เทียบ Toyota C-HR 2018 กับ Honda HR-V 2017 ตัวท็อป นาทีนี้คุณให้ใคร

          เทียบสเปครุ่นท็อป Toyota C-HR 2018 กับ Honda HR-V 2017 ครอสโอเวอร์ขนาดเล็ก ราคาล้านต้น ๆ ซึ่งชั่วโมงนี้คงไม่มีรถรุ่นใดในคลาสเดียวกันฮอตกว่า Toyota C-HR 2018 และ Honda HR-V 2017 อีกแล้ว
         
          ก่อนอื่นเรามาดูรุ่นย่อยสูงสุดและราคาจำหน่ายของรถครอสโอเวอร์จากทั้งสองรุ่นกันเลย โดยทาง Toyota C-HR 2018 ซึ่งเป็นแบบไฮบริด ราคาจะแพงกว่า HondaHR-V 2017 อยู่ 60,000 บาท ดังนี้

          - Toyota C-HR 2018 รุ่นย่อย HV Hi        ราคา 1,159,000 บาท

          - Honda HR-V 2017 รุ่นย่อย EL              ราคา 1,099,000 บาท

ดีไซน์และอุปกรณ์ภายนอก


          ทั้งนี้เรื่องของดีไซน์คงขึ้นอยู่กับความชอบหรือไลฟ์สไตล์ในการใช้งานเป็นหลัก เพราะแม้จะเป็นรถครอสโอเวอร์สไตล์คล้ายกัน แต่ต่างกันที่แนวคิดในการออกแบบตั้งแต่เริ่มต้น โดย Toyota C-HR 2018 วางคอนเซ็ปต์ให้เป็นรถคูเป้ยกสูง แต่อเนกประสงค์แบบรถ SUV ขณะที่ Honda HR-V 2017 เน้นความอเนกประสงค์แบบรถ SUV แล้วทำให้สปอร์ตแบบรถคูเป้


          ดังนั้นถ้าเน้น Stylish เก๋ไก๋ อวดไลฟ์สไตล์ชิค ๆ บุคลิกของ Toyota C-HR 2018 ชัดเจนกว่า Honda HR-V 2017 ที่เน้นความสมดุลลงตัว สำหรับทุกการใช้งาน หรือ Conventional กว่านั่นเอง แต่ถ้าพิจารณาจากสเปคตัวเลขตามตาราง Toyota CH-R 2018 น่าจะให้การขับขี่ที่หนักแน่น มั่นคง ไม่ว่าจะด้วยจากน้ำหนักตัว ฐานล้อและช่วงล้อ ขณะที่ Honda HR-V 2017 น่าจะให้ความคล่องตัว ว่องไวกว่า



          ส่วนอุปกรณ์ภายนอกที่ให้มาทั้ง Toyota C-HR 2018 และ Honda HR-V 2017 รุ่นท็อป ต้องบอกว่าหวือหวากันไปคนละแบบ สูสีกันมาก แต่ถ้าวัดกันที่ลูกเล่นฟรุ้งฟริ้งต้องให้ Toyota ส่วนความรื่นรมย์ในการเดินทาง หลังคากระจกที่ Honda ตั้งใจให้มาก็ถือว่าดีงามมาก



          เว้นเสียแต่การป้องกันเสียงรบกวนภายนอกที่ Toyota C-HR น่าจะทำได้ดีและใส่ใจในรายละเอียด เช่น เสียงลม ไม่ใช่แค่กระจกหน้า Acoustic Glass แต่การมีครีบเล็ก ครีบน้อย (ข้างกระจกมองข้าง) ร่องบนหลังคา พอจะบอกได้ว่า Toyota ใช้เวลาในอุโมงค์ลมพอสมควร (จริง ๆ แทบทุกรุ่นของ Toyota ยุคหลัง) ซึ่งน่าจะทำให้การขับขี่เงียบสงบมีความเป็นส่วนตัว

ดีไซน์และอุปกรณ์ภายใน

          ถ้าเป็นดีไซน์คงต้องเว้นไว้ให้กับความชอบส่วนบุคคล แต่สิ่งที่หลายคนอยากบ่นคือ Toyota C-HR 2018 ภายในนั้นอาจทำให้รู้สึกอึดอัด โดยเฉพาะผู้โดยสารตอนหลัง (แต่ตัวเบาะเรายืนยันว่านั่งได้สบายดีทีเดียว) ซึ่งเป็นธรรมชาติของรถคูเป้ที่ส่วนใหญ่มักจะต้องเจอกับสถานการณ์นี้ ถึง Toyota C-HR 2018 จะมีประตู 4 บาน แต่แนวคิดคือคูเป้ เน้นสปอร์ตโฉบเฉี่ยว จึงต้องยอมแลกกับความโปร่งสบาย และจุดนี้ต้องยอมรับว่าทีมออกแบบ Toyota แน่วแน่ กล้าหาญมาก



          แต่ถ้าเป็น Honda HR-V 2017 จะเจอกับปัญหาเรื่องความอึดอัดน้อยกว่า ให้ความใส่ใจในการโดยสารมากกว่า 2 คน แม้จะไม่ได้โปร่งโล่งสบายแบบรถ SUV คันใหญ่ก็ตาม แถมมีหลังคากระจกแบบรถพรีเมียมมาให้ด้วย

          ส่วนอุปกรณ์มาตรฐานของตัวท็อปทั้งสองรุ่นสูสีกันแบบรักพี่เสียดายน้อง แต่ถ้าพูดถึงในแง่การใช้งานจริง อุปกรณ์มาตรฐาน Toyota C-HR 2018 ดูจะเหนือกว่านิด ๆ แค่ไม่มีเบาะคนขับปรับไฟฟ้ากับหลังคากระจกเท่านั้น แต่สำหรับบางคนอาจเป็นเรื่องใหญ่ คงต้องชั่งใจหนักว่าอะไรคือฟีเจอร์ที่คุณต้องการจริง ๆ กันแน่

ระบบความปลอดภัย


          หัวข้อนี้ชัดเจน Toyota C-HR 2018 มีระบบความปลอดภัยมาตรฐานเหนือกว่า ทั้งระบบความปลอดภัยเชิงป้องกัน Toyota Safety Sense หรือเรื่องพื้นฐานมาก ๆ อย่างเข็มขัดนิรภัย 3 จุด และพนักพิงศีรษะทุกที่นั่ง ส่วนถุงลมนิรภัยมีให้ 7 ตำแหน่ง


          ขณะที่ Honda HR-V 2017 พลาดในจุดที่ไม่ควร เช่น เข็มขัดนิรภัย 3 จุด มีให้แค่ 4 ตำแหน่ง พนักพิงศีรษะกลางเบาะหลังไม่มี ระบบเสริมแรงเบรก (BA) ก็ด้วย อันนี้น่าแปลกใจมาก แต่ระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันอย่าง Honda Sensing ที่ยังไม่มีพอให้อภัยกันได้ แต่ Honda HR-V 2018 ใหม่ ปรับโฉม ควรจะต้องมีได้แล้ว อย่างน้อยก็ในรุ่นท็อป

เครื่องยนต์


*หมายเหตุ : อ้างอิงตาม Ecosticker

          อย่างที่บอกว่าการเปรียบเทียบครั้งนี้เน้นรุ่นท็อปเป็นหลัก เพราะฉะนั้นขุมพลังต่างกันจึงไม่ใช่ประเด็นหลัก แต่...Toyota C-HR 2018 ที่เป็นระบบไฮบริด จะได้เปรียบในแง่ความประหยัดและปล่อยมลพิษน้อย ทำให้ถูกเรียกเก็บภาษีสรรพสามิตในระดับที่ต่ำเพียง 4 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ Honda HR-V 2017 โดนไป 20 เปอร์เซ็นต์ จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไม Toyota C-HR 2018 ราคาสูงกว่า Honda HR-V 2017 แค่ 60,000 บาท ถึงได้อุปกรณ์มาตรฐานเพียบเลย


          ส่วนการขับขี่ ถ้ามองแค่จากสเปค Honda HR-V 2017 น่าจะคล่องแคล่ว ว่องไว ให้ความรู้สึกเป็นสปอร์ตกว่า Toyota C-HR 2018 ที่เป็นไฮบริดในภาพรวมไม่มากก็น้อย เพราะอัตราส่วนต่อน้ำหนักบ่งชี้ว่า ม้า 1 ตัว ของ Honda HR-V 2017 แบกน้ำหนักแค่ 9.2 กก. ส่วน Toyota CH-R 2018 แบกไป 11.9 กก. ดังนั้นจึงต้องไปลองขับว่าอยากได้ความประหยัดแต่การตอบสนองนั้นเพียงพอต่อความต้องการหรือไม่ ซึ่งเท้าขวาแต่ละคนย่อมหนักไม่เท่ากันแน่

อุปกรณ์ตกแต่ง

          สำหรับอุปกรณ์เสริมหล่อ Toyota C-HR 2018 จัดชุดแต่งแท้ TRD มาให้เลือกหลายชิ้น หลายสไตล์ โดยเน้นโทนสีตัดกับสีตัวถัง ส่วนทาง Honda HR-V 2017 มีชุดแต่ง Modulo เน้นเรียบโก้ ไม่หวือหวาเท่าและมีความหลากหลายน้อยกว่า แต่ในส่วนนี้ถือเป็นทางเลือกที่ต้องจ่ายเงินเพิ่มอยู่แล้วสำหรับคนชอบแต่งเท่านั้นและไม่น่าจะมีผลอะไรนักกับการตัดสินใจ


          เช่นเคยการเปรียบเทียบรถครอสโอเวอร์สุดฮอตของชั่วโมงนี้ ระหว่าง Toyota C-HR 2018 กับ Honda HR-V 2017 คงไม่ใช่การตัดสินว่ารุ่นไหนดีกว่า เราเพียงแค่ต้องการให้เห็นข้อมูลและภาพชัดขึ้นว่ารถครอสโอเวอร์คันใดมีสิ่งที่คุณต้องการมากที่สุด ซึ่งทั้งหมดอาจไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ฟีเจอร์ ดีไซน์หรือสมรรถนะเลยก็ได้ แค่ความพอใจ (จะเกิดจากอะไรก็ตาม) ก็นับว่าเป็นเหตุผลที่ดีในการเลือกรถที่บ่งบอกไลฟ์สไตล์ของ “ตัวเราเอง” แต่ถ้าจะให้ดี (และไม่รีบใช้รถ) ควรรอ Honda HR-V 2018 ใหม่ ปรับโฉม

ภาพจาก Toyota และ Honda