All-new Mercedes-Benz A-Class L Sedan ตัวถัง 4 ประตู แฮตช์แบ็ก ฐานล้อยาว (L) เผยโฉมปักกิ่ง ออโต้ โชว์ 2018 และจะไม่มีตลาดไหนในโลกได้ใช้รถยนต์รุ่นนี้ (All-new Mercedes A-Class L Sedan) นอกจากจีน เพราะ Mercedes-Benz พัฒนาขึ้นมาแบบ Exclusive เฉพาะ Beijing Benz Automotive Co., Ltd (BBAC) เท่านั้น ซึ่งทาง Daimler เยอรมนีได้ร่วมทุนกับกลุ่ม BAIC Motor ของจีน และในปี 2017 Mercedes-Benz ขายรถยนต์หรูในจีนได้กว่า 610,000 คัน ดังนั้นจีนจึงเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่ต้องเอาใจมากหน่อย !
อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่า Mercedes-Benz A-Class Sedan จะไม่มีวางจำหน่ายในตลาดอื่น แค่ A-Class L Sedan ที่เป็นรุ่นฐานล้อยาวและสีตัวถังพิเศษโรสโกลด์เท่านั้น ที่ทาง Mercedes-Benz ระบุไว้ชัดเจนว่าจะมีแค่จีน Only ซึ่งได้ถูกขยายฐานล้อจากมาตรฐานให้ยาวขึ้นอีก 6 ซม. (จาก 2,729 มม. เป็น 2,789 มม.) เพื่อความสบายของผู้โดยสารตอนหลัง
โดยขนาดตัวถังของ Mercedes A-Class L Sedan จะยาว 4,609 มม. กว้าง 1,769 มม. และสูง 1,460 มม. ส่วนความจุสัมภาระท้ายรถมีขนาดใหญ่ถึง 420 ลิตร เพราะอย่างที่รู้ ๆ กันว่าลูกค้าชาวจีนสะดวกแบบนี้ ซึ่งรถยุโรปหลายรุ่นก่อนหน้าก็ต้องยืดฐานล้อเอาใจเศรษฐี รวมถึงอาตี๋ อาหมวยที่การเงินเริ่มอู้ฟู่เป็นพิเศษมาเยอะแล้วถ้าอยากจะขายให้คล่องขึ้น
สำหรับดีไซน์ของ Mercedes-Benz A-Class L Sedan นั้นก็ไม่ต่างจาก Mercedes-Benz A-Class 2018 ตัวถังแฮตช์แบ็กนัก นอกจากด้านท้ายที่ยื่นออกมาตามสไตล์ตัวถังแฮตช์แบ็ก โดยเป็นภาษาการออกแบบล่าสุดของ Mercedes-Benz ตามปรัชญา Sensual Purity ด้วย Sensual Surfaces หรือการใช้พื้นผิวที่ให้ความรู้สึกบริสุทธิ์ เรียบง่ายสไตล์ Contemporary ซึ่งดูเหมือนดีไซน์นี้จะถูกจริตลูกค้าส่วนใหญ่ เพราะตั้งแต่ Mercedes-Benz เริ่มใช้ภาษาการออกแบบนี้ก็ขายดิบ ขายดีขึ้นทันตา จนยอดขายทั่วโลกแซงหน้า BMW ไปลิ่ว ๆ และน่าจะทำให้ฝ่ายบัญชีหัวเราะกันคิกคักได้มากกว่าที่ผ่านมา
นอกจากฐานล้อที่ถูกยืดขยายให้ยาวกว่าปกติเพื่อผู้โดยสารตอนหลังแล้ว การตกแต่งภายในของ Mercedes-Benz A-Class L Sedan ก็ไม่ได้แตกต่างจาก Mercedes-Benz A-Class 2018 ตัวถังแฮตช์แบ็ก ทั้งแผงคอนโซลที่เหมือนเอาแท็บเล็ตขนาดใหญ่ไปวางแปะไว้ ช่องแอร์ทรงกลม Turbine-look มากถึง 5 ช่อง จนให้ความรู้สึกคล้ายกับนั่งอยู่ในยานเอเลี่ยน พร้อมกับไฟ Ambient Light ที่ช่วยสร้างบรรยากาศพิเศษในห้องโดยสารได้มากถึง 64 เฉดสี (ซึ่งเราก็ยังแอบสงสัยว่าลูกค้ารถพรีเมียมต้องการอะไรที่มากขนาดนี้จริง ๆ หรือ ?)
จุดขายที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับ Mercedes-Benz A-Class L Sedan คือระบบมัลติมีเดีย MBUX ซึ่งเป็น AI ที่ฉลาดทันสมัย แถมยังรองรับแอปพลิเคชั่น WeChatMyCar ที่ฮิตมากในจีน รองรับสั่งงานด้วยภาษาจีนที่เป็นการออกเสียงแบบธรรมชาติได้หลากหลายสำเนียงท้องถิ่นทั้งเสฉวนและกวางตุ้ง
ส่วนทางด้านขุมพลังของ Mercedes-Benz A-Class L Sedan ในจีน ในเบื้องต้นจะใช้เครื่องยนต์อะลูมิเนียมแบบ 4 สูบ ขนาดความจุ 1.3 ลิตร ซึ่งให้กำลัง 134 แรงม้า และ 160 แรงม้า และจากนั้นจะมีเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ที่ให้กำลังประมาณ 188 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบคลัตช์คู่ 7G-DCT ตามออกมาภายหลัง เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ทั้งนี้ All-new Mercedes-Benz A-Class L Sedan มีกำหนดจะเริ่มวางจำหน่ายในตลาดจีนช่วงครึ่งหลังของปี 2018 ส่วนตลาดอื่นนอกเหนือจากจีน Mercedes-Benz A-Class Sedan ฐานล้อมาตรฐานก็จะเริ่มทำตลาดช่วงเดียวกันและคาดว่าไทยคงไม่ยอมพลาดรถยนต์พรีเมียมคอมแพกต์รุ่นนี้ของ Mercedes-benz ด้วยแน่
คลิป :
ภาพจาก daimler
ภาพจาก daimler
