เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2560 บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้จัดงาน Toyota Expo 2017 ขึ้นเป็นครั้งแรก เนื่องในโอกาส ครบรอบ 55 ปี มีการจัดแสดงหลายภาคส่วน ทั้งงาน CSR เพื่อตอบแทนชุมชน และครั้งนี้เราขอโฟกัสไปโซนที่สอง "ขับเคลื่อนความสุขสู่โลกอนาคต (Mobility of Happiness)" ภายในงาน Toyota Expo 2017
ในโซนสองเรื่องนวัตกรรมยานยนต์ของโตโยต้า ที่จัดแสดงการพัฒนารถยนต์ ระบบเชื้อเพลิงทางเลือกจนไปถึงระบบขับเคลื่อนแบบปลั๊กอินไฮบริด แต่เราก็สะดุดตรงเรื่อง
- ระบบการเดินทางทางเลือก (New Mobility Service in Thailand) เพื่ออำนวยความสะดวก และเพิ่มช่องทางการเดินทางในระยะสั้น ผ่านระบบ "Ha:mo" (Harmonious Mobility Network)
- แอปพลิเคชันค้นหาที่จอดรถ "Park & Go" เพื่อตอบรับการเปลี่ยนแปลงของโลกอนาคต และลักษณะการใช้ชีวิตของผู้คนในสังคมเมือง โดยจะเริ่มทดลองใช้ครั้งแรกในประเทศไทยภายในปีนี้
- เชื่อมโยงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รอบตัว เทเลเมติกส์ (Telematics) เพื่ออำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน
แน่นอนว่าระบบเหล่านี้ยังไม่เคยถูกติดตั้งมาก่อนสำหรับรถยนต์ Toyota โดยเจ้าหน้าที่ประจำจุดได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมไว้ว่า ในปีนี้รถยนต์รุ่นใหม่ของโตโยต้าจะเริ่มติดตั้งระบบ เทเลเมติกส์
อธิบายคร่าว ๆ ได้ข่าว เทเลเมติกส์ คือ GPS สำหรับรถยนต์ มีการรับ-ส่งข้อมูลแม่นยำ เชื่อมต่อกับบอร์ดของรถยนต์ นำมาประยุกต์ใช้ได้หลายรูปแบบ เช่น
- SOS แจ้งขอความช่วยเหลือฉุกเฉินได้อย่างแม่นยำ
- Remote Diagnosis หากรถมีปัญหา จะส่งข้อมูลออกไปให้ทางโตโยต้า และศูนย์บริการจะโทร. มาแจ้งโดยตรงกับเจ้าของรถได้ทันที
- Stolen Vehicle Tracking ป้องกันรถถูกโจรกรรม เพราะสามารถตรวจสอบตำแหน่งรถได้แบบเรียลไทม์
- Remote Control ควบคุมได้จากสมาร์ทโฟน
- Pay As Your Drive Insurance เมื่อตรวจสอบเรื่องการขับขี่ได้ ก็ประยุกต์ใช้กับประกันภัยที่คิดเป็นระยะทาง หรือเปิด-ปิดการประกันรถยนต์
- My Massage ส่งข้อโดยตรงจากโตโยต้าสู่รถ แต่อาจจะซัพพอร์ตกับรถที่มีระบบอินโฟเทนเมนต์แบบหน้าจอ
- Find My Car รู้พิกัดรถอย่างแม่นยำ จอดไว้ตรงไหน หากลืมก็ตรวจสอบและหารถได้ง่าย
- Toyota Wi-Fi ให้รถสามารถปล่อยอินเทอร์เน็ตไวไฟได้ แต่ต้องมีค่าบริการ
- Operater Sevice ระบบผู้ช่วยส่วนตัว
ย้ำอีกครั้งว่าระบบนี้จะถูกติดตั้งกับรถยนต์รุ่นใหม่ของ Toyota ที่จะเริ่มเห็นกันในปีนี้ และอนาคตอาจกลายเป็นมาตรฐานไปสำหรับรถยนต์ทุกรุ่นด้วยครับ
