Toyota e-Palette Concept จะเป็นยานยนต์ขับเคลื่อนไฟฟ้ายุคใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ (ไร้คนขับ) ซึ่ง Toyota เรียกว่า Mobility as a Service (Maas) พร้อมเรียกใช้ผ่านเครือข่ายไร้สายบนแพลตฟอร์มการขนส่งและบริการอัจฉริยะ โดย Toyota e-Palette Concept จะเป็นพาหนะทรงกล่อง พื้นต่ำ เพื่อให้มีพื้นที่ภายในอเนกประสงค์สำหรับการออกแบบให้ใช้งานได้อย่างอิสระ เช่น คาร์แชร์ริ่ง ร้านค้าปลีก ห้องทำงาน และสำหรับการขนส่งสินค้า เป็นต้น ทั้งนี้ Toyota e-Palette Concept จะมี 3 ขนาด ความยาวอยู่ระหว่าง 4-7 เมตร (Toyota e-Palette Concept ที่นำมาโชว์ในงาน CES 2018 ยาว 4.8 ม. กว้าง 2 ม. และสูง 2.25 ม.) ให้เลือกใช้และติดตั้งอุปกรณ์ได้ตามลักษณะการใช้งาน
Toyota e-Palette Concept จะเป็นส่วนหนึ่งของ mobility service platform (MSPF) แพลตฟอร์มหรือเครือข่ายขนาดใหญ่ที่ Toyota ร่วมพัฒนาด้านเทคนิคกับพาร์ทเนอร์รายใหญ่อย่าง Didi Chuxing (คล้าย Uber), Mazda และ Uber และพาร์ทเนอร์ด้านบริการ Amazon, Didi Chuxing, Pizza Hut, LLC และ Uber ซึ่งหมายความว่าในอนาคต เราจะสามารถเรียกใช้บริการต่าง ๆ ได้จาก Smart Device เช่น Tablet หรือ Smartphone
เป็นต้นว่าเมื่อเรียก Uber มารับ-ส่งในจุดที่ต้องการ ก็จะมี Toyota e-Palette วิ่งมาตามนัดหมาย หากอยากทานพิซซ่า พิซซ่าก็จะถูกส่งผ่าน Toyota e-Palette มาถึงมือ หรือแม้แต่เรียกร้านค้าปลีกมาหน้าบ้าน (Toyota e-Palette ที่ติดตั้งภายในให้เป็นร้านค้า) เพื่อเลือกสินค้า เมื่อได้ของแล้วก็สแกนใบหน้า รับของ ชำระเงินผ่าน e-Wallet แบบสังคมไร้เงินสด (จริง ๆ ระบบที่ Toyota วางไว้นั้นเป็นได้ทั้ง Online Market Place และ Offline Market Place) ซึ่งทุกอย่างจะรับส่งข้อมูลผ่าน TOYOTA Big Data Center (TBDC) เพื่อกระจายไปยัง Toyota e-Palette (ที่เป็นร้านค้าปลีก ขนส่งสาธารณะ โลจิสติก และบริการอื่น ๆ อีกที) รวมแล้วก็จะเป็นเครือข่ายการขนส่งและบริการขนาดใหญ่ที่ไฮเทคและน่าทึ่งมาก ซึ่ง Toyota ยืนยันว่าทั้งหมดสามารถเกิดขึ้นรวมถึงใช้งานได้จริง
Toyota e-Palette และแพลตฟอร์มอัจฉริยะไม่ได้เป็นเพียงแค่แนวคิด แต่ Toyota คาดว่าจะนำมาทดลองใช้จริงในหลายประเทศ ภายในปี 2020 รวมถึงในงาน Tokyo Olympic Games 2020 และ Tokyo Paralympic Games 2020 ก็จะมียานยนต์ที่ติดตั้งบางฟังก์ชันของ ปี 2020 มาร่วมวิ่งใช้งานด้วย
