การทำสีรถยนต์ เรื่องสีที่ไม่หมูในรถยนต์คลาสสิก

          การทำสีระดับนี้สามารถเลือกใช้บริการอู่สีที่ทำรถทั่วไปได้ อาศัยความสามารถพื้นฐานในการเคาะ โป๊วและพ่นสีให้ได้ตามมาตรฐาน โดยมากจะได้งานสีตามแบบรถยุคใหม่ เพราะอู่ทำสีอาจทำสีด้วยหลักการทำสีแบบรถยุคปัจจุบัน ซึ่งคนส่วนใหญ่อาจชอบ แต่หลักการทำสีรถคลาสสิกมีความแตกต่างกันในรายละเอียดพอสมควร

          จุดที่ควรระวังคือความเรียบร้อยในการประกอบ ซึ่งรถคลาสสิกมักมีเทคนิคเฉพาะ อีกทั้งวัสดุมักไม่ทนทาน นอกจากนี้การเลือกอู่สีทั่วไปที่รับทำทั้งรถใหม่และรถคลาสสิกอาจพบปัญหาเรื่องความละเอียดเพราะมีเงื่อนไขเวลาหรือค่าใช้จ่ายเป็นตัวกำหนด

          หากเป็นรถคลาสสิกระดับสะสมที่ค่อนข้างมีคุณค่าหรือมูลค่า ควรพิจารณาเลือกใช้บริการอู่สีรถยนต์คลาสสิก เพราะมีอุปกรณ์รวมถึงให้เวลาในการทำงานได้มากกว่า แต่ต้นทุนการทำค่อนข้างสูง มีการเก็บรายละเอียดงานสี มีการถอดชิ้นส่วนออกมาเพื่อตกแต่งแล้วประกอบกลับเข้าไปใหม่ เพื่อให้ใกล้เคียงกับที่รถออกจากโรงงานมากที่สุด

          งานระดับนี้ค่อนข้างละเอียดและใช้ฝีมือ รวมถึงต้องอาศัยความเข้าใจ ใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพดี หากจำเป็นต้องปะผุ จะเลือกคงสภาพเดิมไว้ให้ได้มากที่สุด ให้ความสำคัญกับการเลือกสีที่เหมาะสมหรือตรงกับรุ่นปีของรถ เพื่อแสดงความงามตามจริงของรถในยุคนั้น ๆ

          เป็นการทำสีรถคลาสสิกหรือรถโบราณในระดับสูงสุด เปลืองสุดและมักจะควบคู่ไปกับส่วนอื่น ๆ ซึ่งต้องรื้อทำทั้งหมด มักไม่นิยมการดัดแปลง อุปกรณ์ กลไกต่าง ๆ ต้องตรงรุ่น เพื่อให้คงความสมบูรณ์ตามสภาพดั้งเดิมไว้

          การลงทุนลักษณะนี้เหมาะกับรถรุ่นที่มีคุณค่าและมีความโดดเด่นมาก ๆ และควรเลือกอู่สีที่มีความชำนาญในการทำรถโบราณหรือรถคลาสสิกเป็นพิเศษ ต้องใช้ความละเอียด ประณีตสูง ต้องแกะชิ้นส่วนประกอบทุกชิ้นมาแต่งใหม่ เน้นความสมบูรณ์ของงานสีและตัวถัง ทรวดทรงถูกต้อง ให้ใกล้เคียงกับรถใหม่จากโรงงานที่ยังไม่ผ่านการซ่อมสีตัวถัง

          อย่างไรก็ตามในกรณีทำสีรถคลาสสิกและรถโบราณอย่างจริงจัง ผู้เล่นรถคลาสสิกมักต้องศึกษาประวัติความเป็นมาของรถรุ่นนั้น ๆ หรือควรมีผู้เชี่ยวชาญคอยควบคุมการฟื้นฟู แต่ทั้งนี้ ไม่มีอะไรตายตัวและขึ้นอยู่กับความพอใจหรือสไตล์ในการลงทุนฟื้นฟู เพราะบางครั้งหลักการอาจไม่ตรงกับความต้องการของแต่ละคนและคงต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ

ภาพประกอบจาก pixabay.com