โดยพิธีฉลองดังกล่าวได้รับเกียรติจาก ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายชิโร ซะโดะชิมะ เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำประเทศไทย และนายโอซามุ มาสุโกะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านการลงทุนของไทย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน รวมถึงแขกผู้มีเกียรติ บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วน หุ้นส่วนทางธุรกิจ สื่อมวลชน และพนักงานเข้าร่วมงาน
ดร.สมคิดกล่าวว่า "ความสำเร็จของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ในวันนี้เน้นย้ำบทบาทสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เป็นหนึ่งในพลังขับเคลื่อนสู่การเติบโตของประเทศไทย ทั้งนี้การเติบโตและความยึดมั่นต่อการดำเนินธุรกิจของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในประเทศไทย รวมถึงความเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน จะช่วยส่งเสริมให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายด้านเศรษฐกิจที่ตั้งไว้ได้" ดร. สมคิดกล่าวสรุป
นายโอซามุ มาสุโกะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ได้กล่าวแสดงความขอบคุณสำหรับการสนับสนุนและความร่วมมือที่ได้รับจากรัฐบาลไทย โดยได้กล่าวว่า "เรามีความเชื่อมั่นอยู่เสมอในศักยภาพการเติบโตของตลาดประเทศไทย นโยบายในระยะยาวของไทยที่มุ่งสร้างการเติบโตให้แก่อุตสาหกรรมยานยนต์จะมีส่วนสนับสนุนธุรกิจของเราเป็นอย่างดี"
ศูนย์การผลิตแหลมฉบังนับว่าเป็นศูนย์การผลิตนอกประเทศญี่ปุ่นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ผลิตได้ถึง 424,000 คันต่อปี สามารถส่งออกไปยังกว่า 120 ประเทศทั่วโลกผ่านทางเรือ กำลังการผลิตในประเทศไทยมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนการเติบโตของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และในระดับโลก
นายโมริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวระหว่างพิธีฉลองครั้งนี้ว่า "เราจะเดินหน้าคิดค้นเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อีกทั้งจะยังคงมุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรม และยกระดับเทคโนโลยีไปพร้อมการพัฒนาบุคลากรของเรา เพื่อความสามารถในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรอบด้าน
เราจะส่งมอบยานยนต์ที่เพียบพร้อมครบครัน มั่นใจได้ในทุกการขับขี่ และมอบอรรถประโยชน์ในการใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งหมดนี้นับเป็นพื้นฐานของการขับเคลื่อนกลยุทธ์ระดับโลกของเรา "Drive your Ambition" พันธสัญญาจาก มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่มีต่อผู้ขับขี่ทุกคน"
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เริ่มต้นดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2504
ผลิตรถยนต์ครบ 1 ล้านคันในปี พ.ศ. 2546
ผลิตรถยนต์ครบ 2 ล้านคันในปี พ.ศ. 2553
ผลิตรถยนต์ครบ 3 ล้านคันในปี พ.ศ. 2556
ผลิตรถยนต์ครบ 4 ล้านคันในปี พ.ศ. 2558
ในจำนวนการผลิต 5 ล้านคันนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ผลิตเพื่อส่งออก 3.7 ล้านคันไปยังกว่า 120 ประเทศทั่วโลก ได้ทำการฉลองการส่งออกรถยนต์ครบ 3 ล้านคันไปเมื่อปี พ.ศ. 2559
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยมีโรงงานผลิตรถยนต์ 3 แห่งในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง โรงงานแห่งแรกเปิดทำการในปี พ.ศ. 2535
โรงงานแห่งที่สองซึ่งมุ่งเน้นการผลิตรถกระบะขนาดหนึ่งตันเปิดทำการในปี พ.ศ. 2539 มิตซูบิชิ มอเตอร์สได้เข้าร่วมโครงการ Thailand Product Champion โครงการแรกของประเทศ เพื่อสนับสนุนและผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการผลิตและการส่งออกรถกระบะ
ต่อมาในปี พ.ศ. 2550 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เข้าร่วมโครงการ Thailand Product Champion ครั้งที่สอง หรือโครงการอีโคคาร์และลงทุนสร้างโรงงานแห่งที่สามซึ่งเริ่มผลิตรถยนต์อีโคคาร์ในปี พ.ศ. 2555 นอกจากนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยยังมีโรงงานผลิตเครื่องยนต์สำหรับจัดจำหน่ายในประเทศและเพื่อการส่งออก
ปัจจุบัน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มีพนักงานมากกว่า 6,650 คน ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจและยกระดับบทบาทของบริษัทฯ ในกลุ่ม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ทั่วโลก มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังพร้อมด้วยศูนย์บรรจุชิ้นส่วนเพื่อการส่งออก สนามทดสอบรถยนต์ และศูนย์การฝึกอบรมแห่งใหม่ในนาม สถาบันการศึกษาและฝึกอบรม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย