x close

Mercedes-AMG Project ONE เร็ว แรง มหัศจรรย์มาก จาก 0-200 กม./ชม. ภายใน 6 วินาที

Mercedes-AMG Project ONE

          Mercedes-AMG Project ONE คือยานแม่สมรรถนะสูง 1,000 แรงม้า ที่มาพร้อมเทคโนโลยีไฮบริดจากสนามแข่ง Formula 1 ซึ่งต่อไปจะถ่ายทอด DNA ความร้ายกาจไปสู่ Mercedes-Benz AMG ทุกคันในอนาคต

          ไม่ว่าจะวันนี้ วันนู้นหรือวันไหน ๆ คนส่วนใหญ่คงจะไม่ได้มีโอกาสขับ Mercedes-AMG Project ONE  ไฮเปอร์คาร์ ไฮบริด เทคโนโลยีจากสนามแข่ง Formula 1 ซึ่งเป็น Show Car คันล่าสุดของ Mercedes-Benz ที่อวดโฉมในงานแฟรงก์เฟิร์ต มอเตอร์ โชว์ 2017 กันแน่นอนอยู่แล้ว แต่ความตั้งใจหลักของ Mercedes-Benz  คงแค่ต้องการที่จะประกาศให้รับรู้ว่าดวงดาวของพวกเขานั้นมีเทคโนโลยีที่ ​"ล้ำ" มากแค่ไหน และต่อจากนี้ไปจะถูกถ่ายทอดไปสู่ Mercedes-AMG ทุก ๆ คันบนโลก

Mercedes-AMG Project ONE

          Mercedes-AMG Project ONE เปรียบเสมือนการโชว์ตัวของยานแม่ที่ลอยอยู่เหนือท้องฟ้า และในอนาคต Mercedes-AMG ทุกคันก็จะได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีและ DNA อันน่าตื่นตาตื่นใจจากสนามแข่ง Formula 1 อย่างละนิดอย่างละหน่อย​และค่อย ๆ กระจายออกไปเป็นวงกว้างในหมู่ Mercedes-AMG ด้วยกัน 

Mercedes-AMG Project ONE

          โดยเฉพาะในเรื่องของสมรรถนะและขุมพลังที่ไม่เป็นสองรองใคร รวมถึงเป็นการแสดงแสนยานุภาพในวาระครบรอบ 50 ปี ของ AMG (นับตั้งแต่ปี 1967 โดยรถ AMG คันแรกคือ AMG 300 SEL 6.8 ที่มีชื่อเล่นว่า Red Pig ซึ่ง AMG ได้นำเอารถ Mercedes-Benz W109 หรือต้นตระกูลของ S-Class มาขยายความจุจากเดิม 6.3 ลิตร เป็น 6.8 ลิตร เพื่อลงแข่งขัน 24 ชั่วโมง ณ สนาม เดอ สปา-ฟรองโกชองส์ หรือ เดอะ สปา ในเบลเยียม ซึ่งเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 2 นำมาซึ่งชื่อเสียงให้กับ AMG เพียงชั่วข้ามคืน)

Mercedes-AMG Project ONE

Mercedes-AMG Project ONE

          Mercedes-AMG Project ONE จัดว่าเป็นไฮเปอร์คาร์ สองที่นั่ง ขุมพลังไฮบริด ที่มีพละกำลังมหาศาลถึง 1,000 แรงม้า สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-200 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียงแค่ 6 วินาที เท่านั้น ขณะที่ความเร็วสูงสุดทำได้สูงสุด 350 กม./ชม.
 
Mercedes-AMG Project ONE

          ทั้งหมดเกิดขึ้นจากเครื่องยนต์ขนาดความจุ 1.6 ลิตร เทอร์โบ หัวฉีดตรง ควอด-แคม ที่ยกมาจากรถแข่ง Formula 1 และวางไว้กลางลำหน้าเพลาท้ายของ Mercedes-AMG Project ONE ซึ่งลากรอบได้ถึง 11,000 รอบ/นาที ทำงานประสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าทั้งหมด 4 ตัว โดยแบ่งติดตั้งบริเวณเพลาท้าย 2 ตัว เพื่อเชื่อมต่อเข้ากับเพลาข้อเหวี่ยงของเครื่องยนต์ที่ไว้ขับเคลื่อนล้อคู่หลังจนสามารถปล่อย Output ออกมาได้ 500 kW (680 แรงม้า) ผ่านเกียร์แบบพิเศษ 8 สปีด ของ AMG ที่มีทั้งโหมดอัตโนมัติและธรรมดาด้วยการใช้แพดเดิลชิฟต์

Mercedes-AMG Project ONE

Mercedes-AMG Project ONE

Mercedes-AMG Project ONE

          ส่วนมอเตอร์อีก 2 ตัวที่เหลือใช้ขับเคลื่อนล้อคู่หน้าโดยตรงแบบแยกกันอิสระซ้าย-ขวา (ซึ่งเกี่ยวข้องกับระบบ Torque vectoring ทำให้กระจายแรงบิดในแต่ละล้อได้ต่างกันตามสถานการณ์) ให้ Output ที่ล้อหน้าข้างละ 120 kW (163 แรงม้า)

          โดยถ้ารวมกันทั้งระบบจะให้ Output 740 kW หรือสูงถึง 1,000 แรงม้า ซึ่งให้การตอบสนองแบบสายฟ้าฟาดแบบปราศจากอาการเทอร์โบแล็กซึ่งเหนือกว่าเครื่องยนต์เบนซิน V8 ที่ไม่มีระบบอัดอากาศแบบปกติ

Mercedes-AMG Project ONE

Mercedes-AMG Project ONE

          สิ่งที่น่าสนใจคือเทอร์โบอิเล็กทรอนิกส์ของ Mercedes-AMG Project ONE ยังสามารถนำพลังงานส่วนเกินจากไอเสียไปแปรเปลี่ยนเป็นกระแสไฟฟ้าเก็บเข้าแบตเตอรี่แบบ Lithium-ion ขนาดกะทัดรัดที่ให้แรงดันกระแสไฟฟ้าสูงถึง 800 โวลต์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับ Formula 1 ได้อีกด้วย

          ในส่วนของระบบกันสะเทือน Mercedes-AMG Project ONE นั้นแน่นอนยกรูปแบบมาจากรถแข่ง Formula 1 ซึ่งเป็นแบบ Pushrod โดยวางสปริงและโช้คอัปแนวตัดขวางกับทิศทางยุบ-ยืด (Traveling) ของล้อทั้งด้านหน้าและหลัง (ซูเปอร์คาร์และไฮเปอร์คาร์หลายรุ่นก็ใช้แบบนี้) เพราะช่วยลดอาการโคลง (Roll) ที่เกิดขึ้นเมื่อมีการเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็วได้ดีกว่า เพราะแรงกระทำที่เกิดขึ้นจากล้อจะถูกส่งผ่าน Pushrod ไปยังแดมเปอร์แบบอ้อม ๆ ในแนวราบแทนที่จะรับแรงนั้นโดยตรงในแนวดิ่งแบบรถยนต์ปกติ

          นอกจากนี้สปริงและแดมเปอร์ยังถูกปรับแต่งให้มีความสมดุลสูงสุดเพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมและเหนือสิ่งอื่นใดคือ Handling การขับขี่ที่เป็นสปอร์ต พร้อมกับระบบอิเล็กทรอนิกส์ช่วยเหลือทั้งระบบป้องกันล้อล็อก ABS และระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP ที่สามารถปรับได้ โดยแบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่

          - AMG. ESP® ที่ระบบ ESP จะเข้ามาช่วยอย่างเต็มที่เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
          - ESP® SPORT HANDLING MODE ระบบจะยอมให้รถออกอาการกวาดออกได้เล็กน้อยเพื่อความสปอร์ต
          - ESP® OFF คือการปิด ESP ให้ผู้ขับได้แสดงฝีมืออย่างเต็มในสนาม ซึ่งดิบและสปอร์ตเต็มเหนี่ยว


Mercedes-AMG Project ONE

Mercedes-AMG Project ONE

Mercedes-AMG Project ONE

          สำหรับงานออกแบบทั้งภายนอก-ภายในของ Mercedes-AMG Project ONE ก็อ้างอิงถึงรถแข่ง Formula 1 ไม่ว่าจะเป็นแบบล้อปิดหรือล้อเปิดล้วนต้องคำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์เพื่อให้มีแรงกดมหาศาลยามต้องใช้ความเร็วสูงครีบเลยเยอะแยะมากมายไปจนถึงโครงสร้างอันแข็งแกร่งที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์เป็นอันดับต้น ๆ เพียงแต่ Mercedes-AMG Project ONE ถูกออกแบบให้เป็นแบบสองที่นั่ง มีระบบปรับอากาศ กระจกไฟฟ้า และอุปกรณ์มาตรฐานแบบรถ Mercedes-Benz ปกติ รวมถึงระบบ COMAND ก็ถูกนำมาติดตั้งในโชว์คาร์คันนี้ด้วย

          เทคโนโลยีที่มีใน Mercedes-AMG Project ONE อาจจะไม่ได้ปรากฏในรถ Mercedes-AMG ที่จำหน่ายเสียทั้งหมด (ก็คงแล้วแต่รุ่น แพงมากแพงน้อย) แต่เทคโนโลยีจากสนามแข่งจะถูกถ่ายทอดจากยานแม่ไปสู่ยานลูกในอนาคตแน่นอน ถึงแม้ว่าอาจเป็นแค่ระดับ DNA ปลายแถวก็ตาม ซึ่งอย่างน้อยก็ถือว่าเป็นเชื้อสายเดียวกัน ส่วน Mercedes-AMG Project ONE ก็ไม่ได้มีการยืนยันว่าจะผลิตจริงหรือไม่ในตอนนี้

Mercedes-AMG Project ONE

Mercedes-AMG Project ONE

Mercedes-AMG Project ONE

Mercedes-AMG Project ONE

Mercedes-AMG Project ONE

Mercedes-AMG Project ONE

Mercedes-AMG Project ONE

Mercedes-AMG Project ONE

Mercedes-AMG Project ONE

Mercedes-AMG Project ONE

Mercedes-AMG Project ONE

Mercedes-AMG Project ONE

Mercedes-AMG Project ONE

คลิปจาก Mercedes-Benz :



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
Mercedes-AMG Project ONE เร็ว แรง มหัศจรรย์มาก จาก 0-200 กม./ชม. ภายใน 6 วินาที อัปเดตล่าสุด 19 กรกฎาคม 2564 เวลา 16:11:33 5,647 อ่าน
TOP