นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า การขับรถบนท้องถนน มีความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุฉุกเฉินจากสัตว์เดินหรือวิ่งตัดหน้ารถในระยะกระชั้นชิด ก่อให้เกิดอันตรายได้ โดยเฉพาะหากผู้ขับขี่ไม่มีความรู้และทักษะในการแก้ไขเหตุฉุกเฉินเฉพาะหน้าอย่างถูกวิธี ทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงมากขึ้น
สัตว์ประเภทนี้ ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นได้ในระยะไกล หากสัตว์เดินเข้ามาในช่องทางเดินรถหรือข้ามถนน ผู้ขับขี่ควรชะลอความเร็วหรือหยุดรถ รอจนกว่าสัตว์จะเดินผ่านไป จึงค่อยขับรถไปต่อ ที่สำคัญ ห้ามใช้แตรอย่างเด็ดขาด เพราะจะทำให้สัตว์ตื่นตกใจ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้
สัตว์ประเภทนี้มีพฤติกรรมตื่นตกใจง่าย ผู้ขับขี่จึงไม่สามารถคาดคะเนทิศทางการเดินหรือวิ่งของสัตว์เหล่านี้ได้ เพื่อความปลอดภัย ควรหลีกเลี่ยงการบีบแตรแบบเสียงยาวต่อเนื่อง
ให้บีบแตรสั้น ๆ หลาย ๆ ครั้ง หากสัตว์เหล่านี้วิ่งตัดหน้ารถในระยะกระชั้นชิด ควรจับพวงมาลัยให้มั่น ไม่หักหลบไปในทิศทางอื่น เพราะจะทำให้รถเสียหลัก ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรงได้
- วิธีปฏิบัติเมื่อพบช้างป่าบนถนน
หยุดรถให้ห่างจากช้างในระยะไม่ต่ำกว่า 30 เมตร หากช้างเดินเข้าหา ให้ขับรถถอยหลังอย่างช้า ๆ รอจนช้างเดินพ้นถนนไปสักระยะ จึงค่อยขับรถไปต่อ ไม่ใช้แตรรถหรือส่งเสียงดังเพื่อไล่ช้าง
เพราะช้างเป็นสัตว์ที่ไม่ชอบเสียงดัง อาจทำให้ช้างโกรธและเข้ามาทำอันตรายได้ ไม่ควรจอดรถแล้วลงไปถ่ายรูปกับช้างในระยะใกล้ เพราะหากช้างเข้ามาทำร้ายจะหนีขึ้นรถไม่ทัน รวมถึงงดใช้แฟลชในการถ่ายรูปช้าง เพราะแสงจากแฟลชอาจทำให้ช้างตกใจและเข้ามาทำอันตรายได้
ไม่ควรดับเครื่องยนต์ เพราะหากช้างเข้ามาทำอันตรายจะขับรถหนีไม่ทัน หากพบช้างในเวลากลางคืน ควรเปิดไฟรถไว้ เพื่อให้สามารถสังเกตอาการของช้าง และระยะห่างระหว่างรถกับช้าง ห้ามเปิดไฟกะพริบ เพราะแสงไฟจะสะท้อน เข้าตาช้าง และดึงดูดความสนใจของช้างให้เข้ามาหารถ
เมื่อรถติดอยู่ในวงล้อมของช้าง ตั้งสติให้มั่น แล้วค่อย ๆ ขับรถออกจาก วงล้อมของช้างอย่างช้า ๆ ให้เสียงเครื่องยนต์เบาที่สุด เพื่อไม่ให้ช้างตกใจและเข้ามาทำอันตราย ไม่ควรดับเครื่องยนต์ เพราะจะไม่สามารถขับรถหนีช้างได้ทัน
ท้ายนี้ การเรียนรู้วิธีปฏิบัติเมื่อมีสัตว์ตัดหน้ารถ และเมื่อพบช้างป่าบนถนน จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุในลักษณะรุนแรง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)
