย่างเป็นทางการช่วงเดือนสิงหาคม 2560 ในประเทศอินโดนีเซียก็ได้รับกระแสตอบรับดีมาก ๆ และก็มีข่าวแว่วมาว่ามิตซูบิชิ ประเทศไทย ก็สนใจนำรุ่นนี้มาทำตลาด
แว่วครั้งแรกคือช่วงมกราคม 2561 แต่พอใกล้เวลากลับเงียบสงบ.... ต่อมาอีกครั้งคืองานมอเตอร์โชว์ ช่วงปลายเดือนมีนาคม ปรากฏแค่ mitsubishi ex concept รถต้นแบบของ xpander
สาเหตุที่กลายเป็นแค่ "แว่ว" นั้นก็เพราะตัวรถ mitsubishi xpander 2018 ฮอตเกินเหตุ เพียงลำพังในอินโดนีเซียสั่งจองเดือนละหมื่นกว่าคันผลิตส่งไม่ทันค้างออร์เดอร์เป็นเดือน
หากมิตซูบิชิ ประเทศไทย ทำการเปิดตัวตั้งแต่มกราคม ปล่อยให้รับรถสิงหาคมก็ยังไม่ได้ เว็บบอร์ดและโลกออนไลน์คงมีเรื่องมิตซูบิชิสนั่นแน่ ๆ ทั้งหมดคือเหตุผลที่ mitsubishi xpander กลายเป็นแค่เรื่องแว่วมานาน
สุดท้ายรถสุดฮอต mitsubishi xpander 2018 ก็พร้อมแล้วที่จะทำตลาดในไทย โดยให้สื่อมวลชนทั้งหลายได้ทดสอบก่อนเปิดตัวด้วยซ้ำ ชนิดแคะข้อมูลกางให้ดูทั้งหมด พร้อมยืนยันว่ารุ่นที่ทดสอบไม่ต่างจากการจำหน่ายจริง เหลือเรื่องราคาที่ขออุบไว้วันเปิดตัว..
การเทสต์ไดรฟ์ mitsubishi xpander 2018 ครั้งนี้ ถูกวางกิมมิก ขึ้นเหนือเชียงราย ล่องใต้ถึงสุราษฎร์ธานี นั้นก็เพราะรถรุ่นนี้มิติใหญ่ขนาดที่ว่านั่งโดยสาร 7 คนได้จริง โดยใช้เครื่องเบนซิน 1.5 ลิตร จับคู่กับเกียร์ 4 สปีด (ช่วงนี้เขาฮิตเกียร์ 4 สปีดกันเหรอ ?) และกระปุกคาร์ได้เส้นทาง บุรีรัมย์-กรุงเทพฯ ระยะร่วม 400 กม. เส้นทางมีช่วงขึ้นเขา-ทำถนนเป็นระยะ ถือว่าเป็นจุดทดสอบที่ดีมาก แถมบรรยากาศโปรยปรายด้วยฝนตลอดทั้งวัน
mitsubishi xpander 2018 คือรถครอสโอเวอร์ ใหญ่สุดในกลุ่ม !
- กว้าง 1,750 มม.
- ยาว 4,475 มม.
- สูง 1,695 - 1,700 มม. (ตามรุ่นย่อยจากขนาดล้อ)
- ความสูงใต้ท้องรถ 200 - 205 มม. (ตามรุ่นย่อยจากขนาดล้อ)
- วงเลี้ยว 5.2 เมตร
รถยนต์ประเภท 7 ที่นั่ง มักจะถูกสื่อสารว่า MPV แต่มิตซูบิชิเลือกใช้ครอสโอเวอร์ หากมองจากมิติรถ-ดีไซน์ และการยกสูง ก็ได้อยู่ ในพรีเซ็นต์มีการเทียบตัวเลขให้ชัด ๆ ใหญ่กว่าคู่แข่งเกือบทุกมิติ
รูปโฉมภายนอก mitsubishi xpander 2018 แบบใหม่ Advanced Dynamic Shield
ยอมรับเลยว่านี่เป็นการเปลี่ยนแปลงด้านดีไซน์ที่ทำให้หันกลับมามองมิตซูบิชิใหม่ ทั้งเส้นสายที่คมและเชื่อมโยงกันในกระจังหน้า กันชน ด้านข้างไปถึงด้านหลังและมีการตกแต่งด้วยโครเมียม
อุปกรณ์ถูกจัดวางในตำแหน่งที่แปลกไป อย่างโคมไฟที่ติดกับกระจังกลายเป็นเพียงไฟหรี่ LED ที่กันชนมีดีไซน์รับกับชุดไฟหน้าฮาโลเจนกับโคมรีเฟล็กเตอร์ และไฟตัดหมอกแบบกลมที่ย้ายจุดไปอยู่ชายกันชน ไฟท้ายหลังเป็น LED ทั้งหมด
mitsubishi xpander 2018 สีภายนอกให้เลือกเพียง 4 สีพื้น ๆ
- สีดำ Jet Black Mica
- สีเทา Titanium Gray
- สีเงิน Sterling Silver
- สีขาว Quartz White Pearl
ภายใน mitsubishi xpander 2018 ทำดูดีในงบจำกัดเพื่อสู้ราคา
รุ่นจำหน่ายในอินโดนีเซีย xpander จะใช้ภายในสีเบจ ส่วนไทยได้ห้องโดยสารใช้สีดำ หากมองเผิน ๆ ก็ไม่มีอะไร แต่แท้จริงแล้วไม่มีการบุนุ่มในห้องโดยสารเลย ใช้วิธีปั๊มลายผิวเลียนแบบหนัง รอยตะเข็บ ซึ่งทั้งหมดทำให้นวลตาขึ้นแม้จะเป็นพลาสติกทั้งหมด
เช็กเรื่องงานประกอบถึงแม้จะมาจากโรงงานอินโดนีเซีย แต่มาตรฐานดีมากทีเดียวดูจากร่องเสาบีภายในรถ ช่องเก็บของและกล่องคอนโซลกลางปิดสนิทและการเลื่อนเปิด-ปิดสมูทดีเยี่ยม เบาะตะเข็บเนียน หนังไม่ยับ
เรื่องความสะดวกสบาย mitsubishi xpander 2018 ยอดเยี่ยมมาก สะท้อนกับมิติของรถที่ใหญ่ พื้นห้องโดยสารด้านหลังเกือบเรียบ และเบาะนั่งแถวสามสามารถนั่งได้จริง ออกแบบที่พับเบาะแถวสองใช้วิธีการผลักมาด้านหน้า ทำให้คนจากแถวสามพับเบาะเองได้ง่าย
ฟังก์ชั่นการพับเบาะ แถวสามและสองพับได้เรียบ เพิ่มเติมคือแถวสองยกเบาะขึ้นได้ทั้งฐาน เรื่องขนของหมดห่วง
การโดยสารผู้ทดสอบมีโอกาสนั่งครบทั้ง 3 แถว แต่ขอโฟกัสไปที่การนั่งเต็มพื้นที่ 7 คน เบาะแถวสามรุ่นนี้นั่งได้จริง ! แค่ตำแหน่งเบาะแถวสองอยู่ตรงกลางรางเลื่อน นั่งก็สบายได้เพราะยังทำองศาการเอนหลังได้อีกประมาณหนึ่งด้วย คอนเฟิร์มว่าจุดนี้ดีสุดในกลุ่ม
สมัยนี้ใคร ๆ ก็มีสมาร์ตโฟน ซึ่งในรถให้ช่องเสียบชาร์จไฟ 12V มา 3 จุด พอลากสายเสียบสมาร์ตโฟนทั้งสามแถว จุดวางแก้วน้ำที่ทำช่องพอกับแก้วเก็บความเย็น 30oz นับดูมากถึง 8 จุด และไม่ต้องห่วงเรื่องความร้อนเพราะเบาะแถวสองและสาม มีคอยล์เย็นพร้อมช่องแอร์ที่สามารถปรับระดับแรงลม แต่เพิ่ม-ลดความเย็นไม่ได้อยู่ในระดับหนาวหัวสั่น
การขับ mitsubishi xpander 2018 ด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 4AT และช่วงล่าง เพียงพอใช้
เครื่องยนต์ mivec เบนซิน 1.5 ลิตร 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ พร้อมปุ่ม Overdrive รองรับ E20
เพื่อเทียบให้ชัด ผู้ทดสอบจึงลองวัด 0-100 กม./ชม. ได้เวลาที่ 16.87 วินาที ซึ่งในรถมีผู้โดยสาร 4 คน น้ำหนักรวมประมาณ 260 กก.
การทำความเร็วช่วง 100 กม./ชม. รอบเครื่องอยู่ที่ 2,500 รอบต่อนาที, ช่วง 120 กม./ชม รอบเครื่องที่ 3,000 รอบต่อนาที เช็กอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยได้ 12.5 กม./ลิตร เมื่อจบทริป
ทัศนวิสัยของรถดีเยี่ยมมาก ๆ ด้วยเสาเอที่ลาดและเล็ก (ตัดสินด้วยตาคุณ จากภาพได้เลย)
การขับหรือจังหวะเปลี่ยนเกียร์ 4AT มีรอยต่อในบุคลิกแบบเกียร์อัตโนมัติ เปลี่ยนระดับเกียร์ปุ๊บรอบเครื่องตกค่อนข้างเยอะ สมองกลที่ควบคุมเกียร์สนองการขับได้ดี ในช่วงความเร็วไม่ถึง 100 กม./ชม. หากคิกดาวน์ต้องการแรง เกียร์จะถูกสับลงและลากรอบจัดให้เรียกแรงบิดสูงสุดอย่างไม่มีปัญหา
ถ้าหากใช้ความเร็วช่วง 110 กม./ชม. การกดคันเร่งและคิกดาวน์แทบไม่ผล รถจะค่อย ๆ ๆ (ขอเน้นว่าค่อย) ไต่ความเร็วขึ้น จุดนี้หากต้องการแรงจริง ๆ พึ่ง Overdrive เป็นทางออกที่ดีที่สุด
การควบคุมแร็คแอนด์พิเนียน พร้อมการควบคุมด้วยไฟฟ้า น้ำหนักกำลังดีมีปรับเพิ่มความหนักเมื่อใช้ความเร็ว เรื่องการควบคุมให้วงเลี้ยวที่แม่นยำดี แต่การขับรู้สึกถึงแรงสะเทือนจากล้อส่งมาที่พวงมาลัยเล็กน้อย
ระบบเบรกด้านหน้าแบบดิสก์ ด้านหลังแบบดรัม แป้นเบรกค่อนข้างแข็งและเบรกค่อนข้างทื่อ
ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และเหล็กค้ำหัวโช้ค ด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม ด้วยการที่ความสูงพอประมาณก็จะมีการเด้ง ๆ และการโยนตัวของรถเล็กน้อยคล้ายรถแบบ SUV โดยรวมถือว่าพอใช้ครับ
ความปลอดภัย mitsubishi xpander 2018 อัดให้มาแน่น
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC-Active Stability Control)
- ระบบป้องกันการลื่นไถล (TCL-Traction Control System)
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA-Hill Start Assist System)
- ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS-Anti Lock Braking System)
- ระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD-Electronic Brake Force Distribution)
- ระบบเสริมแรงเบรก (BA-Brake Assist)
- ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS-Emergency Stop Signal System)
- ถุงลมนิรภัยด้านคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า
- เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับและระบบผ่อนแรงอัตโนมัติ ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง
- เข็มขัดนิรภัยแบบ ELR 3 จุด 5 ตำแหน่งสำหรับผู้โดยสารทุกที่นั่ง
- กล้องมองภาพด้านหลัง (ในรุ่น GT)
สรุปส่วนตัวจากผู้ทดสอบ
mitsubishi xpander 2018 คือรถ 7 ที่นั่ง ที่พร้อมโดยสารได้จริง ๆ คุ้มค่าในเรื่องความอเนกประสงค์ เครื่องยนต์และเกียร์ก็พอแล้วล่ะครับสำหรับรถครอบครัว ส่วนหน้าตาสวยและทันสมัยมาก ออปชั่นได้ทุกอย่างที่ควรจะมี
เรื่องที่อยากติ พนักพิงศีรษะเบาแถวสามเลื่อนยาก, รถ 7 ที่นั่ง กลับมีที่พนักพิงศีรษะเพียง 6 ตำแหน่ง, ระบบแอร์ตอนหลังปรับความเย็นไม่ได้และไม่มีปุ่มตัดการทำงานจากคนขับ ถ้าเผลอเปิดทิ้งไว้ก็ต้องมาเอื้อมปิดเอง สุดท้ายคือไฟหรี่สวย ๆ ก็ต้องกดเปิดซึ่งสามารถแทนเป็นไฟ Daylight แบบสมัยนิยมได้ครับ
สุดท้ายก็ลุ้น mitsubishi xpander 2018 ว่าราคาที่จะเปิดตัวในสิงหาคมนี้โดนใจแค่ไหน ซึ่งมีการแย้มมาว่า "แพง" กว่าคู่แข่งเล็กน้อยเหตุจากภาษีสรรพสามิต 20% ถูกจัดเก็บตามค่าไอเสีย
Q&A หลังทดสอบ กับประเด็นที่คุณควรรู้
- สเปกที่เห็นมาจากโรงงานในอินโดนีเซีย ทำให้ขายในไทยโดยเฉพาะควบคุมมาตรฐานโดยญี่ปุ่น
- รถถูกล็อกความเร็วสูงสุดไว้ที่ 160 กม./ชม.
- ที่ใช้ 4AT เพราะตลาดอินโดนีเซียเป็นหลัก เน้นไปที่ความทนทานเพราะภูมิประเทศเป็นทางเขาส่วนใหญ่ มิตซูบิชิ ประเทศไทย ก็อยากได้ CVT เพราะทำค่าไอเสียและประหยัดน้ำมันได้ดีกว่านี้ ติดปัญหาเรื่อง ส่วนแบ่งการตลาดไม่เยอะพอที่จะต่อรอง แต่ก็ไม่แน่...หากขายดี คุณอาจพบ CVT ในโฉมไมเนอร์เชนจ์
- อะไหล่พร้อม แน่นสต็อกเพราะมาตั้งแต่ "แว่ว" ครั้งแรก
ข้อมูลจำเพาะของ mitsubishi xpander 2018
ขอขอบคุณ มิตซูบิชิ มอเตอร์ ประเทศไทย ที่อำนวยความสะดวกในทริปทดสอบไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
