นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ปัจจุบันรถจักรยาน เป็นยานพาหนะที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ทั้งการเดินทางในชีวิตประจำวัน การท่องเที่ยว และการออกกำลังกาย ซึ่งการใช้รถจักรยานในช่องทางเดินรถที่มีปริมาณการจราจรคับคั่ง ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
- ตรวจสอบรถจักรยานให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน โดยเฉพาะระบบเบรก ลมยาง โคมไฟหน้าและท้ายรถจักรยาน แถบสะท้อนแสงและกระดิ่ง
- ใช้อุปกรณ์นิรภัยทุกครั้งที่ขี่รถจักรยาน โดยสวมหมวกนิรภัยที่ได้มาตรฐาน มีขนาดพอดีกับศีรษะ กรณีเกิดอุบัติเหตุ จะช่วยป้องกันการบาดเจ็บรุนแรงบริเวณศีรษะ
- ควรติดแถบสะท้อนแสงที่หมวก สวมเสื้อผ้าสีสดใสหรือสะท้อนแสง เพื่อให้ผู้ขับรถคันอื่น มองเห็นได้ชัดเจนในระยะไกล จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
- ขี่รถจักรยานตามกฎจราจร โดยขี่ชิดช่องทางซ้ายสุดของเส้นทางเดินรถ หรือใช้ช่องทางที่กำหนดไว้สำหรับรถจักรยาน รวมถึงไม่ขี่รถย้อนศร เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
- เว้นระยะห่างจากรถคันอื่นให้เหมาะสม จะช่วยป้องกันการเฉี่ยวชน เพิ่มความระมัดระวังในการขี่รถจักรยานเป็นพิเศษ โดยใช้ความเร็วในระดับที่สามารถหยุดรถได้อย่างปลอดภัย
- ควรให้สัญญาณมือล่วงหน้าก่อนเลี้ยวรถ กรณีมีทางแยกหรือทางร่วม ให้ชะลอความเร็วรถและหยุดรถ พร้อมมองให้รอบทิศทาง
- กรณีจักยานจอดริมข้างทาง ให้ชะลอความเร็วหรือหยุดรถจักรยานก่อนขี่ผ่านรถที่จอดริมข้างทาง เพราะผู้ที่อยู่ในรถอาจเปิดประตูรถ หรือออกรถกะทันหันโดยไม่ให้สัญญาณไฟ ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
- กรณีขี่รถจักรยานในเวลากลางคืน ให้เปิดไฟหน้าและไฟท้ายรถ ใส่สายคาดหรือสวมเสื้อที่มีแถบสะท้อนแสง เพื่อให้ผู้ร่วมใช้เส้นทางมองเห็นได้จากระยะไกล จะช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ
- การขี่รถจักรยานในลักษณะที่เสี่ยงอันตราย ขี่รถจักรยานในลักษณะผาดโผน อาทิ ปล่อยมือจากคันบังคับทิศทางรถ นั่งบริเวณอื่นที่ไม่ใช่อานสำหรับเป็นที่นั่ง ปั่นรถจักรยานตามปกติ ขี่รถจักรยานในลักษณะขนานกันเกินสองคัน มีคนซ้อนหลายคน เกาะหรือพ่วงรถที่กำลังแล่นและบรรทุกน้ำหนักมากเกินไป ประกอบกิจกรรมอื่นขณะขี่รถจักรยาน ใช้โทรศัพท์หรือฟังเพลงขณะขี่รถจักรยาน ทำให้ขาดสมาธิ ไม่ได้ยินเสียงสัญญาณเตือน จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
ทั้งนี้ การปฏิบัติตามคำแนะนำในการใช้รถจักรยานอย่างปลอดภัย จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการสัญจรด้วยจักรยาน และลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)