เมื่อวันที่ 15 มกราคาม บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยความสำเร็จของผลประกอบการปี 2560 ด้วยยอดจำหน่ายรวมรถยนต์สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 14,484 คัน ครองความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งกลุ่มตลาดรถยนต์หรูระดับพรีเมี่ยมเป็นปีที่ 17 ติดต่อกัน
ประกาศทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2561 ประเดิมไตรมาสแรกด้วยการเสริมแกร่งกลุ่มรถยนต์สมรรถนะสูง ผ่านการแต่งตั้งผู้จำหน่ายรถยนต์แบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีอย่างเป็นทางการกว่า 11 แห่งทั่วประเทศ อีกทั้งเตรียมขนทัพยนตรกรรมรุ่นใหม่มากกว่า 10 รุ่น ครบครันในทุกเซ็กเมนต์ทั้ง Compact Car, Contemporary Luxury Sedan, Dream Car และ SUV มาร่วมสร้างสีสันให้กับตลาดรถยนต์หรูตลอดทั้งปี
นายไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ในปี 2560 ถือเป็นอีกหนึ่งปีประวัติศาสตร์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ทั่วโลก ด้วยยอดจำหน่ายรถยนต์สูงถึง 2,289,344 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าคิดเป็น 9.9% (2559: 2,083,888 คัน) โดยความสำเร็จมาจากรถยนต์ตระกูล SUV ที่มียอดขายกว่า 800,000 คัน หรือเท่ากับ 14% ของจำนวนทั้งหมด
นอกจากนี้ เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี ของแบรนด์ Mercedes-AMG ในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้แบรนด์นี้ได้สร้างสถิติใหม่ด้วยยอดขายสูงสุดเป็นครั้งแรก กว่า 130,000 คัน ซึ่งโตขึ้นกว่าปี 2016 ถึง 33% สำหรับในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ กว่า 875,250 คัน ได้ถูกส่งมอบให้แก่ลูกค้าในปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นถึง 19.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
สำหรับในประเทศไทย บริษัทฯ ยังคงครองความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งตลาดรถยนต์หรูเป็นปีที่ 17 ติดต่อกัน ด้วยยอดขายรวมรถยนต์สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 14,484 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 23% โดยมียอดขายในเดือนธันวาคมอยู่ที่ 1,764 คัน เติบโต 26% (ธันวาคม 2559: 1,401 คัน) และยอดขายในไตรมาสที่สี่อยู่ที่ 3,672 คัน”
"ปัจจัยความสำเร็จดังกล่าว มาจากการดำเนินธุรกิจภายใต้ความมุ่งมั่นที่จะมอบ "สิ่งที่ดีที่สุด" (The Best) ให้กับลูกค้าทั้งในวันนี้ และวันข้างหน้า ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์ และบริการหลังการขาย ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอรถยนต์รวม 18 รุ่น ครบครันในทุกเซ็กเมนต์ ที่สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี
ทั้งยังสร้างสีสันให้กับวงการรถหรู ด้วยการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของแบรนด์รถยนต์สปอร์ตสมรรถนะสูง Mercedes-AMG และแบรนด์รถยนต์หรูระดับอัลตราลักซูรี่ Mercedes-Maybach รวมถึงแบรนด์เทคโนโลยี EQ - Electric Intelligence by Mercedes-Benz เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับกลุ่มลูกค้าของเรา ในขณะที่ด้านบริการหลังการขาย เราได้เพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าทุกท่านที่ซื้อรถยนต์จากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ด้วยการแนะนำบริการ 24-h Service Vito บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อมอบความอุ่นใจ ไร้กังวลตลอดการเดินทางในทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย"
- ให้ความสำคัญกับทั้ง 4 แบรนด์ที่ทำการตลาดอยู่ในประเทศไทย
- แต่งตั้งผู้จำหน่ายรถยนต์แบรนด์ Mercedes-AMG อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในประเทศไทย จำนวนทั้งสิ้น 11 แห่งทั่วประเทศ
- ยนตรกรรมครอบคลุมทุกรูปแบบ มากกว่า 10 รุ่น ทั้งกลุ่ม Compact Car, Contemporary Luxury Sedan, Dream Car และ SUV
- ตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นำอันดับหนึ่ง ด้านยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า ภายใต้แบรนด์ EQ-Electric Intelligence by Mercedes-Benz ด้วยการขยายจุดติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (Charging Station) อีกกว่า 80 จุดภายในปีนี้
ไตรมาสแรกจะทำการเปิดตัวยนตรกรรมแบรนด์ Mercedes-AMG รุ่นใหม่ อย่าง C 43 Coupé LOCAL PRODUCTION รวมถึงเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าทุกท่านที่ซื้อรถยนต์กลุ่มนี้ ด้วยการเปิดตัวผู้แทนจำหน่ายรถยนต์แบรนด์ Mercedes-AMG อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
Mercedes-Benz CLS 2018
Merceses-Benz G-Class 2018
Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+ 2018
Merceses-Benz A-Class 2018
ส่วนอีก 9 รุ่น ที่เราพอบอกได้ตอนนี้อ้างอิงจากตลาดโลกคือ A-Class 2018, CLS-Class 2018, G-Class 2018 และ Mercedes-AMG 53-series ที่เหลือต้องรอดูเพิ่มเติมกัน
แผนการดำเนินงานด้านการบริการหลังการขายในปี 2561
- นำเสนอทั้งในด้านสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า ผ่านโปรแกรม My Privilege ที่ให้ลูกค้าสามารถเลือกบริการที่ตรงกับความต้องการของแต่ละท่าน (เฉพาะผู้จำหน่ายที่ร่วมโครงการ)
- ด้านอะไหล่แท้และอุปกรณ์ประดับรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ แนะนำผลิตภัณฑ์อะไหล่แท้ REMAN ที่ผ่านกระบวนการ Remanufacturing และมีคุณภาพดีเทียบเท่าอะไหล่ใหม่ตามมาตรฐานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายของค่าอะไหล่สูงสุดถึง 30% พร้อมระยะเวลารับประกันคุณภาพนานสองปี
ภาพประกอบจาก daimler