Toyota ประกาศแผนการหวังครองตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ส่งรถยนต์กว่า 10 รุ่น บุกตลาดทั่วโลก ภายใน 2 ปี นับจากนี้ และ Toyota ยังมั่นใจด้วยว่าจะกลายเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าภายในระยะเวลาอันรวดเร็วด้วยไพ่ใบสำคัญอย่างแบตเตอรี่โซลิดสเตทที่จะช่วยทำลายขีดจำกัดของรถไฟฟ้าให้เหมาะสมต่อการใช้งานจริงมากขึ้น
การประกาศแผนบุกตลาดรถไฟฟ้าของ Toyota นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางเดือนธันวาคม 2560 ซึ่งเว็บไซต์ Automotive News ถือเป็นเรื่องไม่ปกติธรรมดาสำหรับแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ที่ไม่ได้มีเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าเพียงแบบเดียว (เหมือน Tesla) และถ้ากลยุทธ์ของ Toyota ที่วางไว้นั้นได้ผล อาจเป็นไปได้ว่า Toyota น่าจะก้าวเข้ามาสู่แถวหน้าของการแข่งขันที่มีแบตเตอรี่เป็นตัวแปรสำคัญในทันที
ทั้งนี้ นายชิเงกิ เทราชิ รองประธานบริหารของ Toyota ได้กล่าวว่า "มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่งมาก และเราได้เติมจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายนี้ให้กับภาพรวมเป็นที่เรียบร้อย" โดย Toyota จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) คันแรกที่จีน หลังจากนั้นจะเริ่มเปิดตัวในญี่ปุ่น อินเดีย อเมริกา และยุโรป ซึ่งถือว่าเป็นตลาดหลักของรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึง Toyota จะเปิดตัวรถไฟฟ้าให้กับแบรนด์อื่น ๆ ในเครือ ซึ่งก็คือ Lexus ภายในปี 2025
นอกจากนี้ Toyota ยังวาดฝันไว้อย่างหรูด้วยการเพิ่มยอดขายรถยนต์ไฮบริด, ปลั๊ก-อิน ไฮบริด, รถยนต์ไฟฟ้า และรถไฮโดรเจน ให้ถึง 5.5 ล้านคัน ภายในปี 2030 และตั้งเป้าไว้ว่าในจำนวนนี้จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถยนต์ไฮโดรเจน ประมาณ 1 ล้านคัน (ซึ่งเป้าหมายรวม 5.5 ล้านคัน ที่ Toyota ตั้งไว้นั้น มากกว่ารถยนต์ Zero Emission ทุกยี่ห้อในโลกขายได้รวมกันในปี 2016 ถึง 2 เท่าเลยทีเดียว)
ในปีหน้า Toyota จะทุ่มเงินราว 10,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อใช้พัฒนารถยนต์ไฟฟ้าไปจนถึงปี 2030 ซึ่งกว่าครึ่งของเงินลงทุนจะถูกใช้ไปกับแบตเตอรี่ นอกจากนี้ Subaru และ Suzuki รวมถึงผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นอาจจะเข้าร่วมพัฒนากับ Toyota เช่นเดียวกับ Mazda และ Denso ที่ประกาศตนเป็นผู้ร่วมทุนเพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มรถไฟฟ้าไปก่อนแล้ว